ส่องไอเดีย “ขายหมูปิ้ง” ห่อแพ็กเกจจิ้งใบตอง กินคู่ข้าวเหนียวก่ำ จนลูกค้ายกให้เป็นเมนูเพื่อสุขภาพ

“หมูปิ้ง-ข้าวเหนียวก่ำ มานีกับชูใจ”  ไม้ใหญ่ๆ ห่อด้วยใบตองสีเขียวสดโดนใจปิ้งขายได้ 1 ปีกว่า โดยคุณคิม– วิวิศน์ สิริโรจน์โสภณ วัย 40 ปี เป็นเจ้าของ

คุณคิม เล่าให้ฟังว่า ตนดำเนินกิจการหลายอย่างทั้งร้านอาหาร และรถยนต์มือสอง กระทั่งเกิดไอเดียอยากทำธุรกิจแฟรนไชส์ แต่ยังนึกภาพไม่ออกว่าจะทำอะไร จนเริ่มสังเกตพฤติกรรมคนรอบตัวส่วนใหญ่ชอบทานข้าวเหนียวหมูปิ้ง บางครั้งไปซื้อทานอร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง ข้าวเหนียวแข็งไป ใส่มันเยอะไป

“ยังหาที่ถูกปากไม่ได้ ทำไมไม่ทำเองซะเลยล่ะ อีกอย่างถ้าพูดถึงข้าวเหนียวหมูปิ้งยังไม่มีเจ้าตลาดชัดเจน ถามว่านึกถึงข้าวเหนียวหมูปิ้งแล้วนึกถึงใคร ไม่มีใครตอบได้ ตรงนี้เป็นช่องว่างให้เราทำได้”

ลองผิดลองถูก 6 เดือน ได้หมูปิ้งเพื่อสุขภาพ

หลังได้ไอเดียคุณคิมใช้เวลาลองผิดลองถูกกว่า  6 เดือนค้นหาสูตร และวิธีการเพื่อแข่งขันกับหมูปิ้งเจ้าอื่นๆ ในท้องตลาด หากทำตามสูตรตามใจฉันคงสู้ไม่ได้ ณ ตอนนี้มองว่าเทรนด์สุขภาพมาแรง จึงเลือกทำหมูปิ้งเพื่อสุขภาพเจ้าแรกของไทย

หมูปิ้งเพื่อสุขภาพ ฟังแล้วคงมีคำถามตามมาว่าเพื่อสุขภาพอย่างไร คุณคิมอธิบายให้ฟังว่า ใช้ข้าวเหนียวก่ำหรือข้าวเหนียวดำจากโครงการหลวงที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงส่งเสริมให้ราษฎรปลูก หลังศึกษาพบว่าข้าวเหนียวชนิดนี้มีประโยชน์มาก มีทั้งวิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์มากกว่าข้าวเหนียวขาว

“แต่วิธีการนึ่งข้าวเหนียวก่ำนั้นค่อนข้างยาก หากนึ่งไม่ดีจะแข็งและทานยาก มีกลิ่นเฉพาะตัว ถ้าบางคนไม่เคยกินจะคิดว่าบูดได้ แต่เราก็หาสูตรจนเจอ นึ่งแล้วนุ่มไปสองวัน ฟีดแบ็กลูกค้าดีมาก”

ส่วนหมูตัวชูโรงสำคัญ คุณคิมเลือกใช้หมูเนื้อแดง ไม่เน้นมันเหมือนกับร้านอื่น แต่ยังคงต้องมีมันอยู่ ด้วยเรื่องรสชาติเวลาปิ้งจะอร่อย เนื้อเด้งไม่แข็ง หมักเครื่องเทศอย่างดี 8 ชนิดด้วยสูตรต้นตำรับโบราณ เนื้อหมูจะหอมนุ่ม และหวานน้อย

ชื่อแบรนด์เน้นย้อนยุค-จำง่าย”

เมื่อได้ข้าวเหนียวและหมูที่อร่อยแล้ว เรื่องที่ทำต่อมาคือการตั้งชื่อแบรนด์ เน้นสื่อถึงความเป็นโบราณย้อนยุค เพราะคนสมัยนี้ชอบ

“สมัยเรียนมีแบบเรียนมานีกับชูใจ สื่อถึงความเป็นโบราณความเป็นไทยได้อย่างดี ผมเลือกใช้ชื่อนี้ เพราะจำง่าย ในเรื่องมานีกับชูใจเป็นเพื่อนกัน สร้างสตอรี่ให้คนจดจำได้ง่าย มานีคือหมูปิ้ง ชูใจคือข้าวเหนียวก่ำ ใช้ใบตองเป็นแพ็กเกจ เพราะอนุรักษ์ความเป็นไทย สะอาด ช่วยกันฝุ่น เก็บความร้อนได้ระดับหนึ่ง ดูแล้วแตกต่าง”

ส่วนการขาย คุณคิมเคยเปิดหน้าร้าน เพราะคิดว่าทำธุรกิจต้องมีหน้าร้านจะได้เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง เปิดสองสาขา ได้ทำเลแถวถนนศรีนครินทร์ ฟีดแบ็กดีในระดับหนึ่ง ขายได้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ แต่เจอปัญหาเรื่องพนักงานทำงานไม่กระเตื้อง เพราะทำธุรกิจตัวอื่นด้วย การดูแลลูกน้องจึงไม่ทั่วถึง ประกอบกับต้นทุนสูงทั้งค่าเช่า ค่าน้ำ-ไฟ ค่าแรง ทำให้ขายได้แต่ไม่มีกำไร บางวันเท่าทุนก็มี

“เราไม่อยากเจอปัญหานี้บ่อย เลยแก้ปัญหาด้วยการปิดหน้าร้าน 2 สาขา แล้วขายออนไลน์ ออร์เดอร์ลูกค้าจะมาทางไลน์กับเฟซบุ๊ก ยอดขายดีมากไม่ต้องมานั่งแบกรับค่าใช้จ่ายเหมือนหน้าร้าน เพราะใช้บ้านเป็นฐานผลิต ควบคุมคุณภาพสินค้าได้ไม่ต้องกลัวฟ้าฝน”

 เจาะลูกค้าทุกกลุ่ม ต่อยอดทำแฟรนไชส์

ลูกค้าที่สั่งออนไลน์มีหลากหลายทุกเพศทุกวัย นอกจากกลุ่มลูกค้าทั่วไปแล้ว คุณคิมยังได้ลูกค้ากลุ่มบริษัท องค์กร โรงแรม บริษัทออร์แกไนซ์ บริษัททัวร์ มักสั่งไปเป็นเบรกประชุม รวมทั้ง งานบวช งานแต่งงาน งานศพยังมี

ราคาขายเท่ากันหมดไม่ว่ากลุ่มลูกค้าไหนมาซื้อ มีให้เลือก 3 ราคา คือ หมู/ไก่ 1 ไม้ ข้าวเหนียว 1 ห่อ 25 บาท หมู/ไก่ 2 ไม้ ข้าวเหนียว 1 ห่อ 35 บาท และราคา 45 บาท หมู/ไก่ 3 ไม้ ข้าวเหนียว 1 ห่อ ปริมาณข้าวเหนียวจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนหมู เฉลี่ยปิ้งได้ 400-500 ไม้ต่อวัน รายได้ 6 หลักต่อเดือน

“ปิ้งเสร็จส่งวันต่อวัน สั่งอย่างน้อยล่วงหน้า 1 วัน หากสั่งเยอะขอให้สั่งล่วงหน้า 1 สัปดาห์ ถ้าเป็นงานจัดเลี้ยงขั้นต่ำ 15 ห่อขึ้นไป สั่งราคาไหนก็ได้”

ด้วยกระแสตอบรับที่ดี คุณคิมคิดต่อยอดการเปิดแฟรนไชส์ ที่ตอนนี้เริ่มเปิดได้ 1 เดือน เริ่มมีตัวแทนมาซื้อบ้างแล้ว มีเงื่อนไขเป็นตัวแทนรายปี เริ่มต้นเก็บ 9,999 บาท ได้สิทธิ์ 1 ปี ได้หมูปิ้ง 200 ไม้ ได้ข้าวเหนียว 2 กิโลกรัม หัวเชื้อในการแช่ข้าวเหนียว สนับสนุนเรื่องวิชาการไม่จำกัดจำนวนครั้ง จากนั้นในครั้งต่อไปจะส่งวัตถุดิบคือหมู และข้าวเหนียวให้ตลอดอายุสัญญา ตั้งเป้า 1 ตัวแทน 1 อำเภอ หากเป็น กทม. 1 เขต 1 ตัวแทน

สนใจติดต่อได้ที่ เฟซบุ๊ก หมูปิ้ง-ข้าวเหนียวก่ำ มานี กับ ชูใจ โทรศัพท์ (063) 789-6422 ไลน์ manee2424