การเดินทางเข้าไปสัมผัสความอร่อยของไอศกรีมในนครนิวยอร์ก รู้เลยว่า ประเทศไทยยังขาดไอศกรีมระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยม ในขณะกลุ่มผู้มีความพร้อมจ่ายยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก กอปรกับไอศกรีมคือสินค้าตอบโจทย์คนไทยมาเป็นเวลาช้านาน เรียกว่าเป็นเมนูคุ้นเคยด้วยเพราะประเทศไทยเป็นเมืองร้อน

ในปี 2557 “อีแม็ก แอนด์ โบลิโอส์” ไอศกรีมสัญชาติอเมริกัน ส่งตรงจากเมืองบอสตัน มลรัฐแมสซาชูเซตส์สหรัฐอเมริกา เข้ามาให้คนไทยได้ลิ้มรส โดยการนำมาของบริษัท เอ็นวายซี–ไทย บีดี จำกัด ระยะเวลาผ่านมาราว 1 ปี อีแม็ก แอนด์ โบลิโอส์ ในไทยก้าวสู่ 3 สาขา กับตัวเลขยอดขายแตะหลักล้านบาท

มั่นใจในคุณภาพ 22 รสชาตินำร่อง

คุณวลัยกรณ์ ไลน์เนอร์ ประธานบริษัท เอ็นวายซี–ไทย ดีบี จำกัด เล่าให้ฟังว่า หลังจากแต่งงานกับสามี คุณเบนจามิน ไลน์เนอร์ ซึ่งขณะนั้นประกอบธุรกิจส่งออกเสื้อผ้า โดยเปิดธุรกิจในประเทศไทย

“มีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวบ้านเกิดของสามีที่นิวยอร์ก ซึ่งตอนนั้นคุณเบน บอกว่าจะพาไปกินไอศกรีมแท้ๆ ซึ่งเขากินมาตั้งแต่เด็กๆ งงเลย ไอศกรีมมันมีของแท้ของปลอมด้วยเหรอ จนกระทั่งได้ไปลิ้มรสจึงเข้าใจว่าที่แท้ๆ นั้นเป็นอย่างไร ไอศกรีมของเขามีความละเอียด เนื้อแน่นเนียน รสชาติเข้มข้น ซึ่งเราไม่เคยกินแบบนี้มาก่อน คุณเบนบอกว่ายังหาไอศกรีมคุณภาพแบบนี้ที่ประเทศไทยไม่ได้เลย ตอนนั้นก็พูดทีเล่นทีจริงว่าถ้าอย่างนั้นก็นำเข้าไปขายเลยมั้ย”

หลังใช้ชีวิตกับการทำธุรกิจเสื้อผ้าอยู่อีกนานนับปี กระทั่งเกิดปัญหาซบเซา จึงคิดหาทางสร้างอาชีพไว้รองรับ และไอศกรีมภายใต้แบรนด์ อีแม็ก แอนด์ โบลิโอส์ ก็ผุดขึ้นในความคิดอีกครั้ง

“ตอนที่ตัดสินใจจะทำ ทั้งญาติ ทั้งเพื่อน ถามเป็นเสียงเดียวกันว่าแน่ใจแล้วเหรอ เพราะไอศกรีมในประเทศไทยเยอะมาก แค่ดูในห้างก็ไม่รู้กี่แบรนด์แล้ว และล้วนเป็นที่รู้จักดีของผู้บริโภค ในขณะที่ดิฉันและคุณเบนไม่เคยทำธุรกิจอาหารมาก่อน และแบรนด์นี้คนไทยก็แทบจะไม่รู้จัก แต่ถึงอย่างไรเรามั่นใจว่าคนไทยต้องชอบรสชาติแน่ๆจึงลงมือเข้าไปติดต่อกับเจ้าของผู้ผลิต และศึกษาวิธีดำเนินธุรกิจ ซึ่งธุรกิจนำเข้าสินค้าประเภทอาหารจะมีขั้นตอน โดยเฉพาะการยื่นขอเครื่องหมาย อย. ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปีกว่าจะผ่าน ส่วนการติดต่อกับบริษัทผู้ผลิต ณ เมืองบอสตัน มลรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาอยู่ในรูปแบบแฟมิลี่ ไม่มีปัญหาเลย เนื่องด้วยเขารู้จักประเทศไทย และเข้าใจในความตั้งใจจริงของเรา”

เริ่มต้นกับการนำเข้าไอศกรีมสำเร็จรูป 22 รสชาติ โดยกำหนดยอดสั่งซื้อครั้งละ 3,000,000 บาท กระทั่งขยับเพิ่มเป็น 34 รสชาติ โดยเมนูซิกเนเจอร์ ได้แก่ ดิออริจินัลโอรีโอ ที่คุณวลัยกรณ์ ว่า อีแม็ก แอนด์ โบลิโอส์ เป็นรายแรกที่คิดสูตรขึ้นมา และสร้างยอดขายได้ดี

“เท่าที่เปิดตลาดในประเทศไทย ซิกเนเจอร์ อาจไม่ใช่เมนูขายดีสุด แต่ทุกรสชาติระดับยอดขายดีพอๆ กัน ส่วนกลุ่มเป้าหมายที่เราวางไว้เริ่มต้นคือ วัยรุ่น และก็กลุ่มนี้แหละที่ทำให้ อีแม็ก แอนด์ โบลิโอส์ เป็นที่รู้จัก จนเกิดปรากฏการณ์ต่อแถว หลังตั้งร้านไปได้ราว 2 เดือน”

ซื้อ แช้ะ โชว์ ไอศกรีมเด่น โคนดัง

จากหน้าร้านแรกที่ตั้งอยู่ นิชดา พลาซ่าในโครงการหมู่บ้านนิชดาธานี ย่านปากเกร็ด ซึ่งคุณวลัยกรณ์ให้เหตุผลถึงการเลือกทำเล ด้วยเพราะเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ กลุ่มผู้อยู่อาศัยส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งหลายคนรู้จักแบรนด์สินค้าดี อีกทั้งยังมีโรงเรียนนานาชาติตั้งอยู่ จึงทำให้ยอดขายไปได้สวย

แต่กับสาขา 2 ที่ขยับเข้าใกล้ผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ ในศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์คุณวลัยกรณ์ให้เหตุผลว่า “เซ็นทรัล เวิลด์ จะเป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์คุณภาพอยู่แล้ว ทำให้การเข้าถึงเป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่ว่าในช่วงแรกต้องอาศัยวิธีทำตลาดพอสมควร เหนื่อยหน่อย ให้เขาได้ชิมจนจุใจ และอธิบายความเป็นมา เพราะแม้แบรนด์นี้จะถือกำเนิดมาราว 40 ปีแล้ว แต่กับคนไทย แทบจะไม่รู้จัก ฉะนั้นจึงต้องอาศัยบริการเข้าช่วย

ด้วยความเชื่อมั่นในรสชาติ เมื่อลูกค้าได้ชิม ต่างกลับมาซื้อซ้ำ และได้รับเสียงบอกต่อ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ซึ่งกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นเมื่อได้มาทานแล้วต่างโพสต์รูป แสดงความคิดเห็น ทำให้อีแม็ก แอนด์ โบลิโอส์ เป็นแบรนด์ที่เข้าไปอยู่ในใจลูกค้าได้ในเวลาอันรวดเร็ว

โคน สำหรับใส่ไอศกรีม คือความต่าง ที่สามารถฉุดดึงลูกค้าให้หันมาสนใจ และกลับมาซื้อซ้ำ โดยการตกแต่งให้มีรสชาติหลากหลาย อย่างโคนมาร์ชเมลโลว์ ที่โรยหน้าด้วยคุกกี้โอรีโอ ซีเรียลข้าวพอง ฟรุตลูป โคโค่พัฟ เป็นต้น

นอกจากนั้นยังมีโคนชุบช็อกโกแลต โรยหน้าด้วยส่วนผสมต่างๆ อาทิ ถั่ว มะพร้าวขูด สปริงเคิลส์ช็อกโกแลต สปริงเคิลส์สีรุ้ง เป็นต้น โดยกำหนดราคาขายไว้ในส่วนของโคน โคนละ 70 บาท และไอศกรีม กำหนดราคาสคูปละ 120 บาท ซึ่งถ้าซื้อเพิ่มจำนวนราคาจะลดหลั่นลงมา

 “ส่วนใหญ่ลูกค้าจะชอบเลือกซื้อโคนที่มีรสชาติแตกต่าง แม้จะต้องเพิ่มเงินก็ตาม แต่ว่าถ้าลูกค้าท่านใดต้องการลิ้มรสเนื้อไอศกรีมอย่างเดียว ก็สามารถซื้อใส่โคนธรรมดา ซึ่งเราไม่บวกราคาเพิ่ม หรือจะเป็นถ้วยกระดาษก็ได้ หรือบางท่านมากันเป็นกลุ่ม ต้องการเลือกไอศกรีมใส่โคนสองสามลูก เราก็บริการ ซึ่งต้องบอกเลยว่ารูปแบบซื้อขายเช่นนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยนะ คนไทยทำให้ดังเลย โดยเฉพาะบนโลกไอที”

ร้อน รอต่อแถว สาขาใหม่ ขยายเอง

คุณวลัยกรณ์ ยังกล่าวถึงการผลิตโคนว่า ต้องเข้าไปเรียนรู้สูตรการผลิตจากต้นตำรับ แล้วนำมารังสรรค์โดยทีมงานของตนเอง ด้วยเพราะการนำเข้าโคนสำเร็จรูป ไม่สามารถทำได้ ด้วยเพราะกระบวนการขนส่งจัดเก็บไม่สามารถคงคุณภาพได้ดีพอ แต่กระนั้นก็ไม่เคยมองข้ามความพิถีพิถันและคุณภาพของสินค้าที่ทุกส่วนผสมวัตถุดิบเลือกใช้เกรด A และวัตถุดิบบางรายการนำเข้าจากต่างประเทศ

กับการนำเข้าไอศกรีมมาพร้อมจำหน่ายในประเทศไทย เริ่มต้นในเดือนมีนาคม ซึ่งถือว่าเข้าสู่ฤดูร้อน และแม้จะเป็นไอศกรีมน้องใหม่ที่คนไทยยังไม่คุ้นหูคุ้นตา แต่ทว่ากลับทำยอดขายแตะหลักล้าน และจนถึงวันนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะตก

“ฤดูร้อนคนต่อแถวรอเลย พอมาในปีนี้ ช่วงเดือนมกราคม ยอดขายอาจลงไปบ้าง เพราะเข้าใจว่าผู้คนมีสิ่งที่ต้องจับจ่ายกันมาก แต่พอมาถึงเดือนมีนาคม ลูกค้าเริ่มกลับมาคึกคักอีกแล้ว”

เมื่อลงสู่สนามค้าขายได้ระยะหนึ่งทำให้เห็นโอกาสและช่องทางขยับขยายสาขาได้อีก ด้วยเหตุนี้คุณวลัยกรณ์จึงมุ่งเพิ่มหน้าร้าน โดยสาขาล่าสุดตั้งอยู่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ต่อจากนั้นเตรียมเปิดสาขาที่ 4 ที่ศูนย์การค้า ดิ  เอ็มควอเทียร์ สาขาที่ 5 สยามเซ็นเตอร์ และกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนติดต่อกับห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ เพื่อเปิดสาขาที่ 6 ตามมา

“ปัจจุบันมีผู้สนใจจำนวนมาก ต้องการซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์ ซึ่งเราก็ได้สิทธิ์นั้นมาจากบริษัทแม่ให้ดำเนินธุรกิจรูปแบบนี้ได้ แต่ตอนนี้ขอขยายสาขาด้วยตัวเองก่อน เพราะถ้าจะรับผู้สนใจลงทุน ก็ต้องการให้เจ้าของลงมือทำเอง เพราะจะทำให้เข้าถึงธุรกิจ เหมือนกับเรา 2 คนที่ทุกวันนี้ก็เข้ามาดูแลธุรกิจด้วยตัวเอง ยิ่งเรื่องการให้บริการบอกเลยว่าสำคัญมาก เราขายไอศกรีมระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยม การบริการก็ต้องเป็นไปตามนั้นด้วย” คุณวลัยกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

สนใจลิ้มรสไอศกรีมสัญชาติอเมริกัน เดินทางไปได้ตามสาขาเปิดให้บริการ แต่หากต้องการติดต่อธุรกิจ บริษัท เอ็นวายซี–ไทย บีดี จำกัด ตั้งอยู่ อาคารบีบี ห้องเลขที่ 1045 เลขที่ 54 สุขุมวิท 21 (อโศก) ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ 10110 หรือโทรศัพท์ (02) 259-1193 หรือ facebook.com/EmackandBoliosThai