ครีเอทีฟสาว ทำสวนมะม่วงหาวมะนาวโห่ ขายผลสด-แปรรูป ปลูก 300 ต้น สร้างรายได้งาม

มะม่วงหาวมะนาวโห่ เป็นพืชสมุนไพรไทยชื่อแปลกที่มีประโยชน์และสรรพคุณที่หลากหลาย มะม่วงหาวมะนาวโห่ จัดเป็นผลไม้ประเภทกินผลสุก มีรสชาติเปรี้ยวเฉพาะตัว ผลสุกสีแดงขนาดเล็ก เป็นแหล่งสำคัญของธาตุเหล็ก วิตามินซี และยังมีปริมาณเพกติน ซึ่งเป็นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ในปริมาณสูง (Pal et al,19751) พบว่า ผลของพืชสกุล Carissa caradas มีสารกลุ่มฟินอลิกปริมาณมาก โดยสารประกอบฟินอลิกได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ สารฆ่าเชื้อ

มะม่วงหาวมะนาวโห่จะอุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน เป็นสารสีม่วงแดงซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้สูงกว่าวิตามินซีหลายพันเท่า

คุณภัทรฤทัย พรมนิล (ปุ๊) อยู่บ้านเลขที่ 182 หมู่ที่ 3 บ้านสมบูรณ์ ตำบลบ้านค้อ อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม อดีตครีเอทีฟรายการทีวีชื่อดัง ผันตัวเองเป็นเกษตรกรเพื่อสานต่อความฝันของพ่อ ก่อนหน้านี้คุณปุ๊ทำงานในกรุงเทพฯ  นานกว่า 5 ปี เริ่มมีปัญหาสุขภาพ ด้วยลักษณะของงานที่ต้องใช้ความคิดเยอะ เครียด “ปุ๊จึงตัดสินใจลาออกจากงานและช่วงนั้นคุณพ่อเสียชีวิตพอดี จึงทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะกลับมาสานต่อความฝันของคุณพ่อให้สำเร็จ ซึ่งคุณพ่อของปุ๊ได้ปูทางอาชีพเกษตรกรรม ด้วยการปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ทิ้งไว้ แต่ช่วงนั้นปุ๊และพี่น้องอีก 2 คน ไม่มีใครสนใจอยากเป็นเกษตรกรเลย”

คุณภัทรฤทัย พรมนิล (ปุ๊)

ผ่านไป 3 ปี ต้นมะม่วงหาวมะนาวโห่ที่คุณพ่อปลูกไว้ออกลูกแต่ไม่มีใครเก็บ ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ปุ๊จึงเริ่มมองเห็นโอกาสทำเงินจากสวนนี้ และด้วยความที่ปุ๊เป็นครีเอทีฟมาก่อน จึงคิดอยากสร้างแบรนด์สร้างทุกอย่างใหม่ จึงเริ่มคิดว่ามะม่วงหาวมะนาวโห่ทำอะไรได้บ้าง หลายคนถ้าพูดถึงผลไม้ชื่อนี้ต้องคิดไปถึงคนป่วย ต้องป่วยถึงจะกินได้ แต่ปุ๊ไม่ได้คิดแบบนั้น

“ปุ๊คิดว่า คนทุกเพศ ทุกวัย เด็ก ผู้ใหญ่ ต้องสามารถกินได้ทุกคน เราจึงเริ่มต้นจากการทำโลโก้ ซึ่งโลโก้เราไม่เหมือนใครแน่นอน โลโก้ของเรามีเรื่องราว เราเอาคุณพ่อมาทำ คือคุณพ่อชื่อนพรัตน์ เราจึงตั้งชื่อเป็นนพรัตน์ฟาร์ม โลโก้ก็เป็นรูปคุณพ่อ ส่วนเด็ก 3 คน ที่เกาะหลังคือพวกเรา 3 คน พี่น้อง ปิ๋ว ป๋อง ปุ๊” คุณปุ๊ กล่าว

ปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ 1 ไร่ครึ่ง ทำอะไรได้บ้าง

ที่สวนคุณปุ๊ปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ไว้ประมาณ 1 ไร่ครึ่ง คิดเป็นจำนวนต้น คือปลูกได้ 300 ต้น

“ถามว่า ปลูกได้ 300 ต้น เยอะไหม เยอะมาก และปลูก 300 ต้น เราสามารถนำมาแปรรูปเป็นอะไรได้บ้าง ได้มากขนาดไหน” คุณปุ๊ บอกและว่า ถ้าคิดอยากทำเยอะๆ ต้องหาลูกสวน ซึ่งตอนนี้ที่จังหวัดนครพนมได้มีการสนับสนุนให้คนในจังหวัดหันมาปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ โดยมี ธ.ก.ส. เข้ามาช่วย โครงการในหมู่บ้าน มีการจัดการให้หมู่บ้านต่างๆ เอาต้นมะม่วงหาวมะนาวโห่ไปปลูก โดยจำกัดให้คนละ 100 ต้น

มะม่วงหาวมะนาวโห่ ที่นพรัตน์ฟาร์ม

วิธีการปลูก

คุณปุ๊ อธิบายถึงขั้นตอนการปลูกแบบไม่ยุ่งยาก ปลูกแบบเดียวกับมะนาว ขุดหลุมลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ระยะห่าง 3×3 เมตร ทำไมต้องขุดห่างขนาดนั้น ต้นมะม่วงหาวมะนาวโห่มีทรงพุ่มใหญ่ มีหนาม เมื่อต้นโตมีผลผลิต ต้องเก็บ เพราะฉะนั้นถ้าปลูกถี่ และปล่อยให้ต้นสูงมากจะเก็บลำบาก ต้องหมั่นตัดแต่งกิ่งเพื่อให้สวยและแตกยอด

ต้นพันธุ์มะม่วงหาวมะนาวโห่

ก่อนปลูกนำดิน แกลบดำ คลุกใส่ที่ก้นหลุม หลังจากนั้นลงต้นมะม่วงหาวมะนาวโห่

ฤดูที่เหมาะในการปลูกคือ ฤดูฝน ไม่ต้องรดน้ำมาก ถ้าปลูกหน้าแล้งมีปัญหาเรื่องน้ำ

ต้องปลูกหน้าฝน ให้น้ำลงหาต้น ให้ต้นเก็บน้ำ หลังจากนั้นต้นจะค่อยๆ โต พอช่วงหน้าร้อนให้สังเกตว่าต้นโตหรือไม่โต ถ้าไม่โตให้พิจารณาว่าต้องใส่ปุ๋ยคอกไหม ถ้าไม่ใส่เรื่องของการแตกยอดจะลำบากหน่อย

ระยะเวลาในการปลูก ถ้าเป็นกล้าเล็ก ใช้ระยะเวลา 3 ปี ถึงจะโตมีลูกเต็มที่

การดูแลรักษา

“ต้นมะม่วงหาวมะนาวโห่ เป็นต้นไม้ที่ไม่ชอบแฉะถ้าแฉะแล้วตาย ให้รดน้ำแบบวันเว้นวัน หรือชื้นหน่อยก็ได้ แต่อย่าเปียกจนทำให้รากเน่า ไม่งั้นจะดูแลยาก ส่วนเรื่องแมลง จริงๆ มีปัญหาคือเรื่องหนอน หนอนอย่างเดียวเท่านั้น หนอนที่เป็นปัญหาคือ หนอนผีเสื้อ หนอนตัวใหญ่ๆ หนอนจะมาทำลายต้นมะม่วงหาวมะนาวโห่ กินใบซะเรียบ” เจ้าของบอก

ที่สวนคุณปุ๊ไม่ได้กำจัดหนอนด้วยยาฆ่าแมลง หรือวิธีที่พิสดารอะไร แต่ใช้วิธีการไปจับออก เพราะว่าอยากทำเป็นเกษตรอินทรีย์ อีกอย่างสรรพคุณของมะม่วงหาวมะนาวโห่มีเยอะ เพราะฉะนั้นการเอาสารเคมีเข้าไปใส่ไม่ใช่เรื่องดี

คิดต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม

มะม่วงหาวมะนาวโห่ผลสดช่วงหนึ่งไม่มีใครรู้จัก คุณปุ๊จึงมานั่งคิดว่าในเมื่อมีผลสดอยู่แล้ว เสียดาย และถ้าขายลูกสดอย่างเดียว เวลาออกบู๊ธก็น่าเบื่อ ขายได้อย่างเดียว คุณปุ๊จึงคิดต่อยอดขายทั้งผลสดและแปรรูป อีกอย่างคือคนส่วนใหญ่กินผลสดไม่ไหว พอกินลูกสดไม่ไหว ทำยังไง ก็แปรรูปเป็นน้ำ พอต่อยอดได้หนึ่งอย่าง เริ่มมีกำลังใจ จึงคิดค้นผลิตภัณฑ์ตัวที่สองออกมา คือเมื่อสกัดน้ำจนหมดก็จะเหลือกากของมะม่วงหาวมะนาวโห่ จึงลองเอามาถูแขน เมื่อนำมาถูแขนปรากฏว่าขี้ไคลออก จึงคิดนำกากมาทำเป็นสบู่ ผลิตภัณฑ์เริ่มต้นของฟาร์มคือสองชิ้นนี้

ผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ ที่นพรัตน์ฟาร์ม

ยังไม่จบแค่นั้น คุณปุ๊ ยังเสริมอีกว่าตนได้คิดสร้างผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ขึ้นมาด้วยความคิดที่อยากให้เด็กกินสมุนไพรที่มีประโยชน์ได้ด้วย เพราะในหลายๆ ที่เขาทำขมมาก แต่คิดว่าจะทำไงเอาเมล็ดออก พอเอาเมล็ดออกแล้วไม่ขม จึงลองทำแยม เมื่อทำแยมได้ก็ต่อยอด เป็นวุ้น เยลลี่ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ มะม่วงหาวมะนาวโห่ที่นี่จะไม่สร้างความจำเจให้กับคนกิน ต้องรู้จักปรับปรุง ในอนาคตจะทำเป็นคุกกี้มะม่วงหาวมะนาวโห่มาแน่ๆ

หาวิธีการแปรรูป

คุณปุ๊ เล่าว่า ความรู้มี ใช้วิธีดูจากยูทูบและจดจำไปเรื่อยๆ แต่เขาโชคดีมีแฟนเป็นเชฟอยู่ที่กรุงเทพฯ เวลาอยากทำเมนูไหน ก็โทร.ถามสูตรแฟนว่าทำอย่างไร ผสมอะไรบ้าง แล้วแฟนก็บอกสูตร และขั้นตอนการทำมา ครั้งแรกลองผิดลองถูกเริ่มชิม จำความหวาน ความเปรี้ยวขนาดไหน อยากทำให้คนที่ป่วยสามารถกินได้ด้วย อย่างถ้าผู้ป่วยโรคเบาหวานถามว่าอยากกินวุ้นกินได้ไหม กินได้ เพราะไม่ได้ทำหวานมาก ต้องคิดถึงสุขภาพคนกินด้วย และมีคณะทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยมหาสารคามติดต่อปุ๊ 2 คณะ คณะวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมฯ เขาจะขอวิจัยสารแอนโทไซยานิน สารนี้จะค่อนข้างมีสูงในผลไม้ที่มีสีม่วง และรสเปรี้ยว เพราะฉะนั้นสารตัวนี้จะมีผลช่วยรักษาโรค เขาจะทำการวิจัย

นอกจากนี้ อยากทำผงสกัดพร้อมชงดื่ม ซึ่งยังไม่มีใครทำ ในอนาคตจะมีน้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่สูตรเข้มข้น ดีต่อสุขภาพ และสามารถส่งขายได้ทั่วประเทศ

คุณปุ๊กับผลผลิตจากสวน

แปรรูปแล้วขายดีมาก ผลิตไม่ทัน

ผลสดมะม่วงหาวมะนาวโห่ที่สวนคุณปุ๊ ราคาขายในสวน กิโลกรัมละ 200 บาท แต่เมื่อนำไปออกบู๊ธขายข้างนอก จะขาย กิโลกรัมละ 300 บาท และยิ่งช่วงนอกฤดู มีราคาขายถึงกิโลกรัมละ 500 บาท ฟังราคาผลสดเราก็สะดุ้งแล้ว แต่รู้หรือไม่เมื่อนำมะม่วงหาวมะนาวโห่มาแปรรูปแล้วสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้เกือบสิบเท่าตัว ที่สำคัญเมื่อแปรรูปออกมาในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม แยม สบู่ เยลลี่ ผลตอบรับดีมาก ดีจนทำขายไม่ทัน ผลผลิตไม่เพียงพอต่อการนำมาแปรรูป ด้วยความที่เมื่อแปรรูปออกมาแล้ว ผู้บริโภคสามารถบริโภคของดีมีประโยชน์ได้ง่ายขึ้น สินค้าเหล่านี้จึงกำลังเป็นที่นิยม

สำหรับท่านที่สนใจอยากเรียนรู้วิธีการปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ หรืออยากเยี่ยมชม ลงสวนเก็บผลสดมะม่วงหาวมะนาวโห่กินเองกับมือ เชิญได้ที่นพรัตน์ฟาร์ม คุณปุ๊ ยินดีต้อนรับ โทร. (081) 888-7131