เล็งก.ย.เลิกรถเมล์ฟรี ให้ผู้ลงทะเบียนคนจนใช้บัตรแมงมุม รัฐอุดหนุนให้เดือนละ 500-600 บาท

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยภายหลังงานเสวนา “Thailand Transport 2017 Better Connect Better Life” ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท ว่าการดำเนินการจัดทำตั๋วร่วม หรือบัตรแมงมุม ยังอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องระบบบริหารจัดเก็บรายได้ รูปแบบการลงทุน การดำเนินการติดตั้งระบบ ร่วมกับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือแอร์ พอร์ตเรียลลิงก์ คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปอย่างเร็วที่สุดภายในเดือนมีนาคมนี้ เบื้องต้นได้วางแนวทางการดำเนินงาน เป็นการจัดตั้งบริษัทกลางที่มีรูปแบบการบริหารงานแบบภาคเอกชนขึ้นมาดูแลระบบตั๋วร่วม โดยแบ่งสัดส่วนการถือหุ้นตามสัดส่วนของเส้นทาง ในสัดส่วนภาคเอกชน 60% และภาครัฐ 40%

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ขณะเดียวกันในระหว่างการเจรจา จะให้ทุกหน่วยงานที่เป็นผู้เดินรถทำการติดตั้งเครื่องอ่านบัตรไปควบคู่ด้วย คาดว่าบัตรแมงมุมน่าจะสามารถเริ่มใช้ได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยระยะแรกจะเป็นการเชื่อมต่อในส่วนของรถไฟฟ้าก่อน จากนั้นจะเจรจาร่วมกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ให้เข้ามาร่วมหุ้นกับบริษัทกลางดังกล่าว เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อระบบตั๋วร่วมกับ ขสมก. ซึ่งคาดว่าจะทำการติดตั้งเครื่องอ่านบัตรเพื่อเชื่อมต่อได้ภายในเดือนกันยายนนี้ โดยจะเริ่มต้นในรถเมล์ร้อนก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจะทยอยดำเนินการติดตั้งในรถเมล์ปรับอากาศ นอกจากนี้ในเดือนกันยายน ระบบตั๋วร่วมจะผูกเข้ากับรายชื่อผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนรับสวัสดิการแห่งรัฐ โดยคาดว่ารัฐจะสนับสนุนเงินช่วยเหลือเป็นค่าเดินทางให้กับผู้มีรายได้น้อย ประมาณเดือนละ 500 – 600 บาท และในอนาคตระบบตั๋วร่วมยังจะเตรียมเชื่อมต่อระบบเข้ากับเรือด่วนเจ้าพระยา และห้างสรรพสินค้า ธนาคารเตรียมเข้าร่วมลงทุนอีกจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้ตั๋วร่วมสามารถใช้ซื้อของได้เหมือนต่างประเทศ

“เหตุผลที่ต้องเร่งเชื่อมต่อระบบตั๋วร่วมเข้ากับ ขสมก.โดยเร็ว เนื่องจากในเดือนกันยายนนี้ระบบสวัสดิการของรัฐที่ผู้มีรายได้น้อยได้ลงทะเบียนไว้ จะผูกเข้ากับตั๋วร่วมที่รัฐจะสนับสนุนค่าเดินทางให้ จากนั้นจะยกเลิกโครงการรถเมล์ฟรี ผู้มีรายได้น้อยจะใช้บัตรดังกล่าวจ่ายค่าเดินทางแทน”

 

ที่มา มติชนออนไลน์