ฤดูฝน “ต้นหอม” ทำเงินดี เกษตรกรที่โคราช ปลูกขายกก.150บาท

คุณทองสุข ชำนาญผลิต หรือ พี่อุ้ม อยู่บ้านเลขที่ 856/1 ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา พี่อุ้ม หนุ่มโสด วัย 41 ปี ใช้ชีวิตเป็นเกษตรกรตั้งแต่จำความได้ ด้วยความที่เรียนจบไม่สูงจึงยึดอาชีพเป็นเกษตรกรอาศัยความชำนาญเลี้ยงชีวิต ปัจจุบัน พี่อุ้มเริ่มหันมาปลูกหอมแบ่ง เป็นระยะเวลา 3 ปี ถือว่าราคาดีมาตลอด

ปลูกเพียง 2 ไร่ แบ่งปลูกหอมเป็น 2 พันธุ์ ด้วยกัน คือ พันธุ์ขาไก่ 1 ไร่ และพันธุ์อุตรดิตถ์ 1 ไร่

หอมทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป อย่างพันธุ์ขาไก่มีอายุเก็บเกี่ยว 60 วัน สายพันธุ์นี้ต้องดูแลนานก็จริงแต่คุ้ม เพราะสามารถเก็บไว้รอราคาขึ้นได้ ส่วนสายพันธุ์อุตรดิตถ์ให้ผลผลิตดี อายุการเก็บเกี่ยวสั้น เพียง 35-40 วัน เก็บขายได้เร็ว ไม่ต้องดูแลมาก

หอม เป็นพืชที่ปลูกได้ตลอดทั้งปี ถ้าหน้าฝนราคาจะสูงถึงกิโลกรัม 150 บาท พูดง่ายๆ ว่า ผลผลิตยังคาแปลงพ่อค้าแม่ค้าก็มาแย่งจองกันแล้ว อย่างที่นี่ทำได้ตลอด เพราะรู้แล้วว่าช่วงฤดูฝนมาต้องทำอย่างไร ยกร่องแปลงสูงขนาดไหน หน้าฝนทีไรเรายิ้มออก เพราะมีการจัดการที่ดี

เทนนิคการปลูก ยกร่องหนีฝน

การปลูกหอมแบ่งของพี่อุ้ม จะไถดิน 2 ครั้ง และยกร่องให้สูง หากอยู่ในช่วงฤดูฝนใช้วิธีนี้ ปัญหาหอมเน่ารากเน่าจะไม่เกิด ขั้นแรกไถพรวนผาล 3 ทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ แล้วยกร่อง ครั้งที่ 2 ไถพรวนผาล 4 ตากดินทิ้งไว้อีก 1 สัปดาห์ และยกร่องขึ้นมาใหม่ให้ร่องสูงประมาณหัวเข่า เพื่อแก้ปัญหาในช่วงฤดูฝนกันรากเน่า ความยาวของแปลงตามสะดวก เมื่อทำเสร็จให้รดน้ำ 2 วัน แล้วใช้เครื่องตีดินแบบเดินตาม เพื่อให้ดินร่วนซุยอีกครั้ง

เมื่อเตรียมดินยกร่องปลูกเรียบร้อยแล้ว จากนั้นให้นำหัวหอมที่เตรียมไว้มาปักลงดิน เพียงครึ่งหัว ความห่างระหว่างต้น 1 คืบมือ 1 หัว จะแตก 4-5 ต้น ถือว่าได้ผลผลิตกำลังพอดี ถ้าให้มากกว่านี้ หลอดจะเล็ก ตลาดไม่ต้องการ เราต้องทำให้ตรงกับความต้องการของตลาดถึงจะขายได้

การดูแล-ระบบน้ำ

ระบบน้ำที่ใช้เป็นระบบสปริงเกลอร์หัวปกติ รดน้ำเช้า-เย็น ในตอนเช้าเปิดรดน้ำ 5 นาที ตอนเย็นรดเพียง 2 นาที เมื่อหอมขึ้นประมาณ 1 ข้อนิ้ว ให้พักรดน้ำเป็นวันเว้นวัน หากรดทุกวันตาจะไหม้

โรคแมลง

มีเป็นปกติ ยิ่งช่วงหน้าร้อนต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะหนอนหลอดจะระบาด วิธีการดูแลอาจต้องมีการใช้สารเคมีผสมกับอินทรีย์บ้าง อย่างการใช้น้ำส้มควันไม้เข้าช่วย จะให้ใช้สารเคมีอย่างเดียวผู้บริโภคก็ไม่ไหว เกษตรกรตัวเราเองร่างกายก็รับไม่ไหวเหมือนกัน

การเก็บเกี่ยว

ใช้แรงงาน ถอนช่วงเช้าๆ 45 เข่ง ก็ได้เป็น 100 กิโลกรัมแล้ว เราไม่ได้ถอนทั้งวัน ถอนแล้วตั้งไว้ ล้างน้ำเปล่า ตากไว้ในที่ร่ม หอมจะไม่เหี่ยว ตกเย็นมาขับรถไปส่งที่ตลาด

ลงทุนน้อย กำไรมาก

ปลูกหอมแบ่ง 2 ไร่ ได้ผลผลิตประมาณ 2-3 ตัน ต่อไร่ หากคิดราคาในปัจจุบัน อยู่ที่กิโลกรัมละ 25-35 บาท ราคามีดีบ้างไม่ดีบ้าง หากขายไม่ได้ก็สามารถนำมาทำพันธุ์ต่อได้ ทำมา 2 ปี ถ้าเทียบกับการปลูกข้าวโพดและมันสำปะหลังถือว่าคุ้มกว่ากันมาก ปลูกหอมใช้เงินลงทุน ประมาณ 15,000-20,000 บาท ราคานี้รวมค่าพันธุ์หอม ค่าแรง ค่าอุปกรณ์แล้วทุกอย่าง แต่ถ้าปลูกข้าวโพดและมันสำปะหลัง บวกกับค่าเช่าที่แล้ว ต้องใช้เงินลงทุน ไร่ละ 200,000 บาท ทำไปก็เป็นหนี้ ซึ่งตอนนี้มีแผนที่จะยกเลิกการปลูกข้าวโพดและมันสำปะหลัง แล้วเปลี่ยนมาขยายเป็นการปลูกหอมและผักชีเพิ่ม