เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ.2567

ฟังไว้! ถ้าอยาก “ผัดผักบุ้ง” ให้สีเขียวสด ไม่เหี่ยว น่ารับประทาน

ฟังไว้! ถ้าอยาก “ผัดผักบุ้ง” ให้สีเขียวสด ไม่เหี่ยว น่ารับประทาน

เป็นปัญหาสำหรับคุณแม่บ้าน หรือพ่อครัวหลายคน ที่อยากจะผัดผัก โดยเฉพาะผัดผักบุ้ง ให้ออกมาเขียวสดน่ารับประทาน แต่ก็ยากซะเหลือเกิน เพราะเมื่อผักโดนความร้อนสีและรูปร่างก็เปลี่ยนไป เช่นเคยกับ เพจ เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว ได้มาบอกเคล็ดลับการทำผัดผักบุ้ง ให้กับพ่อครัว แม่ครัวทั้งหลาย ไว้ปรับใช้ในครัวเรือน ว่าทำอย่างไร ผักบุ้งจะไม่เหี่ยว แถมยังเขียวสดน่ารับประทานอีกด้วย

โพสต์ดังกล่าวระบุว่า

“การแช่ผักบุ้งน้ำในสารละลายเบกกิ้งโซดาก่อนผัด สามารถทำให้ผัดผักบุ้งที่ได้เขียวสวย และไม่เหี่ยวเหนียวได้ด้วย หลายๆ คนคงเคยได้ยินว่าสารละลายเบกกิ้งโซดา เพียงแค่ 1% นั้นสามารถใช้ล้างผักได้ดี

นอกจากนั้นก็ยังใช้สำหรับแช่ผักที่ผัดยากอย่างผักบุ้งน้ำ ก่อนผัดด้วย เนื่องจากก้านของเขาแข็งเหนียวสุกยาก ในขณะที่ใบนั้นมีความอ่อนนุ่มสุกง่าย จึงทำให้เป็นผักที่ผัดยากเหลือเกิน เพราะถ้าผัดใช้เวลาสั้นเกินไป ก็จะทำให้ก้านมีกลิ่นเหม็นเขียวและพานจะดำหมองคล้ำง่าย เพราะสุกไม่เต็มที่ ในขณะที่พอผัดนานไปก้านจะเหี่ยวฟีบเหนียว และใบจะเหี่ยวเหนียวไปโดยปริยาย จนกระทั่งหลายๆ คนหนีไปกินผักบุ้งจีนกันเป็นทิวแถวเลย

การแช่ผักบุ้งน้ำหลังหั่นแฉลบเป็นท่อน ที่ล้างมาแล้ว โดยแช่ในสารละลายเจือจางของเบกกิ้งโซดา โดยใช้เพียงปลายช้อนชาในน้ำ 3 ลิตร นานสัก 10-15 นาที แล้วนำมาล้างน้ำซ้ำอีกครั้งเบาๆ ปล่อยสะเด็ดน้ำ ทุบกระเทียม ซอยพริก (หรืออาจจะบุบตามใจชอบโรยโปะไปบนกองผักบุ้งที่หั่นแล้วนั้น) ใส่เครื่องปรุงรสอย่างน้ำตาลทรายเล็กน้อย (แอดไม่ใส่ผงชูรส) และยังไม่ได้ใส่เต้าเจี้ยวแต่แรก เพราะกลัวเต้าเจี้ยวไหม้และเสียกลิ่นดีๆ ของเต้าเจี้ยวไป

อ่าข่าว พาไปดูวิธีการเก็บ “แครนเบอร์รี่” แบบลอยน้ำที่สหรัฐอเมริกา
อ่านข่าว “บุฟเฟ่ต์ 10 บาท” คนงบน้อยกินได้ ไม่คิดขึ้นราคา
อ่านข่าว ฟังทางนี้! 4 เดือนเกิดสุดเฮง ปีหน้ามีเกณฑ์รวย ดวงดีพุ่งกระฉูด

เนื่องจากเบกกิ้งโซดานั้นเป็นด่างอ่อน จึงทำให้คลอโรฟิลล์นั้นคงสภาพความเขียวได้ดี ในขณะที่ช่วยส่งเสริมความนุ่มนิดๆ ของใบผักบุ้ง และไม่ทำให้ก้านผักบุ้งนั้นแข็งเกินไปเวลาผัดจนสุก นอกจากนั้น ยังทำให้ก้านผักบุ้งน้ำนั้นมีความเต่งตึงของเซลล์อยู่ เนื่องจากการเพิ่มความอุ้มน้ำจึงไม่ทำให้เหี่ยวเหนียวเคี้ยวยากด้วย

หลังจากนั้นก็จัดแจงตั้งน้ำมันหมู (จะน้ำมันปาล์มหรือน้ำมันรำข้าวก็ไม่ว่ากันนะครับ ตามศรัทธาเลย) ในกระทะเหล็กไฟแรงจนกระทั่งไอน้ำมันขึ้นควันฉุย แล้วจัดการคว่ำผักบุ้งน้ำพร้อมพริกกระเทียม ปล่อยทิ้งไว้สัก 10 วินาที พอให้กลิ่นหอมกระเทียมเจียวพร้อมพริก แล้วโรยเต้าเจี้ยวตามใจชอบ ผัดเคล้าจนเริ่มสลด หาฝามาปิดครอบกระทะ แล้วหรี่ไฟเบาลงจับเวลาต่ออีกสัก 30-60 วินาที จนไอน้ำเริ่มเล็ดลอดออกมาจากขอบฝาที่ครอบนั้นออกมา

Note : ถ้าผักทุกชนิดนั้นสุกไม่พอ จะทำให้ดำอย่างรวดเร็วหลังจากที่ผัดเสร็จ

หลังจากนั้นก็เปิดฝาขึ้นมา ก็จะได้ผัดผักบุ้งน้ำที่มีความเขียวกรอบ และใบผักบุ้งสุกกำลังดี โดยที่ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวและยางของผักบุ้งน้ำเหลืออยู่อีกเลยนะครับ แล้วจึงจัดเสิร์ฟใส่จาน พร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ ที่แสนจะเข้ากัน”

ที่มา เพจ เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว