เด็กๆ โรงเรียนบ้านคลองแขยง เพาะต้นอ่อนทานตะวันสร้างรายได้

เช้าวันนี้ น้องเต้ย และ น้องฮาร์ท วัย 9 ขวบ ชั้น ป.2 รวมทั้งน้องปั๊บ ชั้นป.1 นักเรียนโรงเรียนบ้านคลองแขยง จ.กำแพงเพชร ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบแหล่งเรียนรู้ “ผ.ผักสวนครัว” ทำหน้าที่เป็น ผู้ช่วยคุณครู ลงมือปฏิบัติจริงเพื่อเรียนรู้ขั้นตอนการเพาะต้นอ่อนทานตะวัน กิจกรรมใหม่ที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ เรียนรู้จากประสบการณ์นอกห้องเรียน

ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ โรงเรียนมีขนาดเล็กทำให้ต้องจัดแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนสำหรับกิจกรรมแหล่งเรียนรู้ต่างๆ อาทิ แหล่งเรียนรู้ “ผ.ผักสวนครัว” “ข.ขยะขายได้” “บ.บ้านอัญชัน” “ร.เรือนนางฟ้า” “น.น้ำหมักชีวภาพ” “บ.ใบไม้ทับถม” และ “ป.ปลาตากลม” เป็นต้น

สามหนุ่มน้อยขมีขมันช่วยกันตัดต้นอ่อนทานตะวันที่ปลูกไว้ในตะกร้า แบ่งใส่ถุงพลาสติกใสแล้วนำไปชั่งให้ได้ถุงละ 150 กรัม ฝากให้คุณครู ผู้อำนวยการนำไปจำหน่ายในราคาถุงละ 20 บาท

กิจกรรมการเพาะต้นอ่อนทานตะวันของโรงเรียนบ้านคลองแขยงเริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เป็นการต่อยอดกิจกรรมภายใต้โครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต ที่บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เข้ามาส่งเสริมการผลิตอาหาร ให้ความรู้ด้านคุณภาพอาหารและความปลอดภัย รายได้จากการจำหน่ายทางโรงเรียนนำเข้ากองทุนจากการขายผักของโรงเรียน ปัจจุบันโรงเรียนมีทั้งกองทุนจากการขายผัก ขายเห็ดนางฟ้า และทำน้ำสมุนไพร โดยปันผลคืนให้นักเรียนในช่วงปลายปีการศึกษา

น้องเต้ย ด.ช.สุพรรณ จันผ่อง เล่าว่าต้นอ่อนทานตะวันปลูกง่าย นำไปประกอบอาหารกลางวันให้นักเรียนและจำหน่าย ขายไปแล้วทั้งหมด 4 ครั้ง มีรายได้เข้ากองทุนรวม 1,060 บาท

น้องเต้ยถ่ายทอดขั้นตอนการปลูกต้นอ่อนทานตะวันว่า นำเมล็ดพันธุ์ไปล้างให้สะอาดแล้วนำผ้ามาห่อแช่น้ำไว้ 1 คืน บ่มเมล็ดไว้อีก 1 คืน เมื่อครบกำหนดที่เมล็ดจะมีตุ่มขาวๆ ขึ้น นำไปลงปลูกได้ ขั้นตอนการเตรียมดินจะมีส่วนผสม 3 อย่าง คือ ดินปลูกร่อนละเอียด ขุยมะพร้าวละเอียด และน้ำหมักหน่อกล้วย ผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ตักใส่ตะกร้า ให้ดินที่ผสมหนาประมาณ 1 นิ้ว โรยเมล็ดทานตะวันให้ทั่วตะกร้า โรยดินกลบเมล็ด รดน้ำให้ชุ่มทั้งเช้าและเย็น รอครบกำหนด 7 วันสามารถตัดได้

ด้าน น้องฮาร์ท ด.ช.ธนพล พึ่งโพธิ์ เล่าเสริมว่าในการเพาะต้นอ่อนทานตะวันแต่ละครั้งจะใช้เมล็ดทานตะวัน 500 กรัม สามารถผลิตต้นอ่อนทานตะวันได้ 3 กิโลกรัม นำไปขายมีรายได้ 400 บาท เมื่อหักต้นทุนการผลิตจะมีกำไรถึง 315 บาทต่อครั้งที่จำหน่าย จากการเรียนรู้การเพาะต้นอ่อนทานตะวันนำกลับไปทำเองที่บ้าน พ่อและแม่ช่วยเอาไปขายมีรายได้ช่วยค่าใช้จ่ายของที่บ้าน แม้จะไม่มากมายแต่ภูมิใจที่มีส่วนช่วยเหลือครอบครัว

น้องเล็กสุด ด.ช.ศุภณัฐ ปานฤทธิ์ หรือ น้องปั๊บ กล่าวว่าดีใจที่ช่วยกันผลิตอาหารได้เอง ทำได้เองทุกขั้นตอน คุณครูยังมอบหมายให้น้องปั๊บถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้เพื่อนๆ ในโรงเรียนด้วย

“กิจกรรมเพาะต้นอ่อนทานตะวัน” ไม่ได้เกิดผลแค่เพียงการส่งเสริมรายได้ แต่เป็นการปลูกฝังวินัย ความรับผิดชอบ รู้จักการทำงานร่วมกัน และเป็นความพยายามของโรงเรียนเล็กๆ ในพื้นที่ต่างจังหวัดที่เห็นความสำคัญของการให้เด็กมีโอกาสสัมผัสประสบการณ์จริง เรียนรู้ด้านการเกษตรที่เป็นพื้นฐาน เติมทักษะชีวิตเพื่อเติบโตอย่างมีคุณภาพ

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์