นวลทองจันทร์ ทุเรียนรสเด็ด-ไร้กลิ่น เมืองจันท์ โค่นคู่ปรับ มอนซานคิง ชิงทำผลผลิตนอกฤดู

ที่สวนทุเรียนนวลทองจันทร์ ที่มีพื้นที่ถึง 300 ไร่ ในพื้นที่บ้านมาบไพ ต.มาบไพ อ.ขลุง จ.จันทบุรี ของ นายพจน์ นพพันธ์ อายุ 59 ปี เจ้าของสวนทุเรียนลูกผสม ระหว่าง พันธุ์พวงมณีกับหมอนทอง ที่ธรรมชาติเป็นตัวคัดเลือกด้วยหมู่แมลงเป็นตัวกลาง นำเกสรของดอกทุเรียน 2 สายพันธุ์มาผสมข้ามสายพันธุ์ จนได้ทุเรียนสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นกลางสวนผลไม้ของชาวจันทบุรี และได้รับการตั้งชื่อว่า “นวลทองจันทร์” ที่ยึดเอา ชื่อภรรยาของนายพจน์ ที่ชื่อ “นวล” และคำว่า “ทอง” ที่ถือว่าเป็นของมีค่า กับคำว่า “จันท์” คือ จ.จันทบุรี โดยในปีนี้ ทุเรียนนวลทองจันทร์ จากสวนทุเรียนขนาดใหญ่แห่งนี้ ได้กลายเป็นทุเรียนนอกฤดู ที่ให้ผลผลิตออกสู่ท้องตลาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์อื่น ซ้ำยังมีราคาแพงลิ่ว ทะลุกิโลกรัมละกว่า 200 บาท

นายพจน์ เปิดเผยว่า ปีนี้ แม้สภาพอากาศจะแปรปรวน ทุเรียน หรือผลไม้ชนิดอื่น ต่างออกดอกให้ผลน้อย แต่ด้วยการทำเกษตรแบบผสมผสานบ้าง ส่งผลให้ทุเรียนนวลทองจันทร์ ออกดอกผลได้ดี ปัจจุบันนี้ ทุเรียนนวลทองจันทร์ ได้ชื่อว่าราคาแพงสุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท และเป็นคู่ปรับกับทุเรียน ที่ขึ้นชื่อว่าที่สุดในโลกของประเทศมาเลเซีย คือ ทุเรียนพันธุ์มอนซานคิง ซึ่งพ่อค้ารับซื้อทุเรียนชาวไต้หวัน ยืนยันว่า สามารถแข่งกับทุเรียนพันธุ์ดีที่สุดในโลก อย่างเช่น มอนซานคิงได้ เนื่องจากมีสีสวยกว่า เนื้อหนากว่าและเม็ดเล็กลีบ และ ไร้กลิ่น

แต่ปัจจุบันนี้ อย่าได้ประมาทกับประเทศคู่แข่งทางด้านผลไม้ อย่างเช่น เวียดนาม หรือลาว ซึ่งประเทศเหล่านี้ สภาพดินฟ้าอากาศอยู่ในเส้นศูนย์สูตรเดียวกันกับเรา รวมไปถึงสื่อโซเชียลในปัจจุบันรวดเร็วและหาข้อมูลได้ง่าย ซึ่งหากเราไม่รักษาคุณภาพ ประเทศคู่แข่ง ก็จะแซงเราไปด้วยซ้ำ และตลาดใหญ่ของทุเรียน อาจไปอยู่ยังประเทศเวียดนาม

ด้าน นายมานพ อมรอรช เกษตรกรรุ่นใหม่ หรือ สมาร์ทยังฟาร์มเมอร์ เป็นคนหนึ่งที่ได้มาทดสอบ และลองชิมรสชาติ ทุเรียนนวลทองจันทร์ กล่าวว่า ทุเรียนนวลทองจันทร์ มีขนาดและน้ำหนัก เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม แต่ยังคงรสชาติหวานมัน เม็ดลีบ เนื้อเยอะ และเหนียว ที่สำคัญยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น กลิ่นฉุนน้อยมาก หรือแทบจะไร้กลิ่น อีกด้วย