ปลูกผักในตู้คอนเทนเนอร์ ควบคุมผ่านระบบคลาวด์ สั่งงานผ่านแอพฯ

สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาน้ำท่วม และภัยธรรมชาติต่างๆ มักเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อจำนวนผลผลิตทางการเกษตรไม่เป็นไปตามความต้องการของผู้ปลูก ลำพังเกษตรกรไทยคนเดียวคงไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้

Evergrow คือ แปลงปลูกผักออร์แกนิคในตู้คอนเทนเนอร์ โดยจำลองแสงแดดจากดวงอาทิตย์ในรูปแบบของหลอดไฟ LED ควบคุมอากาศและน้ำด้วยระบบคลาวด์ สั่งงานผ่านแอพลิเคชั่น ช่วยให้การปลูกผักขนาดเล็กเป็นเรื่องง่าย สามารถปลูกผักได้สูงสุดครั้งละ 50 ต้น โดยไม่ต้องดูแล รดน้ำ พรวนดิน ทุกอย่างทำงานอัตโนมัติ ข้อมูลจะถูกส่งไปปรากฏยังสมาร์ทโฟน คนที่ปลูกผักไม่เป็นก็สามารถปลูกได้

mobile-app

จำลองธรรมชาติ อยู่ในตู้ฯ
ใช้ซอฟแวร์สั่งงาน

คุณภุชงค์ วงษ์ทองดี หรือ “อาร์ม” เด็กหนุ่มวัย 26 ปี เจ้าของบริษัท Unixconจำกัด และเจ้าของนวัตกรรม EverGrow เครื่องปลูกผักในตู้คอนเทนเนอร์ โดยอาศัยโปรแกรมอัตโนมัติ ผักที่ปลูกได้เป็นผักออร์เเกนิค

ประวัติคุณอาร์ม เจ้าตัวเล่าว่า ก่อนหน้านี้เป็นพนักงานบริษัทซอฟแวร์แห่งหนึ่งราว 10 ปี กระทั่งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ลาออกมารวมตัวกับเพื่อนเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง ซึ่งกลุ่มเพื่อนล้วนอยู่ในแวดวงคนทำเกษตร ฉะนั้นเลยมองเห็นโอกาสในธุรกิจเกษตรหลายอย่าง จึงศึกษาเรื่องตลาด การเพาะปลูก การซื้อ – ขาย และจากการศึกษาทำให้ยิ่งมองเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจดังกล่าวมากขึ้น

%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%93%e0%b8%a0%e0%b8%b8%e0%b8%8a%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b9%8c-%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b8%a9%e0%b9%8c%e0%b8%97%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%94%e0%b8%b5

“ตอนเก็บข้อมูลได้เดินทางไปต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ก็พบว่าสภาพภูมิประเทศและพื้นที่ในการเพาะปลูกมีน้อย ประชากรอาศัยในคอนโดเยอะ ราคาผักผลไม้ค่อนข้างแพง ส่วนประเทศไทยเกษตรกรส่วนใหญ่มักพบปัญหาเรื่องสภาพอากาศ และราคาสินค้าที่ควบคุมไม่ได้ ฉะนั้นจึงเกิดโมเดลธุรกิจ EverGrow ขึ้นมา”

ความตั้งใจของคุณอาร์ม เขาต้องการอุปกรณ์ที่สามารถปลูกผักและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี ไม่ต้องพึ่งสภาพแวดล้อม ภูมิอากาศ คนปลูกผักไม่เป็นก็สามารถปลูกได้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมารายละเอียดดังนี้

EverGrow คือ แปลงปลูกผักออร์แกนิคในตู้คอนเทนเนอร์ ขนาด 18 ล้อ ความยาวตู้ 12.5 X 2.5เมตร สามารถปลูกผักได้เทียบเท่ากับพื้นที่จริง 1 ไร่ หัวใจสำคัญภายในตู้นี้จะประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ ระบบคลาวด์ และโปรแกรมสั่งงานผ่านแอพลิเคชั่น

“ระบบคลาวด์ จะจำลองแสงแต่ละเฉดสีจากดวงอาทิตย์ในรูปแบบของหลอดไฟแอลอีดี โดยเลือกเฉพาะแสงที่พืชต้องการใช้สังเคราะห์คลอโรฟิลล์  และควบคุมระบบอากาศ ส่วนโปรแกรมที่สั่งงานผ่านแอพฯ จะควบคุมระบบน้ำ ระบบการใส่ปุ๋ย ระบบการเพาะเมล็ด  ตู้ดังกล่าวใช้ไฟ 220 โวลต์”

mbp_mock

3 โซน 36 วัน
เก็บกิน เก็บขายได้

สำหรับการใช้งานตู้คอนเทนเนอร์ปลูกผัก คุณอาร์ม บอกว่า ภายในตู้คอนเทนเนอร์จะแบ่งเป็น 3 โซน ข้อมูลทุกอย่างจะถูกเก็บในฐานข้อมูลของผู้ใช้แต่ละคนไว้บนคลาวด์

โซนที่ 1 เพาะเมล็ด ผู้ใช้งานต้องการปลูกผักชนิดไหน กดสั่งซื้อที่แอพฯ dashboade หรือจะซื้อเองนำมาปลูกก็ได้ โดยนำไปหย่อนลงในถาดฟองน้ำ โซนนี้จะใช้ระยะเวลาเพาะเมล็ด 12 วัน

โซนที่ 2 อนุบาลต้นกล้า โซนนี้จะใช้เวลา 12 วัน ในการอนุบาลต้นกล้าให้เจริญเติบโต

โซนที่ 3 พืชเจริญเติบโต ในช่วงเก็บกินได้ โซนนี้ใช้เวลา 12 วัน

รวมทั้ง 3 โซน ใช้เวลาทั้งสิ้น 36 วัน ผักสลัดที่ปลูกจะสามารถเก็บขาย หรือ เก็บกินได้ โดยที่ผู้ปลูกไม่ต้องไปดูแล ซึ่ง 1 ตู้คอนเทนเนอร์จะปลูกผักได้รอบละ 1,000 กิโลกรัม ปลูกผักได้เทียบเท่ากับพื้นที่จริง 1 ไร่

img_0767

“ผมหวังว่า EverGrow จะเป็นแหล่งรวมองค์ความรู้ด้านการเพาะปลูกผักและผลไม้ ช่วยให้เกษตรกรสามารถปลูกผักได้ทุกฤดู สร้างรายได้ตลอดทั้งปี ซึ่งโปรดักส์เป็นทั้งฮาร์ดแวร์หรืออุปกรณ์เพาะปลูก และซอฟ แวร์ช่วยให้การปลูกผักง่ายยิ่งขึ้น ลดต้นทุน เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค”

สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ตู้ดังกล่าว เจ้าของนวัตกรรม ระบุว่า ผู้ที่ต้องการปลูกผักขายแต่ไม่มีพื้นที่หรือผู้ทำธุรกิจผักและผลไม้ที่ต้องการผลผลิตในทุกฤดูกาล ซึ่งตู้ดังกล่าวไม่ต้องจ้างคนงานในจำนวนมากเพื่อดูแลผลผลิต เพราะทุกอย่างสามารถดูแลควบคุมการเพาะปลูกผ่านแอพฯ ได้ด้วยตัวเอง   โมเดลแปลงผักในตู้เหมาะกับธุรกิจโรงแรมที่ต้องการลดต้นทุนในการสั่งซื้อผัก และผู้ที่ต้องการปลูกผักส่งขายต่างประเทศ

ด้านราคาตู้ดังกล่าว คุณอาร์ม บอกว่า ราคา 2.1ล้านบาท กรณีที่ลูกค้าซื้อตู้ไป มีตลาดแล้ว แนะนำให้กำหนดราคาผักเอง ซึ่งราคาผักสลัดส่วนใหญ่อยู่ที่กิโลกรัมละ 100 -140 บาท

dashx

อีกทางหนึ่ง ลูกค้าที่ซื้อตู้ไป แต่ยังไม่มีตลาด ทางคุณอาร์มมีตลาดไห้ แบ่งออกเป็น 2 แบบ แบบที่ 1 fix return ทางคุณอาร์มจะเช่าตู้ต่อจากผู้ซื้อตู้ แล้วจ่ายค่าเช่าคืนทุกๆ 2 เดือน ค่าเช่าประมาณ 30,000 บาท 5-6 ปี คืนทุน สัญญา 10 ปี แบบที่ 2 profit share ทางคุณอาร์มจะเลือกปลูกผักที่มีมูลค่าสูง แล้วจะหักเปอร์เซ็นต์จากราคาขาย เป็นการเสี่ยงร่วมกันกับเจ้าของตู้

ตู้ปลูกผักดังกล่าวเปิดตัวได้ไม่นาน คุณอาร์ม กล่าวว่า ขายตู้ได้แล้ว 2 ตู้ สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต คือ พยายามหาตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง ประเทศที่ไม่สามารถปลูกพืชได้ และหวังว่านวัตกรรมนี้จะตอบโจทย์ธุรกิจเกษตรให้เป็นเรื่องง่าย และฉลาดมากขึ้น เพราะสามารถลดอัตราการจ้างงานและการผิดพลาดในการดูแลรักษาผักผลไม้

img_0758

“เราหวังว่าแพลตฟอร์ม EverGrow จะทำให้การปลูกผักเป็นเรื่องง่าย อยากปลูกอะไรก็สามารถปลูกได้ไม่ง้อสภาพอากาศ และความสามารถเฉพาะตัว หวังว่าจะตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในระยะยาว”