เกษตรกรเมืองสารคาม ปลูกองุ่น ดูแลง่าย ไร่เดียวสร้างรายได้กว่า 2 แสนบาท / ปี

ที่ บ้านหนองทุ่ม ต.หนองทุ่ม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม มีเกษตรกรทำสวนองุ่น ซึ่งจะเน้นวิธีการปลูกแบบธรรมชาติ สร้างรายได้กว่า 200,000 ต่อปี โดยเจ้าของชื่อ นางทองม้วน วงศาไฮ เป็นเจ้าของสวนองุ่นแคลทลียา

นางทองม้วน กล่าวว่า ก่อนที่ตนจะมาทำสวนองุ่นเคยประกอบอาชีพค้าขายอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งการใช้ชีวิตค่อนข้างจะลำบาก ต่อมาได้เดินทางกลับบ้านเกิดและเห็นสวนองุ่น จึงเกิดความสนใจอยากทดลองปลูก จึงซื้อพันธุ์มา 2 ต้น ราคาต้นละ 290 บาท นำมาปลูกไว้ที่หน้าบ้าน พบว่าองุ่นเจริญเติบโตดีดูแลรักษาก็ไม่ยุ่งยาก และเก็บผลผลิตได้ 25 กิโลกรัม จึงเป็นแรงบันดาลใจทำให้ผันชีวิตจากอาชีพแม่ค้าหันมาเป็นเกษตรกรปลูกองุ่นที่บ้านเกิด

นางทองม้วน กล่าวต่อว่า ใช้ที่ดินเพียง 1 ไร่เศษ ปลูกองุ่น จำนวน 400 ต้น ปลูกมาได้ประมาณ 2 ปีเศษ เน้นการปลูกตามวิถีธรรมชาติ ใช้โดโลไมท์ช่วยปรับปรุงดิน และปุ๋ยคอกบำรุงต้นให้เจริญงอกงาม ส่วนปุ๋ยเคมีใช้ สูตร 15-15-15 แต่ใช้เพียงส่วนน้อย เพื่อกระตุ้นรากองุ่นในระยะแรกเท่านั้น ในรอบปีแรกผลผลิตออกมาเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากน้ำที่ใช้เป็นน้ำบาดาลหรือน้ำใต้ดินเป็นน้ำกร่อยส่งผลต่อรสชาติองุ่นมีความหวาน องุ่นที่นี่จะไม่ใช้สารเคมี ผลผลิตองุ่นที่เก็บขายได้ในปีแรก 1,400 กิโลกรัม ราคาขายกิโลกรัมละ 150 บาท

“สำหรับองุ่นเขียวองุ่นไวท์มะละกา และพันธุ์ไร้เมล็ด กิโลกรัมละ 200 บาท ทำให้มีรายได้ กว่า 200,000 บาท การขายเน้นการสร้างความสุขให้กับลูกค้าโดยจะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้าชม แบบครอบครัว ที่สามารถเลือกซื้อองุ่นแบบชี้พวงและตัดไปชั่งน้ำหนักได้เลย จึงทำให้มีผู้สนใจเข้าชมและสั่งจององุ่นไว้ล่วงหน้า ส่วนผลผลิตองุ่นปีที่ 2 ผลองุ่นมีความสมบูรณ์กว่าปีแรกมาก เนื่องจากต้นองุ่นต้นใหญ่และสมบูรณ์ขึ้นกว่าปีแรก ซึ่งจะเก็บผลผลิตออกขายได้ ประมาณปลายเดือนพฤษภาคม 2561 นี้ลูกค้าสนใจเชิญมาเที่ยวชมและซื้อองุ่นที่สวนได้เลย” นางทองม้วน กล่าว