ที่มา | เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์ |
---|---|
ผู้เขียน | องอาจ ตัณฑวณิช |
เผยแพร่ |
ถั่วเหลืองไม่ใช่พืชบ้านเรา แต่เป็นพืชที่พบในประเทศจีนเมื่อเกือบ 5,000 ปีที่แล้ว บริเวณลุ่มแม่น้ำเหลืองและเชื่อว่าอารยธรรมจีนก่อเกิดที่นั่น ถั่วเหลืองได้แพร่กระจายไปสู่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี ต่อมาได้เข้าสู่ยุโรปและอเมริกา ชาวปศุสัตว์อเมริกาได้อานิสงส์จากการนำถั่วเหลืองมาเป็นอาหารสัตว์อย่างเป็นล่ำเป็นสันด้วยชาวอเมริกันบริโภคเนื้อวัวเป็นหลัก ถั่วเหลืองเป็นอาหารโปรตีนชั้นยอดสำหรับวัว จึงมีพื้นที่การปลูกถั่วเหลืองและผลผลิตมากที่สุดในโลกที่อเมริกา และเป็นจุดเริ่มต้นของการดัดแปลงพันธุกรรมถั่วเหลือง โดยบริษัท โมซานโต้ ที่หลายประเทศรังเกียจกันหนักหนา
ในประเทศไทยเริ่มปลูกถั่วเหลืองกันกว่า 200 ปีแล้ว สันนิษฐานว่าเมล็ดพันธุ์ได้มาจากชาวจีนที่อพยพเข้ามาสู่ประเทศไทยสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2503 หน่วยงานของรัฐได้มีการปรับปรุงพันธุ์ถั่วเหลืองให้เหมาะสมกับภูมิอากาศบ้านเรา เช่น พันธุ์สุโขทัย 1-3 พันธุ์นครสวรรค์ 1 พันธุ์เชียงใหม่ 60 พันธุ์ สจ.4 และ สจ.5 ปัจจุบันนี้ การผลิตถั่วเหลืองยังไม่เพียงพอต่อความต้องการทำให้มีการนำเข้าถั่วเหลืองจากต่างประเทศมาบริโภคในครัวเรือนและส่วนใหญ่นำเข้ากากถั่วเหลืองมาเพื่อผลิตอาหารสัตว์ พื้นที่ปลูกในประเทศจะเป็นภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะเป็นพื้นที่ที่เหมาะกับการปลูกถั่วเหลืองมากที่สุดเนื่องจากอากาศค่อนข้างเย็นกว่าภาคอื่น
ถึงแม้ว่าถั่วเหลืองไม่ใช่พืชบ้านเราแต่ก็มีการนำถั่วเหลืองมาใช้บริโภคกันอย่างแพร่หลาย เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำนมถั่วเหลือง เต้าหู้ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการหมัก เช่น เต้าเจี้ยว ซอสถั่วเหลือง ถั่วเน่า เต้าหู้ยี้ ในอาหารประเภทผัดไฟแดง ก็ขาดเต้าเจี้ยวไม่ได้เด็ดขาด สรรพคุณของถั่วเหลืองได้รับการขนานนามว่า “ราชาแห่งถั่ว” ถ้ากินเป็นประจำช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว และโรคยอดนิยมในปัจจุบันคือ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน
ถั่วเหลืองอินทรีย์ของ ฟาร์มคุณทวด ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เริ่มต้นจาก คุณกฤตวิทย์ วางขุนทด หรือ คุณมาร์ค ที่เติบโตจากครอบครัวคนเมืองที่กรุงเทพฯ หลังจากเรียนจบวิศวกรรมเครื่องกลจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขนแล้ว ได้ไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านวิศวกรรมเครื่องกลที่ University Sussex ในเมือง Brighton ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ เนื่องจากมหาวิทยาลัยอยู่แถบชานเมืองจึงมีโอกาสได้เห็นชีวิตของคนชนบทที่ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์เพื่อบริโภคภายในครอบครัวเอง ส่วนที่เหลือก็นำมาขายในตลาดฟาร์มเมอร์มาร์เก็ต ซึ่งคล้ายตลาดนัดบ้านเรา
คุณมาร์ค เล่าว่า ตลาดผักในห้างของที่นั่นแยกส่วนชัดเจนระหว่างผักที่ผลิตด้วยเคมีกับผักที่เป็นออร์แกนิก ในห้างจะมีผักทั้งสองชนิด ผักเคมี 70% ผักอินทรีย์ 30% วางแยกชั้นออกคนละส่วนกัน ราคาของผักอินทรีย์จะแพงกว่าประมาณ 30% เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ซื้อ คนมีฐานะในอังกฤษจะเลือกอยู่ในชนบทที่มีอากาศดีและสามารถปลูกผักและเลี้ยงสัตว์ไว้บริโภคในบ้านได้ สัตว์ที่เลี้ยงส่วนใหญ่จะเป็นไก่ไข่ ซึ่งเลี้ยงในโรงเรือนปิดที่มีเครื่องทำความร้อนเนื่องจากที่นี่มีหิมะตกปีละ 4 เดือน ผักที่ปลูก เช่น แครอต บร็อกโคลี่ เซลเลอรี่ คนที่ปลูกจะใช้แรงงานในครอบครัว แต่ก็จะมีเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทุ่นแรงในการทำเกษตรใช้อย่างเต็มที่ เมื่อผลผลิตมีมากพอก็จะนำออกมาขายให้เพื่อนบ้านได้กินกัน ส่วนไข่ไก่ก็มีการแยกชัดเจนระหว่างไข่ไก่ที่มาจากการเลี้ยงกรงตับ และการเลี้ยงแบบปล่อยธรรมชาติ รัฐบาลของที่นั่นก็ให้ความสำคัญกับการที่มีพืชผักปลอดสารพิษให้ประชาชนเลือกที่จะบริโภคได้ไม่ยากและแยกชนิดกันอย่างชัดเจน
จากที่ได้มีโอกาสสัมผัสและซื้อผักดังกล่าวมาทำอาหารกินในตอนเรียนนั้น ทำให้คุณมาร์คประทับใจในวิถีชีวิตชนบทซึ่งไม่มีโอกาสได้สัมผัสในเมืองไทย จึงมีความคิดตลอดที่จะปลูกพืชผักในระบบเกษตรอินทรีย์หลังจากได้กลับบ้าน เมื่อเรียนจบได้มาทำงานเกี่ยวกับด้านวิศวกรรมเครื่องกลที่เรียนมาในกรุงเทพฯ อยู่ 3 ปี ระหว่างนั้นช่วงวันหยุดได้ออกไปต่างจังหวัดแถบจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ รวมถึงการตลาดทั้งภายในและต่างประเทศของเกษตรอินทรีย์อีกด้วย
ในช่วงนี้นาจำนวนสิบกว่าไร่ของคุณทวดที่เชียงรายที่เคยให้เช่าก็เปลี่ยนมาทำเอง โดยการปรับปรุงพื้นที่ทั้งหมดแล้วปลูกไม้ผล เช่น มะม่วง ไผ่ มะขาม มะละกอ กล้วย มะขามเปรี้ยว ขนุน และฝรั่งกิมจู จนต้นไม้เริ่มโตและบางชนิดให้ผลผลิตแล้วจึงลาออกมาทำการเกษตรเต็มตัว พืชชนิดแรกที่ทำเองคือการปลูกข้าว ทั้งข้าวหอมมะลิ และไรซ์เบอร์รี่ และต่อมาจึงได้ปลูกถั่วเหลืองอินทรีย์โดยใช้เมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองเชียงใหม่ 60 และได้เก็บพันธุ์มาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน
ถั่วเหลืองปลูกง่ายๆ ในภาคเหนือ
การปลูกถั่วเหลืองของทางภาคเหนือปลูกไม่ยากเหมือนภาคอื่นเพราะสภาพภูมิอากาศเหมาะสม ฟาร์มคุณทวด ปลูกถั่วเหลืองด้วยวิธีการไถพรวนพื้นที่ทั้งแปลง แล้วยกร่องขึ้นให้สูง 15-20 เซนติเมตร ความกว้างแปลง 1.5 เมตร ยาวตามพื้นที่แต่ก็ไม่เกิน 20 เมตร ตอนไถพรวนได้ใส่ปุ๋ยขี้วัวและขี้เป็ดซึ่งได้หมักไว้แล้วจำนวน 20-30 กระสอบ ต่อไร่ หลังจากนั้น ก็จะเอาไม้ยาวๆ จิ้มให้เป็นหลุมแล้วจะมีคนหยอดตามหลุมละ 5 เมล็ด โดยมีระยะแถวและระยะต้น 15 เซนติเมตร ใน 1 แถว จึงปลูกได้ 8 หลุม หลังจากหยอดเสร็จแล้วก็เอาฟางข้าวในนาของตัวเองมาคลุมค่อนข้างหนาเพื่อป้องกันวัชพืช และเป็นการรักษาความชื้นให้ได้มากที่สุด แล้วจึงปล่อยน้ำเข้าแปลงตามร่องของแต่ละแปลงที่ทำไว้ การปล่อยน้ำเข้าจะทำทุก 7 วัน หรือเห็นว่าดินแห้ง
หลังจากนั้น 7 วัน ต้นถั่วเหลืองจะเริ่มงอก ครบ 45 วันจะใช้คนถอนวัชพืชออกจากแปลง ถั่วเหลืองจะเริ่มออกดอกและติดฝักเมื่ออายุ 90 วัน ช่วงนี้จะมีศัตรูพืชรบกวน สิ่งนั้นคือหนู แต่ทางฟาร์มคุณทวดจะเลือกใช้วิธีปล่อยให้นกแสกมาทำรังในสวนเพื่อกำจัดหนู วิธีนี้ใช้ได้ผลในการกำจัดหนูศัตรูของเมล็ดถั่วเหลืองเป็นอย่างดี เนื่องจากทางฟาร์มคุณทวดไม่ได้ใช้สารเคมีหรือปุ๋ยเคมีใดๆ รวมถึงยาฆ่าแมลงและยาปราบศัตรูพืชจึงทำให้ระบบนิเวศเป็นไปอย่างสมดุล มีการเกื้อกูลกันระหว่างสิ่งมีชีวิตด้วยกัน ปัจจุบันฟาร์มคุณทวดมีแรงงานอยู่ 4 คน ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ซึ่งพอใจที่ทำงานในฟาร์มเนื่องจากไม่ใช้สารเคมีจึงไม่ต้องห่วงต่อการสูดดมสารเคมีซึ่งเป็นผลร้ายต่อสุขภาพ
ปลูกสลับกันระหว่างถั่วเหลืองกับข้าวผลผลิตได้ดี
บนผืนดิน 7 ไร่ที่ปลูกถั่วเหลืองอินทรีย์ จะถูกแบ่งเป็น 2 รุ่น รุ่นแรกปลูกเดือนมกราคม เก็บเกี่ยวได้ในกลางเดือนพฤษภาคม มีผลผลิตถั่วเหลืองต่อไร่ประมาณ 150 กิโลกรัม รวมผลผลิตทั้งหมดประมาณ 1 ตัน รอบนี้ผลผลิตส่วนใหญ่จะนำมาจำหน่าย และเหลือเมล็ดพันธุ์ไว้สำหรับปลูกรุ่นต่อไปคือ รุ่นที่สอง เริ่มปลูกปลายเดือนมิถุนายน เก็บเกี่ยวเอาปลายเดือนตุลาคม สำหรับรุ่นสองพื้นที่ปลูกถั่วเหลืองใช้แค่ 300 ตารางวา เพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์เท่านั้น ส่วนพื้นที่เหลือจะปลูกข้าวหอมมะลิและข้าวไรซ์เบอร์รี่
การเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองจะใช้วิธีให้คนเก็บด้วยเคียวเกี่ยวข้าว แล้วนำมาตากแดดบนนั่งร้าน ที่ทำด้วยตาข่ายรูพรุนสำหรับระบายอากาศได้ดี สักประมาณ 3 แดด ก็นำมาแยกฝักออกจากต้น แล้วนำมาเข้าเครื่องแยกเมล็ดที่ผลิตขึ้นเอง แล้วนำมาฝัดเศษเปลือกทิ้ง เสร็จแล้วจึงนำมาใส่กระด้งเกลี่ยให้กระจายไปทั่วกระด้ง แล้วเลือกเมล็ดที่ไม่ได้คัดทิ้งทีละเมล็ด เพื่อความมั่นใจของผู้บริโภคว่าถั่วเหลืองทุกเมล็ดที่ไปจากฟาร์มคุณทวด ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดี
เมื่อได้เมล็ดถั่วเหลืองอินทรีย์ที่มีคุณภาพแล้วก็จะนำมาบรรจุถุงพลาสติกสานที่มีรูพรุนเพื่อให้เกิดการระบายอากาศ วางบนชั้นไม้ไม่ให้สัมผัสพื้นโดยตรงในห้องเก็บผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ สำหรับเปอร์เซ็นต์การงอกท่านที่ต้องการเอาไปทำพันธุ์หรือเพาะเป็นถั่วงอกหัวโต จะมีอายุประมาณ 2-3 เดือนเท่านั้น สำหรับแพ็กสุญญากาศของผลิตภัณฑ์จะทำให้ถั่วเหลืองสามารถเก็บไว้สำหรับบริโภคได้นาน
ขายด้วยสื่อเทคโนโลยี
เนื่องจากฟาร์มคุณทวดได้เป็นส่วนหนึ่งของแฟนเพจผูกปิ่นโตข้าว จึงสามารถสื่อสารได้กว้างไกล ผลิตภัณฑ์ของฟาร์มนอกจากข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ถั่วเหลือง แล้วยังมีพืชสวนครัว ไข่เป็ด น้ำพริกถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์อื่นอีกในฟาร์ม สนนราคาข้าวไรซ์เบอร์รี่และถั่วเหลืองอินทรีย์แพ็กละ 1 กิโลกรัม ขาย 100 บาท ไม่รวมค่าส่ง ส่วนข้าวหอมมะลิกิโลกรัมละ 80 บาท จะเลือกเป็นข้าวกล้องหรือขัดขาวก็ได้ สนใจรับสินค้าปลอดภัยจากสารเคมี สามารถติดต่อได้ที่ คุณมาร์ค (084) 929-5301 Line: khunthuad Fanpage : khunthuad Farm หรือติดต่อโดยตรงที่ ฟาร์มคุณทวด ตำบลสันติสุข อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย
คำแนะนำของคุณมาร์คสำหรับผู้ที่ต้องการออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนนี้คือ จะต้องศึกษาเรื่องเกษตรอินทรีย์ให้ถ่องแท้เสียก่อนทั้งการผลิตและการตลาด นอกจากนี้ ปัจจัยการผลิตที่เป็นทุนเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก นอกจากนี้ การได้ทดลองทำไปก่อนในช่วงที่ยังทำงานประจำอยู่ก็เป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งในสภาพเศรษฐกิจอย่างนี้ ถ้าไม่แน่จริง ไม่แนะนำให้ออกจากงานครับ