สามใบเถา สาธิตมศว ขายของเล่นช่วงปิดเทอม เก็บทุกบาทแบ่งเบาภาระพ่อแม่

ช่วงปิดเทอม เด็กหลายคนอาจต้องไปนั่งเรียนพิเศษกันหน้าเครียด บางคนไปทำกิจกรรมอย่างอื่น แต่สาวน้อยทั้งสามคนนี้ ใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมเปิดกิจการขายของเล่น หารายได้ช่วงปิดเทอมเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ให้ครอบครัว

น้องคนแรกชื่อ โปสการ์ด-กันต์ธีรา วงศ์นิวัติขจร อายุ 15 ปี จะขึ้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และกำลังไปเป็น    นักเรียนแลกเปลี่ยนช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้  โดยสอบได้ทุนของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา คนที่สองชื่อ       เฟเต้-ปัญฑารีย์  อายุ 13 ปี กำลังจะขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และคนสุดท้องชื่อ ไดอารี่-ปีระกา กำลังจะขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยพี่คนโตและน้องคนเล็ก เรียนที่โรงเรียนสาธิตมศว ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยมฯ) ส่วนลูกสาวคนกลาง เรียนอยู่ที่โรงเรียนสาธิต มศว ปทุมวัน

สามพี่น้อง ช่วยกันหลังเคาน์เตอร์

มีโอกาสได้คุยกับน้องๆ ทั้ง 3 คนถึงเรื่องการขายของในช่วงปิดเทอม  น้องโปสการ์ด ในฐานะพี่สาวคนโต เล่าให้ฟังว่า ช่วยคุณแม่ทำงานที่ร้านอาหารของครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก  ช่วงปิดเทอมใหญ่นี้ อยากใช้เวลาว่างขายของด้วยการขายของเล่น อย่าง เลโก้ และของเล่นอื่นๆ มาวางขายที่หน้าร้านอาหารของคุณแม่ ซึ่งของเล่นที่นำมาขายนั้น ติดต่อขอซื้อราคาส่งมาจากเพื่อนของคุณแม่ รวมถึงไปเลือกซื้อด้วยตัวเองตามตลาดและห้างทั่วไป

นอกจากวางขายหน้าร้านแล้ว น้องโปสการ์ดยังเพิ่มช่องทางการจำหน่ายด้วยการสร้างแฟนเพจขายของเล่น  ชื่อ Toy’s Diary  โดยเธอทำหน้าที่อัพเดตแฟนเพจ ลงเรื่องราวเกี่ยวกับสินค้าในช่วงค่ำของทุกวัน

“การขายของทำให้ได้ฝึกอะไรหลายอย่าง เช่น การจัดการ ที่สำคัญได้เงินมาแบ่งเบาภาระพ่อแม่ด้วย” น้องโปสการ์ด บอกอย่างนั้น

วางหน้าร้านคุณแม่ กันเลยค่ะ

ส่วน น้องเฟเต้ เป็นอีกหนึ่งคนที่ช่วยงานที่ร้านอาหารของคุณแม่มาตั้งแต่เด็ก ช่วยรับลูกค้าบ้าง จดออร์เดอร์บ้าง ส่วนเรื่องขายของเล่น เธอมีหน้าที่ช่วยดูหน้าร้านขายของเล่นในเวลาที่พี่สาวคนโตติดเรียน และเป็นคนถ่ายรูปให้พี่สาวนำไปลงแฟนเพจ

น้องเฟเต้ ยังเล่าถึงประสบการณ์ขายของแล้วโดนไล่ที่ว่า เคยไปเปิดท้ายขายของเล่นหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง แต่โดนอาจารย์ห้ามไม่ให้ขาย เพราะรบกวนที่จอดรถ จึงเดินออกมา ซึ่งคุณแม่บอกว่าไม่ต้องคิดอะไรมาก เราตั้งใจทำดีแค่นี้ดีแล้ว คิดว่าเป็นประสบการณ์

น้องเฟเต้ บอกว่า หากถึงช่วงปิดเทอมอีก จะช่วยกันขายของเหมือนเดิม ลัยังมีความคิดอยากหาของอื่นมาขายเพิ่มเติม เช่น รูปวาดจากฝีมือพวกเธอเอง

มาถึงคนสุดท้องของบ้าน คือ น้องไดอารี่ เล่าเสียงใสว่า ช่วยพี่ๆ ขายของเหมือนกัน ช่วยจับนู่น หยิบนี่นิดหน่อย บางทีก็ไปช่วยซื้อของเล่น

“ทำแล้วสนุก ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้หาประสบการณ์ ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ค่ะ”

คุณอาจา พนม มาอุดหนุนด้วยค่ะ

หันมาพูดคุยกับ คุณแม่นก-กนกวรรณ จริยะเศรษฐ์ ถึงวิธีการเลี้ยงลูกทั้ง 3 คนว่า คนเป็นแม่ต้องฟังลูกให้มาก เป็นทั้งแม่และเพื่อนในเวลาเดียวกัน กอดลูกบ่อยๆ บอกลูกเสมอว่าจะผิดจะถูกแม่จะอยู่เคียงข้าง แต่ไม่ใช่เข้าข้าง ทุกคนทำผิดได้ ที่สำคัญคือจะแก้ไขหรืออยู่กับความผิดนั้น เวลาที่เราผิดเราควรขอโทษลูก ขอโอกาสปรับปรุงตัวจากลูก เหมือนที่เราอยากให้ลูกทำในเวลาที่ลูกทำผิด

พร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ-แม่ และลูกๆ

ยอมรับลูกให้ได้ทุกอย่าง ยิ่งถ้าลูกกำลังเป็นวัยรุ่นแล้วเป็นวัยรุ่นในยุคที่สิ่งแวดล้อมรอบตัวต่างจากสมัยเราๆ ต้องทำใจให้ร่ม รักลูกในแบบที่ลูกเป็น 3 คนก็ 3 แบบ ไม่ใช่รักเพราะลูกยอมมาเป็นแบบที่เราอยากให้เป็น คุณแม่ว่าอย่างนั้น

สำหรับเรื่องขายของ คุณแม่บอกว่าน้องๆ อยากทำด้วยตัวเอง คุณแม่มีหน้าที่เพียงแนะนำสิ่งของ หาร้านรับซื้อในราคาพิเศษให้ และคอยดูอยู่ห่างๆ

สามใบเถา กับการเรียนรู้นอกห้องเรียน

ช่วงส่งท้าย แอบถามน้องทั้งสามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร น้องๆ ตอบคล้ายกันว่า อยากเป็นหมอ อยากเป็นครู แต่ตอนนี้ขอตั้งใจเรียนก่อน และในปิดเทอมหน้าจะใช้เวลาว่างขายของต่อไป

สนใจอยากอุดหนุนของเล่นน่ารัก สามารถสั่งซื้อได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Toy’s diary หรือแวะเวียนไปที่ร้านของน้องๆ ได้ที่ ร้าน milkcafe (มิลค์คาเฟ่) ซอยรามคำแหง 24 แยก 20