คนละครึ่ง กระตุ้นยอดขาย ผู้ประกอบการชี้ มาถูกทางแล้ว

คนละครึ่ง กระตุ้นยอดขาย ผู้ประกอบการชี้ มาถูกทางแล้ว
คนละครึ่ง กระตุ้นยอดขาย ผู้ประกอบการชี้ มาถูกทางแล้ว

คนละครึ่ง กระตุ้นยอดขาย ผู้ประกอบการชี้ รัฐบาลมาถูกทางแล้ว

เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ลงพื้นที่พูดคุยกับพ่อค้าแม่ขาย เกี่ยวกับโครงการคนละครึ่ง ในงานกิจกรรมเผยแพร่องค์ความรู้ ในการนำส่วนประกอบของกัญชาที่ไม่ใช่ยาเสพติดมาใช้ประโยชน์ ที่จัดขึ้น ณ อาคารพิพิธภัณฑ์การสาธารณสุขและการแพทย์ไทย เมื่อวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

เจ้าของร้านน้ำมะพร้าว ภีมภู น้ำมะพร้าว

เจ้าของร้านน้ำมะพร้าว ภีมภู น้ำมะพร้าว ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวคิดว่า รัฐบาลมาถูกทางแล้ว สำหรับตนก็คิดว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีโครงการหนึ่ง ทำให้ประชาชนได้ซื้ออาหาร ได้จับจ่ายใช้สอยกัน ในส่วนของที่ร้าน มีลูกค้าเข้ามาซื้อน้ำมะพร้าวเยอะขึ้น เนื่องด้วยเป็นช่วงที่ลูกค้ามีเงินในแอพ และปัจจัยในการจ่ายครึ่งเดียว จากที่เมื่อก่อนซื้อคนละ 1 ถุง ก็เพิ่มขึ้นเป็น 2-4 ถุง เรียกว่าลูกค้าใช้เงินง่ายขึ้น ถือว่าเป็นวิธีที่ดี ถ้าหมดโครงการไปก็คงเสียดาย

คุณสิระพงษ์ วรสิริธนานันท์ เจ้าของร้านข้าวขาหมู กล่าวว่า โดยส่วนตัว ถือว่าเป็นโครงการที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการได้เยอะ เพราะตอนแรกที่เห็นโครงการมา ตนก็ไปศึกษาอยู่พอสมควร พบว่าโครงการนี้มีทั้งข้อดีข้อเสียสำหรับผู้ประกอบการ แต่ในฐานะผู้บริโภค รู้สึกว่าเวลาจะใช้จ่าย ถือว่าง่ายขึ้น

คุณสิระพงษ์ วรสิริธนานันท์ เจ้าของร้านข้าวขาหมู

จากเมื่อก่อนเวลาจะซื้อของกลับบ้าน จะต้องซื้อฝากคนนั้นคนนี้ แต่พอตอนหลังมาที่พฤติกรรมคนเริ่มเปลี่ยน ก็เริ่มไม่มีการซื้อฝาก แต่พอมีคนละครึ่งก็ทำให้ซื้อได้ง่ายขึ้น คนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และในฐานะผู้ประกอบการ ถือว่าโครงการนี้ช่วยเพิ่มยอดขายให้ได้มากกว่าเดิม ประมาณ 3 พัน ถ้าหมดโครงการก็ต้องดูกันต่อว่า วงเงินที่รัฐบาลยังมี ยังพอจะช่วยเหลือได้อีกนานเท่าไหน เพราะผมเชื่อว่า ถ้าเป็นโครงการแบบนี้ ไม่ต้องมีการเยียวยาโควิดก็น่าจะทำได้ น่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เยอะ

ด้าน คุณบุญศรี เจ้าของร้านขายสินค้าจิปาถะ ให้ความเห็นว่า โครงการคนละครึ่ง สำหรับคนที่ได้ใช้ก็คิดว่าดีว่าถูก แต่คนที่ไม่ได้ใช้ก็คิดว่าเป็นเงินสดดีกว่า แต่โดยส่วนตัวโครงการนี้สามารถเพิ่มยอดขายให้กับร้านได้ค่อนข้างเยอะ ทำให้คนไม่มีเงิน มาใช้บริการและเข้าถึงสินค้าเราได้มากขึ้น

คุณบุญศรี เจ้าของร้านขายสินค้าจิปาถะ

“อย่างสินค้าชิ้นละ 500 ก็ซื้อราคาแค่ 250 บาท แต่โดยส่วนตัวแล้ว การช่วยเหลือเป็นเงินสดดีที่สุด เพราะไม่ใช่ทุกคนที่อยากนำเงินมาซื้อของ เพราะความจำเป็นอย่างอื่นก็มี แต่ในเมื่อรัฐบาลออกนโยบายมาแบบนี้ว่าให้ซื้อของ เขาก็จำเป็นต้องซื้อกัน เวลามีคนมาซื้อของก็เลยแนะว่า ให้ซื้อของที่ไม่เน่าเสียมาตุนไว้ แล้วเอาไปขายต่อ ก็จะไม่เดือดร้อน ก็คิดได้หลากหลาย แต่พวกร้านสินค้าเบ็ดเตล็ดและอาหาร ค่อนข้างได้ประโยชน์เยอะกับโครงการนี้” คุณบุญศรี ว่าอย่างนั้น