บ้านเรายามนี้ แวดวงที่ “คึกคัก” สุดขีด เห็นจะไม่มีใครเกิน “วงการบันเทิง”

ท่ามกลางความเคลื่อนไหวหวือหวาดังว่า คงเป็นธรรมดาที่บรรดา หนุ่ม-สาว จำนวนไม่น้อยจะฝันใฝ่ อยากพาตัวเองไปเจิดจรัส ในฐานะ “ดาว” สักครั้ง…ในชีวิต

แต่กว่าจะ “ไต่” ไปถึงขั้นนั้น แต่ละคนคงต้องผ่านการฝึกฝน-สร้างสมวิทยายุทธ์กันไว้พอตัวเพราะในยุคที่ตลาดมีการแข่งขันสูงขนาดนี้ การมีดีแค่หน้าตา แล้วจะกลายเป็นซุป’ตาร์เลย คงเป็นเรื่องเป็นไปได้ยากแล้ว

ข้อเท็จจริงเหล่านี้ ล้วนนำไปสู่ “ความต้องการ” ฝึกปรือ ของเหล่าเยาวชนน้อย-ใหญ่ หวังให้มีฝีมือเข้าตา

ซึ่งช่วงเวลาไม่กี่ปีมานี้ จะพบว่า มีบรรดาสถาบันเปิดสอนเกี่ยวกับการ ร้อง-เล่น-เต้น-แสดง หลายหลากสเกล พากันผุดเบ่งบานราวดอกเห็ดหน้าฝน

โรงเรียนดนตรีและศิลปะการแสดง SUPERSTAR ACADEMY (ซุปเปอร์สตาร์ อคาเดมี) นับเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่เอ่ยถึง แต่อาจมีความต่างจากแบรนด์อื่นๆ ตรงมูลค่าการลงทุนที่สูงถึงหลักหลายร้อยล้านบาท…กันเลยทีเดียว

คุณภูมิ-พิสิษฎ์พงศ์ วรเศรษฐการกิจ ผู้บริหารโรงเรียนดนตรีและศิลปะการแสดง SUPERSTAR ACADEMY เล่าถึงที่มา ตัวเขาเองจบการศึกษาปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์ ปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจบันเทิง จากมหาวิทยาลัย UCLA สหรัฐอเมริกา

ระหว่างอยู่ต่างประเทศ ได้ศึกษาวิชาการกับศาสตราจารย์ในแวดวงฮอลลีวูดหลายท่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจสำคัญ ทำให้สนใจในธุรกิจนี้

“ส่วนหนึ่งของประสบการณ์ได้รับการถ่ายทอดมา คือ ถ้าจะสร้างคนให้วงการบันเทิง คุณก็ควรสอนโดยคนในวงการ เหมือนกับการฝึกนักว่ายน้ำทีมชาติ เราต้องเรียนรู้กับครูระดับทีมชาติ ไม่ใช่ไปเรียนกับครูข้างบ้านที่อาจมีประสบการณ์ไม่ตรงกับโจทย์” คุณภูมิ เริ่มต้นให้ฟัง

และบอกต่อ ก่อนเขาจะลงทุนทำธุรกิจนี้ ได้ว่าจ้างบริษัทระดับโลกมาทำการวิจัยนานกว่า 6 เดือน เพื่อศึกษาถึงความต้องการโรงเรียนสอนดนตรี-การแสดง ในอุดมคติของนักเรียนและผู้ปกครอง

ทั้งนี้ ผลการวิจัยดังกล่าว ระบุว่า ตลาดการศึกษาด้านบันเทิงของไทย ผู้ลงทุนส่วนใหญ่เป็น SMEs มีความสามารถเฉพาะตัว เช่น เป็นครูสอนเต้นหรือร้องเพลง มีประสบการณ์และชื่อเสียงบ้าง แล้วจึงมาเปิดโรงเรียน

ซึ่งสถาบันลักษณะนี้มักมีข้อด้อย เช่น ทำได้ในสเกลเล็ก เปิดสอนวิชาได้ไม่หลากหลาย เด็ก-ผู้ปกครอง มักยึดติดแต่กับครูที่มีชื่อเสียงคนนั้นๆ เป็นต้น

ขณะเดียวกัน วงการบันเทิงบ้านเรา กำลังมีความต้องการบุคลากรที่เก่งรอบด้าน นักร้องจะประสบความสำเร็จได้ ต้องไม่ใช่คนร้องเพลงเก่งอย่างเดียวอีกต่อไป แต่บุคลิกต้องดี ให้สัมภาษณ์ เต้น เล่นละคร เดินแบบ ได้อีกด้วย

“ความต้องการของตลาดบันเทิงมีทุกด้าน ดังนั้น SUPERSTAR ACADEMY จึงมีคุณครูฝึกสอนกว่าร้อยท่าน   แต่ละท่านเก่งคนละด้าน เวลาเด็กเข้ามาจึงไม่มีคำถามจะเรียนกับครูคนนั้นคนนี้ ไม่ได้ยึดติดกับคนใดคนหนึ่ง เพราะเชื่อมั่นในมาตรฐานของคุณครูทุกคน” คุณภูมิ ว่าอย่างนั้น

ผู้บริหาร SUPERSTAR ACADEMY เล่าให้ฟังต่อ ช่วงเริ่มต้นของการทำธุรกิจนี้ มีความยากอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเป็น “หน้าใหม่” ยังไม่เป็นที่รู้จักหรือเชื่อถือพอ และถ้าจะรอให้มีการบอกกันแบบปากต่อปากนั้น คงไม่ไหว

เขาจึงเลือกวิธีการประชาสัมพันธ์แบบก้าวกระโดด โดยใช้รายการโทรทัศน์ของบริษัทในเครือเป็นสื่อสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ซึ่งผลเป็นไปตามคาด ชื่อเสียงในกิจการของเขา ติดตลาดอย่างรวดเร็ว

เมื่อถามถึงรายรับอยู่ในขั้นน่าพอใจแค่ไหน-อย่างไร คุณภูมิหยุดนึกครู่ใหญ่ ก่อนเปิดใจตรงไปตรงมา

“ความจริงทำธุรกิจหลายตัว ซึ่งในส่วนของ SUPERSTAR ACADEMY ยอมรับว่าให้ผลตอบแทนช้าสุด แต่กลับมีความสุขกับมันมากที่สุด รู้สึกได้คืนกำไรสู่สังคม เพราะมีส่วนช่วยสร้างความเชื่อมั่น ให้เด็กหลายต่อหลายคนมีโอกาสเปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่ดีขึ้น”

คุณภูมิ บอกด้วยว่า กลุ่มลูกค้าของกิจการนี้ ไม่ได้มีแต่เด็กและเยาวชนเท่านั้น ผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานหลายแห่งสมัครเข้าคอร์สอบรมการร้องเพลงไม่น้อยเหมือนกัน เพราะปัจจุบันตามงานเลี้ยงโอกาสต่างๆ บรรดาลูกน้องมักขอให้ “เจ้านาย” ขึ้นเวทีร้องเพลง หลายคนเลยต้องการมีเพลงเก่งประจำตัว

“ผู้ใหญ่อยากมีความเชื่อมั่นในตัวเองเหมือนกัน หลายคนเป็นดารา-นักร้องอยู่แล้ว ยังเข้ามาเรียนเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาความสามารถเพราะทุกวันนี้การแข่งขันในวงการนี้สูงมาก ซึ่งหลักสูตรที่ใช้กับลูกค้าเหล่านี้จะแตกต่างออกไป” เจ้าของ SUPERSTAR ACADEMY ว่าให้ฟังอย่างนั้น

ก่อนย้ำว่า ผู้คนมักเข้าใจ “ซุปเปอร์สตาร์” หมายถึงแค่ “ดารา” ขณะที่ “ซุปเปอร์สตาร์” ในความหมายของ SUPERSTAR ACADEMY นั้น ไม่ได้แปลว่าดาราอย่างเดียว แต่เป็นคำที่ใช้ได้กับทุกวงการ สิ่งที่เราพยายามสร้างคือ สร้างเยาวชนกลุ่มหนึ่งให้เป็นเลิศในทุกวงการและมีความเชื่อมั่นในตัวเอง

ดำเนินธุรกิจมากว่า 11 ปี ถึงวันนี้ยังไม่มีคู่แข่งสเกลสูสีกัน คุณภูมิ ยิ้มน้อยๆ ก่อนบอกทีเล่นทีจริง อาจไม่มีใครกล้าลงทุนหลักหลายร้อยล้านบาท อย่างเขา เพราะธุรกิจนี้ไม่ใช่แค่มีเงินก็ทำได้ แต่ต้องมีครูฝึกสอนผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ และบุคลากรครบทุกด้านด้วย

“2 อย่างที่นักธุรกิจรู้ดีว่าในการลงทุนธุรกิจการศึกษาและธุรกิจบันเทิง ถ้าไม่รู้เรื่องอย่ากระโดดเข้ามา แต่ SUPERSTAR ACADEMY เป็นธุรกิจการศึกษาด้านบันเทิง จึงมีความยากเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ดังนั้น คนเล่นในตลาดนี้จึงค่อนข้างน้อย ยิ่งคนคิดจะลงทุนในสเกลนี้ ยิ่งน้อยเข้าไปอีก” คุณภูมิ บอกอย่างนั้น

ก่อนเผยว่า ที่ผ่านมาจับมือพัฒนาหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยสยาม ก่อนจัดตั้งเป็น วิทยาลัยดนตรีและศิลปะการแสดง SCA ( Superstar College of Arts ) ขึ้น ปัจจุบันได้การยอมรับว่าเป็นสถาบันสอน ดนตรีและศิลปะการแสดงที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย ที่ปั้นศิลปินและนักแสดงให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงมากมาย

สำหรับ SCA นี้ จัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับการเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัย Khung Hee ประเทศ เกาหลี ซึ่งนับเป็นมหาวิทยาลัยที่ผลิตศิลปินแห่งแรกในประเทศเกาหลีและได้รับการยอมรับว่ามีหลักสูตรด้านดนตรีเป็นอันดับท็อปของประเทศ ซึ่งผลงานที่ผ่านมา ได้ผลิตศิลปินที่โด่งดังไปทั่วโลก เช่น Rain, Cho Kyu Hyun (Super Junior), Kim Young-woon (Super Junior), Han Seung-yeon (Kara), Changmin (TVXQ หรือ ดงบังชิงกิ), Park Ye Eun (Wonder Girls), Kwon Ji Yong (G-Dragon of Big Bang), Kang Dae Sung (Big Bang), Lizzy (Afterschool)

นอกจากนี้ SCA ยังเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัย Tokai ซึ่งนับเป็น มหาวิทยาลัยที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่นทำให้ วิทยาลัยได้รับประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยน อาจารย์และนักศึกษาระหว่างกัน

“วิทยาลัยดนตรีและศิลปะการแสดง SCA  นับเป็นวิทยาลัยสร้างศิลปินแห่งแรกของ AEC เรามีจุดมุ่งหมายที่จะ สร้างศิลปินคุณภาพให้กับวงการบันเทิง ไม่ว่า น้องๆ จะมีความฝัน อยากเป็นศิลปินนักร้อง ศิลปินนักดนตรี หรือนักแสดงมืออาชีพที่นี่ จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้น้องๆ รู้ว่า ทุกความฝัน เป็นจริงได้ “คุณภูมิ สรุป

SUPERSTAR ACADEMY โรงเรียนดนตรีและศิลปะการแสดงที่ทันสมัยและครบวงจรที่สุดในเอเชีย ตั้งอยู่เลขที่ 946 ซอยสุขุมวิท 55 (ปากซอยทองหล่อ 20 เยื้องโรงพยาบาลคามิลเลียน) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทรศัพท์ (091) 954-1555  (02) 713-8300 อีเมล : [email protected]