มิตาซึ กริลล์ ที่สุดความอร่อย ของเนื้อหมู

ย้อนอดีตไป 5 -6 ปีที่แล้ว ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นและเกาหลี หาทานค่อนข้างยาก ต้องย่านทองหล่อ เอกมัย และ“บาร์บีคิว พลาซ่า”ถึงจะได้กิน

แต่เวลานี้เมนูดังกล่าวยึดพื้นที่ไว้หมด  ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า  คอมมูนิตี้ มอลล์  ร้านสแตนอโลน มูลค่าอาหารปิ้งย่าง ณ สิ้นปี 2013 เฉพาะร้านที่ขึ้นห้างอย่างเดียวมีมูลค่า 3,600 ล้านบาท แถมมีแนวโน้มจะเติบโตเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้จะยั่งยืนแค่ไหนขึ้นอยู่กับความอร่อย วัตถุดิบที่ใช้ และการตลาดที่ดี

ธุรกิจฟาร์มหมู ปัญหาเพียบ
ตลาดสำคัญ มองข้ามไม่ได้
“มิตาซึ กริลล์” ร้านอาหารปิ้งย่างที่กล้าการันตีว่าเป็นที่สุดความอร่อยของเนื้อหมู เป็นร้านปิ้งย่าง ที่เดียวที่มีฟาร์มหมูเป็นของตัวเอง คุณภาพของเนื้อหมูที่ใช้เป็นคุณภาพเดียวกันกับเนื้อหมูที่ส่งออกไปต่างประเทศ ปลอดภัยจากสารตกค้างและปราศจากสารเร่งเนื้อแดง 100%

1533-150331110409

คุณจิตติพัฒน์ ดวงพลอย ผู้บริหารร้าน มิตาซึ กริลล์ เท้าความว่า ก่อนจะเปิดร้านอาหาร ทำฟาร์มเลี้ยงหมูมานานกว่า 30 ปี มี 2 แห่ง จ.นครปฐม และราชบุรี คลุกคลีอยู่กับเรื่องหมูมาตลอด จำหน่ายในประเทศ อาทิ วิลล่า มาร์เก็ต ร้านแมคโดนัล เบอร์เกอร์คิงส์ เเละส่งออกต่างประเทศ มีญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน กระทั่งปี 2556 มีความตั้งใจอยากให้ผู้บริโภคได้ลองชิมเนื้อหมูที่เลี้ยงด้วยใจ ดูแลอย่างดี รวมถึงต่อยอดธุรกิจฟาร์มหมู เลยเปิดร้าน “มิตาซึ กริลล์” เป็นร้านปิ้งย่าง ที่ใช้หมูจากฟาร์มขั้นดี

สำหรับฟาร์มหมูของคุณจิตติพัฒน์ ใช้ชื่อว่า บริษัท เอฟเอ็มเอฟ  เซอร์วิส แอนด์ รีเทลลิ่ง จำกัด  ตั้งอยู่เลขที่ 91/9 หมู่ที่ 2 ตำบลงิ้วราย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ทำธุรกิจเกี่ยวกับสุกรครบวงจร มีทั้งฟาร์มพ่อแม่พันธุ์ ฟาร์มหมูขุน และโรงฆ่าชำแหละเพื่อการส่งออก รวมถึงการจัดจำหน่ายสินส่วนต่างๆ ให้กับห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ทั้งในและต่างประเทศ

บริษัท เอฟเอ็มเอฟ  เซอร์วิส แอนด์ รีเทลลิ่ง จำกัด ก่อตั้งปี 2524 ที่จังหวัดนครปฐม โดยเริ่มจากการทำฟาร์มพ่อแม่พันธุ์และฟาร์มหมูขุน ซึ่งการทำฟาร์มหมูนั้น เจ้าของฟาร์มบอกว่า ประสบปัญหามาก โดยเฉพาะด้านการตลาด อาทิ  เลี้ยงได้ ขายไม่ได้ เลี้ยงได้ เก็บเงินไม่ได้ เลี้ยงได้ขายได้ราคาเท่าไรยังไม่รู้ วงจรของหมูในสมัยก่อนเรียกว่าไม่มีความแน่นอน อาจได้กำไร 1 ปีขาดทุนอีก 3 ปี

1533-150331110814

ชำแหละหมู ปีละสองแสนตัว
ส่งขายทั้งในและต่างประเทศ
จากปัญหาด้านการตลาดที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็นโจทย์ที่ผู้บริหารนำกลับมาคิด เพื่อให้กิจการอยู่รอดจนกระทั่งพบจุดอ่อนนั่นคือ “ตลาด”

“ผมไม่เคยคิดเรื่องการตลาดเลย คิดแต่เรื่องในฟาร์ม เลี้ยงหมูในฟาร์มให้ดี เลี้ยงแม่พันธุ์ให้ออกลูกมาเยอะๆ ขุนหมูให้โตเร็วได้น้ำหนักตามที่ตลาดต้องการ แล้วให้คนมาซื้อหมูไปก็เท่านั้น ผมขาดทุนตลอดจนต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจฟาร์มหมู ด้วยการเอาตลาดนำ”

จากปัญหาด้านการตลาด ผู้ประกอบการเริ่มทยอยเก็บข้อมูล อาทิ แต่ละปีผลิตหมูได้เท่าไหร่ ขายหมูได้กี่ตัว เมื่อคำนวนได้แล้วจึงย้อนกลับมาคิดว่าแล้วต้องเลี้ยงแม่พันธุ์เท่าไร ผลิตลูกออกมาได้เท่าไร หมูในฟาร์มที่ผลิตได้เกินหรือไม่ ชนิดว่าเอาตลาดเป็นตัวตั้ง

“การที่ผมเอาตลาดเป็นตัวตั้ง จึงรู้ว่าว่าต้องผลิตหมูขุนออกมาเท่าไร ปัจจุบันบริษัทต้องใช้หมูเข้าชำแหละ วันละ 500   ตัว เท่ากับว่า 1 ปี หรือ365 วัน ต้องมีปริมาณหมูที่ผลิตออกมาไม่ต่ำกว่า 182,500 ตัว จากนั้นจึงนำมาวางแผนการผลิต “

1533-150331110359

ทุกวันนี้ลูกค้าของบริษัท เอฟเอ็มเอฟฯ  มีทุกระดับ ตั้งแต่ตลาดสด ร้านอาหาร ไปจนถึงลูกค้าต่างประเทศ สำหรับสัดส่วนการตลาด คุณจิตติพัฒน์ บอกว่า ตลาดในประเทศประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ และตลาดต่างประเทศประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์

“หลักการของผมในการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ ไม่ได้ทำเรื่องซับซ้อนเลย สิ่งที่ต้องทำมี 3 สิ่ง คือ ส่งของให้ครบ ส่งของให้ถูกตามสเปค ส่งของให้ถูกต้องตามเวลา”

นอกจากฟาร์มหมู บริษัท เอฟเอ็มเอฟฯ ยังได้ขยายไลน์ธุรกิจสู่ธุรกิจร้านอาหารปิ้งย่าง ภายใต้ชื่อ ร้านมิตาซึ กริลล์ ซึ่งชายหนุ่ม บอกว่า เป็นร้านเดียวที่มีฟาร์มหมูเป็นของตัวเอง ปัจจุบัน มี 4 สาขา

เปิดร้านปิ้งย่าง ต่อยอดธุรกิจ
สำหรับวัตถุประสงค์ของการเข้ามทำในธุรกิจร้านอาหาร เจ้าของ เผยว่า ต้องการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายที่เป็นของตัวเอง พิ่มมูลค่าของหมูที่เลี้ยง และที่สำคัญอีกประการ คือ การได้สัมผัสกับผู้บริโภคโดยตรง จะเป็นอีกช่องทางในการทำได้ข้อมูลเกี่ยวความต้องการความรู้สึกของผู้บริโภคเนื้อหมูและชิ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจในอนาคตได้

ร้านมิตาซึ กริลล์ มีเนื้อหมูมากถึง 16 รายการ อาทิ “มิตาซึ สตริป” คือชิ้นเนื้อพิเศษที่วิ่งเป็นริ้วยาวๆ อยู่ข้างสันนอก เมื่อย่างเนื้อแล้ว เวลาเคี้ยวจะนุ่มมีมันแทรกเล็กๆ  “ลอยสไลซ์” สไลซ์สันนอก มีการปรุงรสใส่น้ำราดเป็นรสต่างๆ  “บุโกกิ ริบส์” เป็นซี่โครงหมูที่หมักในซอสสูตรของมิตาซึ “มิตาซึสเปเชี่ยล” ทั้งประเทศมีที่นี่ร้านเดียว เป็นชิ้นเนื้อที่มีมันแทรก คัดชิ้นเนื้อออกมาแล้วสไลซ์เสิร์ฟให้ลูกค้าของมิตาซึเท่านั้น

1533-150331111013

หมูที่ทางร้านนำมาเสิร์ฟมีอายุ  6 เดือน เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว บางเมนูก็ปรุงรสชาติจัดจ้าน ทานอร่อยไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเพิ่ม ส่วนน้ำจิ้ม-น้ำซอส เป็นสูตรพิเศษ มี 3 ชนิด คือ มิตาซึซอส มิโซะเต้าเจี้ยวหวาน และน้ำจิ้มซีฟู้ด รสชาติกลมกล่อม ขณะเดียวกันยังคงได้รับรสชาติของเนื้อหมู หรืออาหารต่างๆ ที่ปิ้งย่าง

คัดสรรทุกอย่าง เพื่อลูกค้าชั้นดี
นอกจากความพิเศษของเนื้อสัตว์ ถ่านที่ใช้ปิ้งให้ทุกอย่างสุก เจ้าของร้านก็พิถีพิถัน เขาเลือกใช้ถ่านอัดที่ไม่มีทรายปน ถ่านชนิดนี้จะให้ความร้อนสม่ำเสมอ คุมความร้อนได้ดี ระอุถึงเนื้อด้านในของอาหาร ราคาถ่านกิโลกรัมละ 16 บาท

ไม่ใช่แต่เมนูปิ้งย่าง หรือ บุฟเฟต์เพียงอย่างเดียว ทางร้านนี้มีเมนูประเภท เทปันยากิ ทงคัตซึ ข้าวหน้าต่างๆ มิตาซึเทปันยากิ สเต๊ก บูตะหมูหั่นแบบลูกเต๋า สามารถบริการลูกค้าที่ต้องการความเร่งด่วน

1533-150331110513

ด้านราคา ถ้าเป็นบุฟเฟต์ มิตาซึโกลด์ ราคา 389 บาท หรืออยากทานชิ้นเนื้อพิเศษเพิ่ม ก็เป็นมิตาซึแพลทินัม เพิ่มเพียง 99 บาท ราคานี้รวมเครื่องดื่ม ขนมหวาน ผลไม้ ซอฟต์ดริงก์ทุกอย่าง หรือเลือกกินเป็นจานๆ แบบอลาคลาส เริ่มต้นอย่างละ 40 บาทเท่านั้น

ร้านมิตาซึ กริลล์ มี 4 สาขา  สาขาแรกที่ศาลายา ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยมหิดล นครปฐม เปิด 15.00-22.00 น. สาขาสองอยู่ที่เมืองเอกใกล้กับมหาวิทยาลัยรังสิต เปิด 15.00-22.00 น.  สาขาสามคือ เดอะคริสตัล ราชพฤกษ์ เปิด 10.00-22.00 น. และสาขาสี่ ตั้งอยู่ที่วิกตอเรีย การ์เดนส์ เพชรเกษม ซอย 69 เปิด 10.00-22.00 น. โทร.(02) 021-6744