หม้อข้าวหม้อแกงลิง พืชกินแมลงสีสวย เกษตรกรเชียงใหม่ปลูกขายได้ราคาดี

หม้อข้าวหม้อแกงลิง พืชกินแมลงสีสวย เกษตรกรเชียงใหม่ปลูกขายได้ราคาดี

 

หม้อข้าวหม้อแกงลิง เป็นไม้ชนิดหนึ่งที่มีการพัฒนาใบมาเป็นกับดักเพื่อจับแมลง ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร หรือบางชนิดอาจหนากว่านี้ก็มี ใบที่พัฒนามาเป็นหม้อเริ่มแรกจะมีขนาดเล็กและค่อยๆ โตขึ้นอย่างช้าๆ จนเป็นกับดักทรงต่างๆ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

ซึ่งปัจจุบัน หม้อข้าวหม้อแกงลิงเป็นพันธุ์ไม้ที่หลายๆ คนให้ความสนใจ เพราะหลงใหลในความมีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถวางตกแต่งบ้านหรือแขวนโชว์โดดเด่นชวนมอง เกิดเป็นไม้แปลกตาน่าสะสม นอกจากหม้อข้าวหม้อแกงลิงแล้ว ยังมีไม้กินแมลงอีกหลายชนิดที่เป็นไม้ประดับติดตลาดอยู่ไม่น้อย ทำให้ผู้ที่เพาะเลี้ยงสามารถผลิตออกมาขายเกิดเป็นอาชีพหลักและเสริม สร้างเงินได้ดีไม่น้อยทีเดียว

คุณชุมกานต์ สองเมือง เจ้าของสวนไม้กินแมลง ตั้งอยู่ที่ ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้ที่ชื่นชอบการปลูกไม้ดอกไม้ประดับ เมื่อจบการศึกษาจึงได้หันจับอาชีพทางการเกษตรคือ ปลูกเลี้ยงพืชจำพวกไม้กินแมลง เช่น หม้อข้าวหม้อแกงลิง พร้อมทั้งพัฒนาสายพันธุ์และสร้างไม้ตัวใหม่ๆ ภายในสวนให้มีคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือกมากขึ้น ทำให้สินค้าเป็นที่ติดตลาดสร้างรายได้ให้กับเขาได้เป็นอย่างดี

คุณชุมกานต์ สองเมือง

 ชอบการปลูกต้นไม้มาตั้งแต่เด็ก

คุณชุมกานต์ เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่จำความได้ชีวิตของเขาก็ช่วยครอบครัวปลูกต้นไม้มาตั้งแต่เด็ก ทำให้มีความสนใจและซึมซับเกี่ยวกับพืชอยู่เสมอ และเมื่อเจริญวัยสามารถศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัยก็ได้เลือกศึกษาต่อเกี่ยวกับสาขาวิชาทางด้านการเกษตร เมื่อจบการศึกษาจึงได้ยึดอาชีพทำการเกษตรอย่างจริงจัง เพื่อเป็นอาชีพทำเงินให้กับเขาตั้งแต่นั้นมา

“ต้นไม้นี่ต้องบอกเลยว่า เกิดความชอบที่ออกมาจากใจล้วนๆ พอมีโอกาสและมีความรับผิดชอบมากขึ้น จึงได้ตัดสินใจมาปลูกไม้กินแมลง พวกหม้อข้าวหม้อแกงลิง เพราะไม้ชนิดนี้เรารู้สึกว่ามันมีความพิเศษ ซึ่งสมัยก่อนตอนที่เรียนอยู่ยังปลูกไม่เก่ง ปลูกได้ไม่นานก็ตาย เราก็มาทำการศึกษาอย่างจริงจัง และปลูกเลี้ยงมาเรื่อยๆ มันก็ไม่ได้เริ่มไม่อยาก รู้สึกชอบและนำมาปลูกพัฒนาสายพันธุ์เป็นอาชีพมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้” คุณชุมกานต์ เล่าถึงที่มา

โรงเรือนดูแลไม้

โดยในปี 53 จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ได้ทำฟาร์มหม้อข้าวหม้อแกงลิงและไม้กินแมลงชนิดอื่นๆ อย่างจริงจัง โดยหาซื้อสายพันธุ์ต่างๆ จากสวนที่ปลูกจนประสบผลสำเร็จในประเทศไทย นำมาขยายพันธุ์และพัฒนาต่อจนได้ผลผลิตออกขายสู่ตลาดมากขึ้น

 ใช้เวลาอย่างต่ำ 2 ปี ไม้จึงขายสู่ตลาดได้

ในขั้นตอนของการปลูกหม้อข้าวหม้อแกงลิงให้มีคุณภาพนั้น คุณชุมกานต์ บอกว่า ไม้ภายในสวนมีทั้งแบบซื้อต้นเล็กมาเลี้ยงให้เจริญเติบโตและขายออก และบางส่วนนำต้นพ่อแม่พันธุ์ที่มีอยู่ภายในสวนมาผสมพันธุ์เพื่อพัฒนาสายพันธุ์ต่อไป ซึ่งการพัฒนาสายพันธุ์ต้องใช้ระยะเวลา แต่ถือเป็นสิ่งที่ท้าทายเพราะได้ลุ้นไม้ใหม่ๆ ว่าออกมาสวยมากน้อยเพียงใด

พื้นที่ภายในสวน

“ถ้าเป็นไม้ที่เราซื้อมาเพื่อเลี้ยงต่อ จะซื้ออายุไม้ 1 ปี มาเลี้ยงดูแลอีก 1 ปี เมื่อไม้เจริญเติบโตจนครบ 2 ปี ถึงจะนำไม้เหล่านั้นออกขายสู่ท้องตลาด บางส่วนก็จะเป็นไม้ที่ออกจากสวนเราเอง ที่เกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ ในแบบที่เราเลือกผสมพันธุ์เอง เมื่อได้ลูกไม้ที่สวยๆ แล้ว ก็จะเลือกต้นที่เราคิดว่าดีที่สุด มาทำการเลี้ยงให้เจริญเติบโตเต็มที่และขยายพันธุ์ทำเป็นการค้าต่อไป” คุณชุมกานต์ บอก

วัสดุที่ใช้ปลูกหม้อข้าวหม้อแกงลิงเป็นกาบมะพร้าวสับเล็กที่ผ่านการแช่น้ำมาแล้ว 2 ครั้ง และไม้กินแมลงชนิดอื่นมีการผสมวัสดุอื่นเข้าไปด้วย โดยดูตามลักษณะนิสัยของไม้นั้นๆ ว่าชอบวัสดุปลูกในรูปแบบใด ก็จะมีการผสมวัสดุปลูกนั้นๆ ให้เหมาะสมกับชนิดไม้

การรดน้ำให้หม้อข้าวหมอแกงลิง คุณชุมกานต์ บอกว่า รดน้ำให้ทุกวันพร้อมทั้งมีการใช้เครื่องพ่นฝอยแบบอัตโนมัติ น้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญโดยไม้ต้องวางให้อยู่ในพื้นที่ที่มีแสงแดดเพียงพอ เพราะหม้อข้าวหม้อแกงลิงเป็นไม้ที่ชอบแดดพร้อมและความชื้น ดังนั้น การรดน้ำมีทั้งให้ด้วยสปริงเกลอร์และใช้สายยางช่วยจึงไม่สามารถปล่อยให้ไม้ขาดน้ำได้

“การใส่ปุ๋ยให้กับหม้อข้าวหมอแกงลิง จะใส่ให้ตอนที่เราทำการเปลี่ยนกระถาง เป็นปุ๋ยออสโมโค้ทละลายช้าสูตรเสมอ อัตราส่วน 1 ช้อนชา ต่อ 1 กระถาง ส่วนไม้กินแมลงชนิดอื่นไม่ต้องใส่ปุ๋ย เพราะจากที่เคยสังเกตมา เวลาที่ใส่ปุ๋ยลงไปไม้จะไม่ค่อยงาม หรือใส่แล้วการเจริญเติบโตก็ไม่แตกต่างกับไม่ใส่ เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนไม้กินแมลงชนิดอื่นจึงตัดปัญหาเรื่องการใส่ปุ๋ยลงไป แต่มาใส่ปุ๋ยบำรุงหม้อข้าวหม้อแกงลิงเพียงตัวเดียว” คุณชุมกานต์ บอก

ในเรื่องของโรคที่จะเกิดกับไม้ภายในสวน คุณชุมกานต์ บอกว่า ที่ต้องระวังมากที่สุดจะเป็นเชื้อราในช่วงฤดูฝน ส่วนแมลงที่ต้องป้องกันเป็นพวกเพลี้ย เนื่องจากไม้กินแมลงพวกชอบความชื้น ดังนั้น น้ำที่ใช้รดและความสะอาดของโรงเรือนเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดเชื้อราและรากเน่าทำให้ไม้ตายได้

พิงกุยคูล่า ไม้กินแมลงอีกชนิดหนึ่ง

 สร้างตลาดโดยออกร้าน และขายออนไลน์

ในเรื่องของการทำตลาดเพื่อขายหม้อข้าวหม้อแกงลิงนั้น คุณชุมกานต์ บอกว่า ในช่วงแรกเน้นสร้างฐานตลาดด้วยการออกร้านตามงานเกษตรต่างๆ พร้อมทั้งสร้างจุดขายด้วยการนำไม้ที่ปลูกภายในสวนโพสต์ขายทางออนไลน์ ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดไกลออกไป สามารถเห็นภาพไม้ภายในสวนและตัดสินใจสั่งซื้อได้ ซึ่งการทำตลาดออนไลน์สิ่งที่คนขายต้องมีคือเรื่องของความซื่อสัตย์ เพราะไม้ที่ส่งให้กับลูกค้าต้องเป็นไม้ที่ลงขายอยู่ในขณะนั้นจริง ไม่มีการเปลี่ยนต้นอื่นให้กับลูกค้า

ขนาดพร้อมขาย

“หม้อข้าวหม้อแกงลิง ไม้ชนิดนี้คนไทยจะนิยมให้มีหม้อที่เยอะๆ โดยไม่ได้ห่วงเรื่องรูปทรงและสีสันมากนัก แต่ถ้าเป็นตลาดต่างประเทศ ถึงต้นนั้นจะมีลูกเพียงลูกเดียว แต่ถ้ามีรูปทรงที่สวยก็จะซื้อในรูปแบบนั้นมากกว่า ดังนั้น ความชอบของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป ซึ่งผมเองส่วนมากเน้นขายตลาดในประเทศมากกว่า ก็ถือว่าไม้ชนิดนี้ยังสามารถทำในเรื่องของการตลาดได้ดีอยู่” คุณชุมกานต์ บอก

โดยไม้ภายในสวนราคาขายเริ่มต้นมีตั้งแต่ 40 บาท และต้นที่มีอายุและทรงที่สวยงามเป็นไม้ที่ผ่านการคัดรูปทรงอย่างดีปลูกเลี้ยงมาหลายปี ซึ่งลูกค้าสามารถซื้อเพื่อนำไปพัฒนาเป็นพ่อแม่พันธุ์ได้ ราคาขายอยู่ที่หลักพันบาท

การเพาะเมล็ดหม้อข้าวหม้อแกงลิง อายุ 2 สัปดาห์

สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะปลูกเลี้ยงหม้อข้าวหม้อแกงลิงให้ประสบผลสำเร็จได้นั้น คุณชุมกานต์ แนะนำว่า การปลูกไม้กินแมลงโดยเฉพาะหม้อข้าวหม้อแกงลิง ต้องเข้าใจนิสัยก่อนว่าไม้เหล่านี้ค่อนข้างชอบแดดและน้ำ ดังนั้น น้ำจึงเป็นสิ่งที่สำคัญไม่ควรให้ไม้ขาดน้ำ หากไม่มีเวลารดน้ำต้องหาภาชนะใส่น้ำหล่ออยู่ใต้กระถางอยู่ตลอด ดังนั้น การศึกษาข้อมูลในเรื่องของนิสัยของไม้อยู่เสมอจะช่วยให้การปลูกไม้กินแมลงสามารถประสบผลสำเร็จได้ไม่ยาก

หม้อข้าวหม้อแกงลิง

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณชุมกานต์ สองเมือง หมายเลขโทรศัพท์ (084) 096-6536