ผู้เขียน | ทะนุพงศ์ กุสุมา ณ อยุธยา |
---|---|
เผยแพร่ |
“บางตะบูน” เป็นตำบลในอำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เป็นแหล่งอาหารทะเลที่ได้รับความนิยมอีกแห่ง แถมยังอยู่ไม่ไกลเมืองหลวง อีกทั้งความเป็นธรรมชาติอันมีทั้งน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม ส่งผลให้อาหารทะเลจากแหล่งนี้มีรสชาติอร่อยต่างจากอาหารทะเลที่อื่น ขณะเดียวกัน ยังมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางธรรมชาติหลายแห่ง ทั้งหมดจึงเป็นจุดดึงดูดสร้างความสนใจให้บรรดานักท่องเที่ยวแวะมาพักผ่อนกันเป็นจำนวนมาก
บางตะบูน มีร้านอาหารทะเลหลายร้าน ส่วนใหญ่จะเน้นบรรยากาศออกแนวพื้นบ้าน โดยแต่ละร้านต่างก็มีจุดเด่นและจุดขายที่ต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็นทางด้านเมนูอาหาร การออกแบบตัวร้าน หรือการนำเสนอขายบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ
แต่ร้านที่ต้องการจะแนะนำในครั้งนี้มีชื่อ “ร้านอาหารแม่จินดา บางตะบูน” ถือเป็นร้านอาหารขนาดปานกลาง ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางตะบูน หรือแม่น้ำเพชรบุรี ตัวร้านเป็นเรือนไม้ยกพื้น ภายในร้านออกแบบให้มีที่นั่งโล่งโปร่งได้อย่างสบาย สามารถมองเห็นโค้งน้ำขนาดใหญ่ได้อย่างชัดเจน มองเห็นวิถีชีวิตการทำประมง ตลอดจนความเป็นอยู่ของชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำอย่างใกล้ชิด
ร้านอาหารแม่จินดา บางตะบูน มีบริการอาหารหลากหลายชนิด ตั้งแต่เมนูอาหารจานเดียว อาหารทะเลที่ใหม่ สด และสะอาดปลอดภัยในราคาไม่แพง อีกทั้งเจ้าของร้านคือ คุณกมล วัฒนพงศ์พรชัย เป็นผู้ที่ชื่นชอบทำอาหารโดยเฉพาะอาหารพื้นบ้านที่เน้นใส่เครื่องปรุงท้องถิ่นล้วนๆ จึงต้องการปรุงอาหารที่ร้านให้มีรสเป็นเช่นนั้นด้วย ฉะนั้น หากใครชอบรสอาหารแบบบ้านๆ ไม่เน้นเผ็ด หวาน เค็ม เปรี้ยว มากนัก แนะนำว่าร้านนี้ใช่เลย…เพราะเหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย
เดิมร้านอาหารแม่จินดาจะตั้งอยู่ด้านหน้าริมถนน เปิดขายอาหารจานเดียว ภายหลังที่คุณกมลเบื่องานประจำแล้วลาออกจากการเป็นวิศวกรเพื่อต้องการกลับมาพักผ่อนที่บ้าน จึงเกิดความคิดดัดแปลงลานคัดแยกอาหารทะเลที่ติดกับแม่น้ำ มาก่อสร้างเป็นร้านอาหารแห่งนี้แทน พร้อมจัดหนักเมนูซีฟู้ดเพิ่มอีก
คราวนี้ลองมาโฟกัสบางเมนูอาหารเด่นของร้านนี้ในแต่ละประเภท เพื่อเรียกน้ำย่อยกันก่อน อย่างถ้าเป็นอาหารจานเดียว ได้แก่ ข้าวผัดปู ที่เน้นเนื้อปูม้า กะเพราสองนางราดข้าว ที่มีสูตรพิเศษไม่เหมือนใครเพราะใส่หอยเชลล์สดกับหอยเสียบทอด กุ้งผัดน้ำพริกเผาราดข้าว จะใส่กุ้งสดผัดกับน้ำพริกเผาสูตรเฉพาะของแม่จินดา พร้อมใส่หอมใหญ่กับต้นหอม หรือ ข้าวคลุกกะปิ สูตรเฉพาะที่ใช้ข้าวหอมมะลิผัดกะปิเคยตาดำ (กะปิท้องถิ่น) ใส่หมูหวาน แล้วเคียงด้วยมะม่วง แคร์ร็อต กะหล่ำปลีสีม่วง ถั่วฝักยาว แตงกวา พริกขี้หนูสด พริกแห้งทอด พร้อมโรยหน้าด้วยหอมเจียว แล้วยังมีเมนูอื่นอีก
…นี่เฉพาะบางรายการ ท้องก็ร้องแล้ว
หากมากันหลายคนต้องการทานอาหารหลายชนิดก็อาจเลือกเป็นเมนูกับข้าวร่วมกับอาหารซีฟู้ด อย่างเช่น ฮ่อยจ๊อปูทอด (ต้นตำรับแท้แห่งแรกของร้านนี้) ปลาอินทรีสดทอดราดน้ำปลาสามรส ห่อหมกปลาอินทรี (เมนูชนะเลิศแข่งขันการทำอาหารที่เพชรบุรี) ปลาหมึกผัดกะปิ หมึกย่าง ปูม้าต้ม
นอกจากนั้นยังมี ปลาทูทอดราดน้ำซอส (สูตรเฉพาะของร้าน) ปลาทูต้มมะดัน (สูตรแบบพื้นบ้าน) ปลาดุกทะเลผัดฉ่า (หาทานยากเพราะมีเฉพาะแห่ง) หรือแม้แต่ต้มส้มปลากระบอก ปลาน้ำกร่อยที่หาทานได้ยาก ปรุงด้วยกะปิเคย พร้อมกับอีกหลากหลายเมนูให้เลือก
“ใบชะคราม” น่าจะเป็นไฮไลต์ที่เป็นจุดเด่นของร้านนี้เพราะเป็นพืชท้องถิ่นที่ไม่ได้หาทานง่าย เนื่องจากต้องเป็นทะเลน้ำเค็มติดโคลน โดยร้านแม่จินดาได้นำชะครามมาทำเป็นอาหารหลายเมนู จนได้รับความนิยมจากลูกค้าไม่ว่าจะเป็นแกงคั่ว แกงส้ม ยำชะคราม ผัดชะครามน้ำมันหอย หรือแม้แต่ชะครามลวกราดน้ำกะทิจิ้มน้ำพริก
คุณกมลชี้ว่า อาหารที่ร้านเลือกมาให้บริการลูกค้าทุกเมนูได้ผ่านการคัดสรร และปรุงด้วยฝีมือจากแม่ครัวท้องถิ่นที่มีคุณภาพ ถนัดปรุงอาหารรสพื้นบ้าน พร้อมกับให้ความสำคัญกับความสะอาด ขณะเดียวกัน ยังนำเครื่องปรุงพื้นบ้านประจำท้องถิ่นมาใช้อย่างกะปิเคยตาดำ กะทิจากมะพร้าวที่มีในพื้นที่ เกลือ ซึ่งถือเป็นจุดยืนของร้านมาตั้งแต่แรก
“ส่วนน้ำมันทอดใช้เพียงครั้งเดียวทิ้ง แล้วไม่เคยนำผงชูรสมาใช้เลย เพราะห่วงสุขภาพลูกค้า จึงทำให้อาหารทุกรายการมีรสอร่อย กลิ่นหอม เข้มข้นด้วยเครื่องปรุงพื้นบ้านที่หาทานที่ไหนไม่ได้อีก กระทั่งมีลูกค้าจำนวนมากที่รสนิยมเดียวกันติดใจกลับมาสั่งทานอยู่เป็นประจำ บางรายยังอร่อยไม่หยุดเหลือน้ำแกงยังให้ใส่ถุงกลับบ้าน”
หลังจากอิ่มจากอาหารแล้ว ทางร้านแม่จินดาได้เตรียมของหวานที่เป็นผลไม้ชื่อดังในท้องถิ่น (ตามฤดูกาล) ไว้บริการต่ออีกไม่ว่าจะเป็น สละลอยแก้ว ได้รสเปรี้ยวปนหวานกลมกล่อมแช่เย็นเป็นเกล็ดหิมะ กระท้อนลอยแก้วที่มีรสกลมกล่อมเปรี้ยว/หวานแช่เย็นเป็นเกล็ดหิมะ หรือแม้แต่ลูกตาลลอยแก้ว ที่คัดเฉพาะลูกตาลอ่อน เนื้อนุ่ม มาต้มกับน้ำเชื่อมที่ให้ความหวานกำลังดี พร้อมกับรายการของหวานชนิดอื่นอีก
เจ้าของร้านแม่จินดา บอกว่า อาหารทุกชนิดไม่มีการเตรียมไว้ล่วงหน้า ถึงแม้จะมีลูกค้าเข้ามาทานกันมาก ต้องการทำสดทันทีที่ลูกค้าสั่ง เพราะต้องการให้ลูกค้าได้ลิ้มรสความสดใหม่ของอาหารทุกชนิดถึงแม้จะช้าไปบ้าง หรือโดนบ่นว่าช้ายังดีกว่าถ้าเร็วแล้วไม่อร่อย
ลูกค้านอกจากมาทานอาหารที่ร้านแม่จินดา บางตะบูน แล้วยังสามารถเที่ยวชมธรรมชาติด้วยจ้างเหมาเรือแล่นไปตามแม่น้ำเพชรบุรี เพื่อชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านสองฝั่ง
แล้วหากถ้าเป็นในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ทางร้านมีรายการพิเศษด้วยการจัดทริปล่องเรือดูวาฬบรูด้าที่ว่ายเข้ามากินปลากะตักบริเวณปากแม่น้ำ เป็นการใช้เรือขนาดใหญ่ที่มีความปลอดภัย โดยคิดค่าใช้จ่ายท่านละ 1,000 บาท พร้อมอาหารเที่ยงน้ำดื่มและของว่าง ทั้งนี้จะต้องมีการจองล่วงหน้า เนื่องจากรับได้เพียงครั้งละ 15 ท่าน โดยท่านสามารถติดตามรายละเอียดได้ใน www.facebook/macgyver_kml
หรือท่านที่ชื่นชอบการถ่ายภาพอาจรอจนเย็นใกล้ค่ำเพื่อถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น-ลงที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำ เนื่องจากจุดดังกล่าวมีกระเตงเลี้ยงหอยเป็นฉากสร้างองค์ประกอบ ทำให้ภาพที่ออกมามีความสวยงาม แล้วได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเมื่อมาที่บางตะบูน และเป็นจุดขายที่ได้รับความนิยมมาก
“อยากเชิญชวนผู้อ่านเส้นทางเศรษฐีให้แวะมาทานอาหารที่ร้านแม่จินดา บางตะบูน ลองมาชิมและลิ้มรสอาหารแบบรสชาติดั้งเดิมที่มีคุณภาพและปลอดภัย ในราคาที่เหมาะสม พร้อมไปกับการดื่มด่ำธรรมชาติ ตลอดจนวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านที่อาศัยอยู่รายรอบ แล้วหากยังติดใจรสชาติความเข้มข้นของฮ่อยจ๊อแม่จินดา พร้อมน้ำพริกเผาสูตรพิเศษของร้าน รวมถึงของฝากและอาหารทะเลแห้ง ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน” คุณกมล กล่าว
วันหยุดที่จะถึงนี้ หากท่านยังนึกโปรแกรมเที่ยวใกล้ๆ ขับรถสบายๆ ชิลชิลชนิดเช้าไปเย็นกลับ หรือพักสักคืน อยากขอเสนอ “ร้านอาหารแม่จินดา บางตะบูน” ตั้งอยู่เลขที่ 25/1 หมู่ 2 ตำบลบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี โทรศัพท์ (099) 225-3134, (085) 392-4555 หรือไปชมภาพบรรยากาศสวยๆ ที่ www.facebook/macgyver_kml