เกษตรกรสาวเจนวาย เลือกปลูกมะเขือเทศส้มตำ คนไทยชอบกิน สร้างรายได้ทั้งปี

สาวโคราชจบบัญชี ปวส.วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา อดีตเคยเป็นเสมียน แต่ทว่าเงินเดือนไม่พอใช้ ส่งให้พ่อแม่ก็ไม่ได้ ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ ไปเป็นเกษตรกรปลูกมะเขือเทศสีดา พันธุ์เทพประทาน หรือมะเขือส้มตำ บนพื้นที่ 2 ไร่ เก็บขายได้ทั้งปี รายได้เเต่ละเดือนราว 4 หมื่นบาท

 

ในยุคข้าวยากหมากแพง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ที่เป็นปัญหาที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น
เรื่องการกินอยู่ รายรับน้อยกว่ารายจ่าย โดยเฉพาะท่านที่ต้องหาเช้ากินค่ำ หรือเป็นพนักงานบริษัทรับเงินเดือนแล้วไม่สามารถเลี้ยงปาก เลี้ยงท้อง และคนในครอบครัวได้ และปัญหาเหล่านี้ได้ลามไปถึงบัณฑิตจบใหม่ที่ก้าวเข้าสู่วัยทำงาน เงินเดือนเริ่มต้นก็น้อยนิด ไม่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดเกษตรกรรุ่นใหม่ อายุน้อยเพิ่มขึ้นอีกมากมาย

จุดเริ่มต้นสู่การเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่

คุณศิริขวัญ ดุเหว่าดำ หรือ คุณกิ๊ฟ เกษตรกรสาวไฟแรง  อยู่บ้านเลขที่ 189 หมู่ที่ 19 บ้านโนนอารีย์ ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เรียนจบ ชั้น ปวส. แผนกบัญชี จากวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา

คุณศิริขวัญ ดุเหว่าดำ และคุณแม่

คุณกิ๊ฟ เล่าให้ฟังว่า หลังจากเรียนจบมาตนได้ทำงานเป็นเสมียนอยู่ที่ร้านวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดนครราชสีมา แต่ทำไปทำมาเงินเดือนไม่พอใช้ ส่งให้พ่อแม่ก็ไม่ได้ ตนจึงตัดสินใจกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด ซึ่งพื้นฐานเดิมพ่อและแม่คุณกิ๊ฟเป็นเกษตรกรอยู่แล้วคือ ปลูกข้าวโพด แต่ด้วยความที่เป็นคนรุ่นใหม่มองว่าการปลูกข้าวโพดเป็นอะไรที่ต้องรอฟ้า รอฝน ปีหนึ่งถึงจะมีรายได้สักครั้ง ตนจึงปรึกษาพ่อกับแม่ว่าจะปลูกอะไรดีที่จะช่วยสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้ตลอดทั้งปี ช่วงนั้นมองเห็นคนแถวบ้านปลูกมะเขือเทศสีดา แล้วเขาได้ผลดี ตนกับพ่อจึงลองปลูก เริ่มบุกเบิกพื้นที่ปลูกมะเขือเทศสีดา พันธุ์เทพประทาน เพียง 2 ไร่ ผลปรากฏว่าได้ผลดี ตนจึงปลูกมาจนถึงทุกวันนี้

ปลูกมะเขือเทศสีดา พันธุ์เทพประทาน 2 ไร่ สร้างรายได้งาม

เริ่มปลูกมะเขือเทศสีดา พันธุ์เทพประทาน เพราะเห็นจุดเด่นคือ ทนทานต่อโรคไวรัสใบหงิกเหลือง ต้นแข็งแรง สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้นาน ทรงผลยาวรี สีชมพูสวย น้ำหนักดี ผลมีเนื้อแน่นแข็งไม่แตกง่าย เมื่อปลูกในฤดูฝน ทนทานต่อการขนส่งทางไกล อายุเก็บเกี่ยวเพียง 65-70 วัน หลังย้ายกล้า คุณกิ๊ฟเริ่มปลูกมะเขือเทศเพียง 2 ไร่ ได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ เพราะมะเขือเทศสามารถปลูกได้ปีละ 2 ครั้ง ปลูกครั้งหนึ่งสามารถเก็บผลผลิตได้นานถึง 6 เดือน ในการเก็บแต่ละครั้งคุณกิ๊ฟมีรายได้เข้ามาประมาณ 30,000-40,000 บาท แล้วแต่ช่วง ถ้าช่วงไหนราคาดีก็ได้เงินเยอะ บางครั้งมะเขือเทศราคาขึ้นสูง กิโลกรัมละ 40-50 บาท แต่คุณกิ๊ฟบอกว่าเมื่อมีราคาสูงก็มีราคาต่ำลงมาเหลือแค่กิโลกรัมละ 8-10 บาท อยู่ที่วางแผนการ

ปลูกอย่าให้ชนกับคนอื่น

 วิธีปลูก

การเตรียมดิน เริ่มแรกไถตากดิน แปรดิน ยกร่องห่าง ประมาณ 1.20 เมตร แล้วแต่บางคนชอบห่าง ชอบถี่ แต่ถ้ายกร่องห่างไว้จะดีกว่า เพื่อที่ระบายอากาศได้ง่าย โอกาสของการเกิดเชื้อราก็จะน้อยลง

ความห่างระหว่างต้นระหว่างแถว 30 เซนติเมตร วางท่อสายน้ำหยด วางเสร็จคลุมผ้ายาง ก่อนปลูกเปิดน้ำใส่เพื่อให้ดินอ่อน แล้วใช้ไม้ในการเจาะหลุม ก่อนลงกล้าใส่ฟูราดานรองหลุม เพื่อกันแมลงกินราก

ระยะห่างระหว่างหลุม

ระบบการให้น้ำ เป็นระบบน้ำหยด ให้น้ำวันละ 2 เวลา เช้า-เย็น เปิดรดประมาณ 5-10 นาที

ปุ๋ย 5-7 วัน ฉีดครั้งหนึ่ง ปุ๋ยปล่อยไปทางน้ำจะใช้สูตรเสมอ 16-16-16 ใส่แคลเซียมทางน้ำ ครึ่งเดือนใส่ 1 ครั้ง ส่วนปุ๋ยทางใบก็ต้องฉีดใบจะได้งาม ใส่แต่ทางน้ำอย่างเดียวไม่ถึง ดูแลไปเรื่อยๆ ประมาณ 2 เดือน 20 วัน มะเขือเทศจะเริ่มให้ผลผลิต

ช่วงฤดูที่เหมาะกับการปลูก

ที่สวนคุณกิ๊ฟเริ่มปลูกเดือนมกราคม เก็บผลผลิตได้เดือนเมษายน นับไปอีก 6 เดือน ก็ปลูกได้ใหม่อีกรอบ ไม่ต้องพักดินปลูกหน้าไหนก็ได้ แต่ไม่แนะนำหน้าฝน เชื้อราจะลง ช่วงหน้าฝนก็เก็บผลผลิตไป มีหน้าที่คือดูแล หน้าฝนมะเขือเทศจะแตก แมลงลงเยอะ แต่มะเขือเทศจะราคาดีช่วงนี้ เพราะดูแลยาก

ปัญหาและอุปสรรค

การปลูกมะเขือเทศสร้างรายได้ดีก็จริง แต่คุณกิ๊ฟบอกว่า เรื่องแมลง หนอน ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะมะเขือเทศจะมีปัญหาเรื่องโรคแมลงมาเจาะกินลูกกินใบมาก ที่สวนก็ใช้วิธีพ่นยา และต้องเปลี่ยนยี่ห้อ ฉีด 2 ครั้ง ก็เปลี่ยนใหม่ เพื่อไม่ให้แมลงดื้อยา แต่ถ้าเทียบกับรายรับการปลูกมะเขือเทศก็ถือว่ายังคุ้ม ในระยะเวลา 6 เดือน หักค่ายา ค่าปุ๋ย ตกแล้วเหลือรายได้เดือนละ 40,000 บาท สามารถเลี้ยงครอบครัวได้สบายๆ

เกษตรกรมือใหม่ อยากลงทุนปลูกมะเขือเทศ

สำหรับเกษตรกรมือใหม่ต้องมีเงินลงทุน ประมาณ 30,000-40,000 บาท ต่อ 2 ไร่ เมล็ดพันธุ์ซองละ 800 บาท แล้วแต่ช่วง ช่วงหายากก็จะแพงหน่อย ประมาณ 750-800 บาท ซองหนึ่งได้ 2,000 ต้น แต่อย่างที่สวนคุณกิ๊ฟไม่ได้เพาะกล้าเอง คุณกิ๊ฟจ้างเพาะ อยู่ที่จะเอาถาดละกี่ต้น ถ้าเพาะถาดเล็กหลุมจะหนาได้ต้นเล็ก ราคาก็ไม่เท่ากัน

คัดผลผลิตส่งตลาด

วางแผนการตลาดอย่างไร  ไม่ให้สินค้าล้นตลาด

คุณกิ๊ฟ ใช้วิธีเดินหาตลาดเอง ติดต่อเอง ไปติดต่อที่ตลาดไท ส่งเจ้าเดียว มีเท่าไรเขาก็รับหมด แต่ต้องไปคุยกับเขาก่อน เพื่อที่เขาจะจัดตารางการปลูกให้ เพื่อที่ผลผลิตจะออกมาไม่ชนกับเจ้าอื่น ถ้าชนกันมากๆ ราคาจะถูก พูดง่ายๆ ว่าทำระบบนี้เราจะอยู่ได้ตลอด ราคาจะไม่ตกถึงขั้นที่อยู่ไม่ได้ ราคาส่งตลาดไท อยู่ที่กิโลกรัมละ 16 บาท คิดเป็นรายได้ออกมาถือว่าคุ้มค่าแก่การลงทุน ไม่ต้องปลูกเป็น 100 ไร่ ก็อยู่ได้