อดีตสาวออฟฟิศ ยึดอาชีพทำ “โตเกียวคาวหวาน 13 ไส้” ขายดิบขายดีวันละเป็นหมื่น

อดีตสาวออฟฟิศ ยึดอาชีพทำ “โตเกียวคาวหวาน 13 ไส้” ขายดิบขายดีวันละเป็นหมื่น

โตเกียวฟิวชั่นโตเกียว หนึ่งในขนมยอดนิยมตลอดกาลของคนไทย แม้เป็นธุรกิจเล็กๆ นอกสายตาใครหลายคนแต่หารู้ไม่ว่าอาชีพนี้ สามารถเปลี่ยนชีวิตของอดีตพนักงานออฟฟิศธรรมดาคนหนึ่ง ให้เป็นเจ้าของธุรกิจรายย่อย ที่สร้างรายได้หลักหมื่นต่อวัน เฉลี่ยเดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่าแสน

รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์

กว่าจะมีวันนี้ได้ คุณวิภา เขียวอรุณ วัย 40 ปี  เจ้าของธุรกิจ “โตเกียวซูโม่” ร้านดังย่านสาทร เธอเล่าให้  “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ฟังว่า ก่อนหน้านี้ ตนทำอาชีพเป็นพนักงานประจำออฟฟิศแห่งหนึ่ง แต่ทำไปได้สักระยะก็เกิดความรู้สึกว่า ตนเองทำงานหนัก แต่รายได้กลับน้อยนิด แถมถูกเอารัดเอาเปรียบจากหัวหน้างานอีก จึงลาออกมาขายลูกชิ้นทอดหน้าโรงเรียน แต่ลงทุนเยอะ กำไรน้อย ก็ไม่ประสบความความสำเร็จตามที่หวัง จนสุดท้ายหันมาทำโตเกียวขาย เพราะแม่ขายมาก่อนอยู่หลายปีแล้ว

รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์

คุณวิภา เล่าให้ฟังต่อว่า แม่มีอาชีพขายโตเกียว ข้างตึกเอ็มไพร์ สาทร มา 40 ปี ตนจึงขอรับช่วงต่อ ทำให้การลงทุนเรื่องของอุปกรณ์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จริงๆ เธอมีสูตรโตเกียวของแม่อยู่แล้ว จึงได้นำมาปรับใหม่ เป็นโตเกียวที่สามารถพบเห็นตามร้านทั่วไป เพราะตนคิดว่า “ถ้าอยากประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ เราต้องสร้างเอกลักษณ์ให้สินค้า” เธอจึงนำความรู้เรื่องของทอด มาใช้ในการพัฒนาไส้โตเกียว ทำให้ร้านได้รับความนิยมจากลูกค้า ถึงขนาดที่ว่า ยืนทำขายเพียงแค่ 3 ชั่วโมง ก็มีรายได้ในวันนั้นไปแล้วหลักหมื่นบาท  จนปัจจุบันต้องขยายสาขาเพิ่มถึง 3 สาขา

รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์

“กว่าจะสำเร็จแบบนี้เราต้องลองผิดลองถูก มาหลายรอบมาก ใช้เวลานานถึง 5 ปี เพื่อตีตลาด หัวใจหลักของการขายของต่อจากครอบครัว คือ การสร้างฐานลูกค้าประจำ เพราะลูกค้าจะติดแม่ค้ามาก                             เราเป็นคนขายใหม่ มาขายในพื้นที่ของแม่ ยังจำความรู้สึกช่วงนั้นได้เลยว่า ตอนเปิดร้านวันแรก ไม่มีใครรู้จักเราเลย ขายไม่ดี ทั้งที่เราเป็นเจ้าของสูตร” คุณวิภา กล่าว

รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์

โดยจุดเด่นของขนมโตเกียวซูโม่ คือ ไส้ขนมที่มีให้เลือกหลากหลายถึง 13 ไส้ ไม่ว่าจะเป็น ไส้กรอกแฮม หมูแฮม สเต๊กไก่ กุ้งเทมปุระ เบค่อนสับ ปลาชีท เบค่อนเห็ดเข็มทอง ไส้กรอกหมู ไก่ยอ ไก่ย่างจิ้มแจ่ว ไก่เทอริยากิ ไข่ และครีม ทุกไส้ขายเพียงชิ้นละ 15 บาท ยกเว้นไส้หวานที่ขาย 10 บาท และในช่วงเทศกาลกินเจ เพื่อเอาใจลูกค้าสายบุญที่อยากทานโตเกียว ทางร้านยังมีเมนูโตเกียวไส้เจขายด้วย

รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ : ไส้เห็ดเข็มทองพันเบค่อน
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ : ไส้เบค่อน
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ : ไส้หมูยอ
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ : ไส้หมูย่างเทอริยากิ

นอกจากนั้น คุณวิภายังเผยถึงเคล็ดลับของการทำซอสว่า ปกติตามตลาดทั่วไปจะใช้ซอสสำเร็จรูปมาเป็นวัตถุดิบในการทำ เธอก็ใช้เช่นกัน แต่นำมาปรับรสชาติ ด้วยการนำมาเคี่ยวใหม่ พร้อมปรุงรสให้เป็นสไตล์ของโตเกียวซูโม่

รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์

“วิธีการบริหารจัดการต้นทุนเรื่องไส้ขนมไม่ให้ทุนจม คือ การที่เราขายเงินสด ทำของมาในปริมาณที่พอดี ไม่มีการตุนสินค้า ซื้อวัตถุดิบวันต่อวัน ทำให้สินค้าของเราส่งออกทุกวัน เลยทำให้เงินตรงนี้มันไม่จม ขายแบบไม่เน้นกำไรมาก เลยทำให้อยู่ได้” คุณวิภา กล่าว

รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์

ร้านโตเกียวซูโม่ ไม่มีลูกจ้าง เป็นกิจการที่ทำกันในครอบครัว ซึ่งยังมีอีก 2 สาขา ได้แก่ ตึกวันหน้าร้านโจ๊กเจ๊ณี และตลาดรวมยางแบงก์ชาติ ที่สามีและลูกชายเป็นผู้ทำขาย และในอนาคตอาจจะมีเปิดแฟรนไชส์ แต่คุณวิภา บอกว่า ต้องขอเวลาศึกษาข้อมูลก่อน

รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ : ไส้ชีส
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ : ไส้เทมปุระ

“การจะทำธุรกิจแต่ละอย่าง มันก็จะมีล้มบ้าง ข้อผิดพลาดตรงนั้น อนาคตจะกลายเป็นไอเดียให้เราสามารถสร้างรายได้ให้เราได้ จงอย่าหยุดพัฒนาตนเอง” คุณวิภา กล่าวทิ้งท้าย

รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์
รูปจากเส้นทางเศรษฐีออนไลน์

หากใครสนใจ สามารถโทรศัพท์ไปสอบถามรายละเอียดได้ที่ (086)-810-6614 หรือ Facebook : โตเกียวซูโม่

 

 

 

 

 

เผยแพร่ครั้งแรก วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ.2562