เผยแพร่ |
---|
กำลังเป็น “ทอล์ก” อย่างกว้างขวาง ในหมู่วัยรุ่นน้อย-ใหญ่ ไล่ไปจนถึงหนุ่มสาวชาวออฟฟิศทั้งหลาย
สำหรับ Mother Trucker BKK (มาเธอร์ ทรักเกอร์ แบงค็อก) ร้านเบอร์เกอร์เคลื่อนที่สไตล์อเมริกัน
กับสโลแกน 3 คำ
“สะใจ ใหญ่ โหด”
คุณอาร์มี่ หิญชีระนันทน์ 1 ใน 3 ของหุ้นส่วนกิจการ Mother Trucker BKK หนุ่มอัธยาศัยดี วัย 24 ปี ให้ข้อมูลด้วยน้ำเสียงร่าเริง เริ่มต้นให้ฟัง เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเซนต์คาเบรียล จบปริญญาตรีสาขาวิชาธุรกิจระหว่างประเทศ (International Business) จากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล
ก่อนหน้านี้เคยทำงานประจำเป็นผู้ช่วยวิทยากรรับจัดอีเว้นต์ เพราะอยากเรียนรู้การบริหารจัดการเกี่ยวกับผู้คน ทำอยู่ 1 ปีลาออกมาทำงานกองถ่าย อยู่ฝ่ายสถานที่ ก่อนออกมาทำธุรกิจส่วนตัว โดยชักชวนเพื่อนซี้อีก 2 คน คือ บุช-ธนาวุฒิ อภิธนาคุณ และ ม้ง-คณิต ประภา มาลงหุ้นทำเบอร์เกอร์ขาย
โดยได้ไอเดียริเริ่มมาจากของต่างประเทศ ซึ่งมีรถขายอาหารหน้าตา “เท่-เท่” กันหลายแบบ ขณะที่ในบ้านเรามีแต่รถเร่ขายลองกอง ขายทุเรียน หรือผลไม้ทั่วไป
เลยคิดลองทำอาหารขายบนรถ ให้ดูแปลกตาออกไป เพราะเมืองไทยยังไม่ค่อยมีใครทำ
และเมื่อมีต้นแบบมาจากชาวอเมริกัน อาหารประจำชาติที่เป็นเอกลักษณ์มากสุด คงหนีไม่พ้น “เบอร์เกอร์”
“ปกติเป็นคนชอบทำอาหารในสายเบเกอรี่อยู่ก่อนแล้ว ก่อนหน้านี้มักชอบทำกินเอง เพราะเชื่อใจได้ว่าสะอาดกว่าที่ซื้อเขากิน ซึ่งไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง” คุณอาร์มี่ บอก
ส่วนแนวคิดของอาหารที่ออกมานำเสนอนั้น เจ้าของกิจการ บอก เบอร์เกอร์ในแบบของเขาไม่ใช่ฟาสต์ฟู้ด แต่เป็นเบอร์เกอร์ทำสด สั่งแล้วไม่ใช่ว่าจะได้ทานเลย บางครั้งกรณีที่คิวยาวอาจต้องรอถึง 45 นาที เพราะทำกันใหม่สดทุกชิ้น
และไม่ใช่จังก์ฟู้ด แต่เป็น “กูร์เมต์ เบอร์เกอร์” ที่มีคุณค่าทางสารอาหารเต็มที่ ดีกว่าอาหารอื่นหลายอย่าง มีทั้งโปรตีนจากเนื้อสัตว์-ผักสด และคาร์โบไฮเดรตจากขนมปังทำเอง
ซึ่งเหตุผลของแนวคิดเหล่านี้ น่าจะเป็น “แม่เหล็ก” ชั้นดี สามารถดึงดูดให้ลูกค้าทยอยมาอุดหนุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อถามถึงการลงทุน คุณอาร์มี่ บอก แบ่งเป็น 3 หุ้น ลงเงินรวมกันแล้วหลายแสนบาท ส่วนใหญ่เป็นค่าเครื่องจักร เพราะตั้งใจไว้จะทำให้เป็นธุรกิจระยะยาว
ก่อนเล่าต่อ เปิดขายครั้งแรกแถวย่านบางลำภู เมื่อราวเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ลูกค้ากลุ่มแรกๆ ส่วนใหญ่เป็นรุ่นพี่-รุ่นน้องสมัยเรียน ทำให้ขายดีหมดเกลี้ยงทุกวัน แต่เหลือกำไร 2 วันแค่ 1,000 บาท เลยต้องมาปรับการคำนวณต้นทุนและวัตถุดิบกันใหม่ ใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงเข้าที่เข้าทาง
“ทุกวันนี้ผลตอบแทนดีมากครับ ทะลุยอดที่เคยวางไว้ ไปไกลแล้ว และพอมาทำตรงนี้ ทำให้เห็นโอกาสในการสร้างธุรกิจอื่นเพิ่มเติม เร็วๆ นี้เลยจะมีโปรเจ็กต์ใหม่ อยากให้ติดตามกัน แต่ตอนนี้ต้องขออุบไว้ก่อน” คุณอาร์มี่ เผยให้ฟังอย่างนั้น
เกี่ยวกับช่องทางจำหน่ายทุกวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นการรับออกตามอีเว้นต์ของบริษัทหรือหน่วยงานต่างๆ แต่ถ้าไม่มีใครเรียกใช้บริการ ก็จะยึดทำเลย่านบางลำภูเป็นหลัก โดยจะเปิดร้านประมาณ 1 ทุ่มไปจนถึง 5 ทุ่ม หากลูกค้าวอล์กอินต้องการอุดหนุน คงต้องติดตามความเคลื่อนไหวทางเฟซบุ๊กก่อน ว่าตอนนั้นไปออกร้านงานเหมาที่ไหนหรือเปล่า
เห็นขายดิบขายดีอย่างนี้ ไม่คิดมีโครงการขยับขยายสาขาบ้างหรืออย่างไร ได้คำตอบน่าสนใจ
“มีรถไว้แค่คันเดียวดีกว่า ให้ลูกค้าหากินยากนิดหนึ่ง (หัวเราะ) แต่ถ้าจะมีอีกคัน คงไปอยู่กันคนละทำเล แบบไกลๆ ไปเลย อย่าง เชียงใหม่ น่ะครับ”
สงสัยในความคึกคักของตลาด “เบอร์เกอร์” ชั่วโมงนี้ เป็นอุปสรรคด้านคู่แข่งบ้างหรือเปล่า คุณอาร์มี่ บอก น่าจะเป็นการเปิดตลาดให้กับเบอร์เกอร์อีกครั้ง เพราะมีตัวเลือกมากขึ้น ทำให้คนหันมาทานกันมากขึ้น ฉะนั้น เรื่องคู่แข่งไม่น่าหนักใจ
สำหรับเมนูเรียกลูกค้าของกิจการนี้ มีแค่ 2 แบบ คือ หมูกับเนื้อ แบ่งเป็นแบบมาตรฐานกับแบบพรีเมี่ยม ที่จะเพิ่มชีสกับเบคอนให้ ราคาเริ่มต้น 90 บาท สูงสุด 250 บาท
“เบอร์เกอร์ของเราเปลี่ยนตามงานเทศกาล ดัดแปลงได้ทุกอย่าง เพราะทำขนมปังเอง อย่างขนมปังสีดำช่วงวันฮาโลวีน ใช้ผงชาร์โคล ช่วงคริสต์มาสใช้ขนมปังสีเขียว สีแดง ซึ่งเรียกความสนใจได้ดีทีเดียว” คุณอาร์มี่ บอกทิ้งท้าย
สนใจอยากอุดหนุน เบอร์เกอร์เด็กแนว Mother Trucker BKK ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook/Mother Trucker BKK หรือโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณอาร์มี่ (085) 121-3767