‘น้ำหอมจำปี’ ผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าแก้ปัญหาราคาตก จากเกษตรหนองแขม

ดอกจำปี ไม้ดอกไม้ประดับกลิ่นหอมเย้ายวน ใครได้กลิ่นเป็นต้องหลงใหล นิยมปลูกกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ นำมาใช้ในวันมงคลต่างๆ อาทิ ไหว้พระ สรงน้ำพระ หรือกราบไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพ แต่ด้วยช่วงหลังมานี้ ดอกจำปีมีมากเกินความต้องการ เกษตรกรผู้ปลูกดอกจำปีจึงได้รับผลกระทบไปด้วย

ด้วยเหตุนี้เอง ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกจำปีหนองแขม ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ปลูกรายใหญ่ จึงได้คิดเพิ่มมูลค่าให้กับดอกจำปี ด้วยการกลั่นเป็นน้ำหอม

คุณพยุง หนูแย้ม ประธานกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกจำปีหนองแขม เล่าว่า เดิมทีเป็นกลุ่มอาชีพปลูกจำปีขายดอก มีสวนจำปีกว่าพันไร่ แต่นานเข้าจำนวนก็ลดลง อีกทั้งช่วงหลังเกิดสินค้าล้นตลาด ราคาขายไม่แน่นอน จนปี 2548 เหลือพื้นที่ปลูกจำปีประมาณ 5-6 ร้อยไร่จากสมาชิกจำนวนกว่า 30 คนในบริเวณหนองแขม และพื้นที่ใกล้เคียง

ชาวบ้านและเกษตรกรจึงรวมกลุ่มกันเพิ่มมูลค่า โดยได้เจ้าหน้าที่เกษตรช่วยนำจำปีไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยจากดอกจำปีได้ เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกของกลุ่มคือ “น้ำหอมจำปี (Jumpee)” ใช้เครื่องกลั่นจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้เยอะ และได้น้ำหอมมีคุณภาพ

โดยจุดเด่นของน้ำหอมจำปี คือความหอมที่มาจากธรรมชาติแท้ๆ เสมือนได้ดมกลิ่นจากดอกไม้จริงๆ ซึ่งเชื่อว่าหลายคนที่หลงในเสน่ห์ความหอมสดชื่นของดอกจำปี น่าจะชอบน้ำหอมจำปีนี้

ด้วยความสำเร็จในการคิดค้นน้ำหอมจากดอกจำปี ทางกลุ่มได้สานต่อความตั้งใจเดิม คือเพิ่มมูลค่าให้กับดอกจำปีอีกขั้น ด้วยการต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ไม่ว่าจะเป็น น้ำหอมดอกมะลิ น้ำหอมดอกกุหลาบ

และนอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ประทินโฉมอีกหลากหลาย เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากขึ้น เช่น ครีมอาบน้ำ (เป็นผลิตภัณฑ์ขายดีรองจากน้ำหมอม) เกลือขัดผิว สบู่ใสน้ำผึ้ง เกลือสมุนไพรแช่เท้า สเปรย์ดับกลิ่น แชมพูสมุนไพรรวม เป็นต้น

สนใจน้ำหอมจำปีและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ติดต่อได้ที่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกจำปีหนองแขม 31 ซอยต้นสน (ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้) หมู่ที่ 2 แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 02-807-2769 / 081-645-1507 / 086-090-9608 ไลน์ 086-090-9608 

สำหรับวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกจำปีหนองแขมนั้นเป็นหนึ่งวิสาหกิจชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ ไมซ์เพื่อชุมชน ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่าง ทีเส็บและกรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดขึ้นเพื่อสร้างเป้าหมายและพื้นที่ใหม่ไว้รองรับการจัดการประชุม สัมมนา นิทรรศการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ เผยว่า ทีเส็บเล็งเห็นว่า ประเทศไทยมีสหกรณ์ชุมชนที่มีศักยภาพ กว่า 8,000 แห่ง จึงได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์และภาคีเครือข่ายร่วมกันจัดโครงการ “ไมซ์เพื่อชุมชน” ขึ้นเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมชุมชนที่มีศักยภาพให้เป็นจุดหมายปลายทางใหม่ รองรับธุรกิจไมซ์ เพิ่มและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น โดยเฉพาะสมาชิกเกษตรกร

“สำหรับธุรกิจไมซ์ คืออุตสาหกรรมที่จัดประชุม งานแสดงสินค้า และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล เป็นอุตสาหกรรมที่มีรายได้เฉลี่ย 62,000 ล้าน ในเบื้องต้นได้คัดเลือกสหกรณ์นำร่องที่มีศักยภาพ 35 แห่งทั่วประเทศ คาดว่าจะเพิ่มอีก 200 แห่ง”

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการทีเส็บ เผยว่า ได้นำข้อมูลของสหกรณ์ทั้ง 35 แห่ง ไปจัดทำเป็นคู่มือสถานที่จัดงานไมซ์เพื่อชุมชน นำเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มตลาดเป้าหมายทั้งออฟไลน์และออนไลน์

ด้าน นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เผยว่า ยังดำเนินแผนพัฒนาทั้ง 35 สหกรณ์ อย่างต่อเนื่องทั้งระบบจัดการ ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้พร้อมสำหรับการรองรับเอกชนและหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าไปจัดงาน