ตอบโจทย์ชีวิตเร่งรีบ “บ๊ะจ่าง แด๊ดดี้ส์ โฮม” ใส่ถ้วย กินง่าย ไม่เลอะมือ

พูดถึง “บ๊ะจ่าง” ชื่อนี้สำหรับคนรุ่นใหม่คงจะไม่คุ้นหูกันมากนัก แต่สำหรับคนรุ่นเก่า โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีน ถือว่า บ๊ะจ่าง เป็นอาหารครบรส คาวก็ได้ หวานก็ดี ทำจากข้าวเหนียวนำมาผัดน้ำมัน มีไส้หมูเค็มหรือหมูพะโล้ กุนเชียง ไข่เค็มเฉพาะไข่แดง กุ้งแห้ง เห็ดหอม เป็นต้น ห่อด้วยใบไผ่แล้วนึ่งให้สุก

แต่สมัยใหม่นี้ ขั้นตอนการทำพลิกแพลงไปเล็กน้อย จากห่อด้วยใบไผ่ ได้เปลี่ยนมาใส่ถ้วย ทานง่ายขึ้น ที่สำคัญ ไม่เลอะมือ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้ดีทีเดียว “บ๊ะจ่าง แด๊ดดี้ส์ โฮม – Daddy’s Home” ชื่อแบรนด์แสนน่ารักที่ลูกสาว วัย 30 บอกว่ารสชาติความอร่อยมาจากรสมือคุณพ่อคุณแม่ของเธอ

คุณพราว-ภูริตา วงศ์พานิช ซีเนียร์สาวด้านกราฟิกดีไซน์ วัย 30 ปี เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวของเธอชอบทำอาหาร โดยเฉพาะคุณพ่อ ได้รับคำชมไม่ขาดปากจากเพื่อนๆ ญาติๆ ที่แวะเวียนมาชิมฝีมืออยู่บ่อยๆ หนึ่งในเมนูที่ชอบทำมากที่สุดคือ บ๊ะจ่าง ทำทานกันเองง่ายๆ ด้วยการใช้หม้อหุงข้าวโดยไม่ห่อใบไผ่

“เราชินกับสูตรไม่ห่อใบไผ่ของพ่อ หลายคนชิมก็บอกว่าอร่อย ชอบที่ไม่มีกลิ่นใบไผ่ ไปลองกินบ๊ะจ่างร้านอื่นรสชาติยังไม่เข้มข้น เพราะที่บ้านกินรสจัด คุณพ่อจะติดกินบ๊ะจ่างคู่กับพริกแห้งมาก เลยอยากให้คนอื่นได้ลองกินรสชาติที่ครอบครัวเราชอบดูบ้าง” คุณพราว เล่าถึงความต่าง

เมื่ออยากส่งต่อความอร่อยให้คนอื่นได้ทานบ้าง สาวสวยวัย 30 เลยคิดสร้างแบรนด์ สร้างความต่างด้วยการทำบ๊ะจ่างใส่ถ้วย โดยชูสโลแกนว่า ทานสะดวก ไม่เลอะมือ

“แต่ก่อนทำกินกันเองในครอบครัว จะไม่พิถีพิถันมาก ทำกันง่ายๆ แต่พอทำขายจริง ต้องใส่รายละเอียดเยอะ การตกแต่ง แพ็กเกจจิ้ง รสชาติต้องคงที่ เราใช้เวลาปรับสูตรกันประมาณ 1 เดือน และเริ่มเปิดจริงจังเมื่อกลางเดือนมิถุนายน ปรุงรสชาติโดยคุณพ่อคุณแม่ เป็นที่มาของชื่อแบรนด์เรา”

สำหรับการทำในแต่ละวัน จะมีคุณพ่อเป็นพ่อครัวหลัก เสริมทีมด้วยคุณแม่ที่เปิดร้านซักรีดแถวเทพารักษ์ 66 ใกล้กับโรงพยาบาลสินแพทย์ แช่ข้าวกันตั้งแต่ตอนกลางคืนให้ครบ 8 ชั่วโมง และตื่นกันแต่เช้าตรู่เพื่อเตรียมของทำส่งลูกค้า ใช้วิธีการนึ่ง โดยไม่ห่อใบไผ่เหมือนบ๊ะจ่างที่เห็นทั่วไป จึงไม่มีกลิ่นใบไผ่

“คนรุ่นเก่าจะชินกับบ๊ะจ่างห่อใบไผ่ พอมากินของเรา มีพูดเหมือนกันว่าทำไมไม่มีกลิ่นใบไผ่ จริงๆ เป็นความตั้งใจของแบรนด์เรา เป็นสูตรที่ชอบ เด็กสมัยใหม่ชอบ เราไปเทียบกับสูตรต้นตำรับไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเขามาก่อน คนละรูปแบบกัน”

นอกจากไม่มีกลิ่นใบไผ่ บ๊ะจ่าง แด๊ดดี้ส์ โฮม ยังมีรสชาติกลมกล่อม เข้มข้น ทานคู่กับพริกแห้งตามสูตรฉบับครอบครัว ที่คอนเฟิร์มว่าอร่อยถูกปาก ยิ่งใส่ในถ้วย แม้ต้นทุนสูง แต่ทำให้ลูกค้าทานสะดวก ไม่เลอะมือ ถือว่าคุ้มแล้วสำหรับแพ็กเกจจิ้งนี้

“ปกติเวลาคุณพ่อทำอาหารให้ทาน จะแปะโน้ตไว้เสมอว่าให้ทานร้อนๆ การใส่ถ้วยจะสะดวกตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ในเวลาเร่งรีบสามารถนำเข้าไมโครเวฟทานร้อนๆ ได้เลย ไม่อยากให้เก็บแช่เย็นแล้วอุ่นมากกว่าหนึ่งครั้ง” คุณพราว เล่าเสริม

ออร์เดอร์ในแต่ละวัน คุณพราว ระบุว่า ยังเป็นเพียงกิจการเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มต้น ออร์เดอร์จึงมีจำนวนไม่มาก เฉลี่ยวันละ 50-70 ถ้วย หากวันไหนขายดี แตะหลักร้อยก็มีบ้าง ทั้งนี้ ในการสั่งแนะนำให้ลูกค้าสั่งล่วงหน้า 1 วัน มี 2 ขนาดให้เลือกทานคือ ไซซ์ S ราคา 35 บาท และไซซ์ L ราคา 50 บาท

ทั้งนี้ ถามทิ้งท้ายถึงการทำธุรกิจร่วมกับครอบครัว เธอบอกว่า นอกจากจะได้รายได้แล้ว การทำบ๊ะจ่าง ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นขึ้น เธอเองทำงานหนักมาก ไม่มีเวลาเจอกัน แต่เมื่อทำธุรกิจร่วมกัน ทำให้มีบทสนทนากันมากขึ้น ส่วนคุณพ่อคุณแม่เอง ได้ใช้ศักยภาพที่มีทำในสิ่งที่ชอบ ทุกครั้งที่ได้รับคำชมจะดีใจ และมีความสุขมาก

สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่ เฟซบุ๊ก บ๊ะจ่าง แด๊ดดี้ส์ โฮม – daddy’s home ซึ่งคุณพราวกับแฟนช่วยกันดูและ ใช้ความสามารถด้านกราฟิก ทำคอนเทนต์และออกแบบเพจบ๊ะจ่างได้ทันสมัย เป็นบ๊ะจ่างฉบับคนรุ่นใหม่ที่แท้จริง