“เกษตรเตรียมเกษียณ…สร้างสุข”

ผมนัดกับพี่วารินในยามบ่ายวันเสาร์ที่สวนหนองเสือ-คลองสิบสอง ถนนรังสิต-องครักษ์ ในยามนี้ไม่รู้รถรามาจากไหนกันบ้าง ดูหลามไหลมากมายจนอยากจะเดินแข่งกับรถ เพราะค่อยๆ คลานกันไปเรื่อยๆ ยังไม่รู้ว่าปลายทางจะรอกันนานไหม เพราะนัดไว้แล้วเวลาเคลื่อนไปไม่น้อย

ถึงแยกคลองสิบสอง ผมเลี้ยวซ้ายขับรถเลียบคลองไปเรื่อยๆ มองสวนต่างๆ ทั้งสวนส้ม สวนมะนาว สวนลำไย สวนกล้วย กระทั่งแปลงปลูกหญ้าขาย แถวนี้หากคนรักการเกษตร แค่ขับรถดูงานสวนนั้นสวนนี้ก็น่าจะได้แนวคิดอีกมากมาย ใช้เวลาไม่นานผมก็พาตัวเองและทีมงานมาถึง “สวนวาริน”

พี่วาริน และ Mr. Peter

พี่วาริน หรือ คุณอรุณ ไตรธรรม สาว (เหลือ) น้อยในวัย 50 พร้อมรอยยิ้มอันสดชื่นยืนรออยู่ที่หน้าบ้านหลังน้อย พร้อมยื่นชิ้นฝรั่งสุ่ยมี่ให้ชิมเมื่อพบหน้า ผมรับมาเข้าปากทันทีมิรอช้า กลิ่นหอมบางๆ ความกรอบต้องยกให้เขาจริงๆ

“ครั้งนี้ไม่ค่อยหวานนะพี่”

“ใช่เลย เจอทั้งฝนและคนสวนรดน้ำทุกวันอีก และที่สวนไม่ใช้ปุ๋ยอะไรเลย ก็เลยได้รสประมาณนี้”

“จริงแล้วที่ผมเคยชิมมา สุ่ยมี่จะหวาน กรอบมากนะพี่”

“ใช่สิ ชื่อเขาก็บอกอยู่แล้ว สุ่ยมี่ แปลว่า น้ำผึ้ง ดังนั้นความหวานต้องสมชื่อแน่นอน”

“ทำไมถึงไม่ใส่ปุ๋ยอะไรเลยล่ะพี่”

“เราเพิ่งเริ่มต้น กำลังศึกษาว่าจะทำปุ๋ยหมักอย่างไร ตอนนี้เริ่มลงขี้ไก่บ้างแล้ว”

“ดีเลยพี่ ขี้ไก่จะช่วยให้หวานมากขึ้น ขี้นกกระทาก็ดีนะ”

“เห็นเขาว่าเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ลอง เดี๋ยวรอบหน้าพี่จะต้องลองดู”

พี่วารินก็เป็นลูกสาวชาวเกษตร แต่ผันตัวเองไปเป็นสาวออฟฟิศของบริษัทญี่ปุ่น ทำให้เรื่องราวของเกษตรต้องซาลงไป จวบจนพบรักกับหนุ่มออสเตรเลีย Mr. Peter Spring ที่ปรึกษาทางเทคนิคด้านการบินของสายการบินต่างประเทศ เมื่อแต่งงานแล้วก็ลาออกจากงานเพื่อมาทำหน้าที่แม่บ้าน แต่งานประจำของสามีที่ต้องเดินทางไปทั่วโลกตลอดเวลา ทำให้พี่วารินเองก็ต้องเดินทางไปด้วย ไม่มีโอกาสได้ทำอะไรที่อยากทำเสียที

นี่ก็ฝรั่ง…ชอบกล้วย

จนวันหนึ่ง ด้วยโลกของการสื่อสารทำให้ได้พบกับ น้าอ้วน-บ้านเกษตรพอเพียง ในช่วงนั้นน้าอ้วนกำลังเชิญชวนเพื่อนๆ มาร่วมทำการเกษตรด้วยกัน มีการซื้อที่ดินแล้วแบ่งแปลงกัน ใครอยากปลูกอะไรก็ทำได้ตามใจชอบ โดยมีน้าอ้วนคอยเป็นที่ปรึกษาและช่วยจัดการด้านการตลาด รวมถึงสอนการขยายพันธุ์พืชต่างๆ จนมั่นใจและตกลงใจว่าจะหยุดตัวเองสักหน่อย เพื่อหันมาทำตามความฝันของตัวเองและสามี

พืชชนิดแรกที่ตัดสินใจปลูกคือฝรั่ง เพราะตัวเองชอบกินผลไม้ชนิดนี้มากที่สุด และในช่วงนั้นน้าอ้วนก็แนะนำให้รู้จักกับฝรั่ง “สุ่ยมี่” ได้ชิมลูกแรกแล้วติดใจ ตกลงซื้อที่ดินและลงมือปลูกทันที เวลาเพียงหนึ่งปีที่ลงมือทำอย่างจริงจัง ทำให้ทุกวันนี้มีฝรั่งให้ได้ชิมทุกวัน ทั้งกินผลสดและปั่นน้ำดื่ม

“ช่วงแรกๆ ก็สนุกกับการเดินทาง เราได้ไปมาเกือบรอบโลก ได้เห็นอะไรๆ มากมาย แต่ลึกๆ ของเราคือไม่อยากใช้ชีวิตแบบนี้ เราอยากมีพื้นที่เล็กๆ ของเรา ปลูกพืชผัก ผลไม้ไว้กินเอง เพื่อนฝูงมาก็ได้เก็บมาปรุงอาหารกินกัน เรียกว่าอยากสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารก่อนที่เราจะเกษียณกันอย่างจริงจังในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า”

“ตอนนี้ ความฝันที่ว่าเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมาได้เยอะหรือยังครับพี่”

“ก็โอเคนะคะ เรามีสวนฝรั่งที่อร่อย ปลอดภัย และยังมีผัก มีปลา มีเพื่อนๆ แวะเวียนมาหากันอยู่เสมอ”

“ทุกวันนี้พี่ก็ยังดูแลสวนเป็นหลัก”

มั่นใจในผลผลิต

“ใช่ค่ะ คุณปีเตอร์แกยังต้องทำงานอีกหลายปี ถึงช่วงวันหยุด หรือมาทำงานทางเอเชียก็จะมาที่สวน พี่เองบางครั้งก็บินไปหาบ้าง เอาที่สะดวกกันทั้งสองฝ่ายจ้า”

“ถามจริงๆ นะพี่ จากการทำงานออฟฟิศ มาจนถึงเป็นแม่บ้านที่บินไปประเทศนั้นประเทศนี้ตามสามี พอถึงวันหนึ่งพลิกมาเป็นเกษตรกรเลย รู้สึกอย่างไร”

“ตอนแรกๆ ก็เหนื่อยบ้างนะ เรามาถึงตั้งแต่เป็นพื้นที่รกๆ ปรับที่ ขุดร่องสวน ปลูกต้นไม้ ปล่อยปลา เราลงมือทำด้วยกันมา แดดร้อน เลอะดินเลอะหญ้า ดูเหมือนเหนื่อยและทุกข์ แต่ในความเป็นจริงเรากลับมีความสุข นี่เป็นอิสระที่เราเลือกกันแล้ว เราจะเดินทางนี้ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่”

“มีรายได้จากสวนหรือยังพี่”

“มีบ้างแล้วค่ะ ยังดีใจว่าตัวเองคิดไม่ผิด การปลูกฝรั่งแค่หกเดือนแรกก็เริ่มมีผลผลิตแล้ว ในปีเดียวสามารถขยายพันธุ์ได้อีกเยอะ ทั้งเก็บไว้ปลูกเองและจำหน่ายให้เพื่อนๆ ไปปลูกกัน”

“หากให้เลือก โดยกลับไปทำงานแบบเดิม”

“ไม่เลย อยู่แบบนี้แม้จะเหนื่อย แม้จะมีรายได้น้อยกว่าที่เคยได้รับ แต่เราแทบไม่มีรายจ่าย ผักเราปลูกเอง ผลไม้ในสวนเรามี เพื่อนๆ มาปาร์ตี้กันได้สบายๆ อยากกินปลาก็จับเอาในร่องสวน ที่สำคัญ เราการันตีว่าพืชผัก ผลไม้ หรือปลาในสวนเราปลอดภัยจริงๆ ที่นี่ไม่เคยมีการใช้ยาหรือสารเคมีใดๆ เลย ที่สำคัญ เราอยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ การเดินทางก็สะดวกสบาย ขอเป็นแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว”

“แล้วคุณปีเตอร์ สามีแฮปปี้ไหมพี่”

“เขาอยากจะออกจากงานวันละสามเวลาเลยแหละ บอกว่ากินฝรั่งที่ไหนในโลกนี้ก็ไม่อร่อยเท่าสุ่ยมี่ของที่สวน ให้ส่งภาพให้ดูทุกวัน บางทีพี่ก็ใจอ่อนอยากให้แกลาออกแล้วเนี่ย”

“ฮั่นแน่ เหงาใช่ไหมเนี่ย”

“เปล่าๆ อยู่ที่นี่ไม่เคยเหงาเลย เพื่อนๆ แวะมาหาสู่กันอยู่เสมอ แค่สงสารแกไง เราเคยทำอาหารให้กิน เคยอยู่ด้วยกัน ช่วงปีที่ผ่านมาเจอกันแทบจะนับวันได้”

“แต่ก็มีความสุขดี”

“ใช่ๆ เพราะเราดำเนินชีวิตไปตามฝันของเรา ตอนนี้เรามีบ้านหลังน้อย มีสวนที่ปลอดภัย มีแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ เท่านี้ก็เป็นความยิ่งใหญ่ของการเกิดมาแล้ว เราจะเกษียณอย่างมีความสุข”

นอกจากฝรั่งสุ่ยมี่ พี่วารินยังแอบสะสมฝรั่งดีๆ อีกหลายสายพันธุ์ เพราะในการเดินทางไปต่างประเทศแต่ละครั้ง มักจะหาเวลาไปเดินตามแหล่งผลไม้ของที่นั้นๆ อยู่เสมอ และที่ไม่พลาดก็คือฝรั่ง

“เห็นว่าพี่มีฝรั่งไส้แดงของฮาวายด้วย”

ความสุขที่ปลูกได้
กำลังขยายพันธุ์

“ต้นนี้สุดยอดเลยค่ะ ผลโต ทรงกึ่งแป้นกึ่งหยดน้ำ กลิ่นหอมแบบฝรั่งขี้นกบ้านเรา ผิวเขียวอ่อนและจะเหลืองเมื่อถึงเวลาสุก ไส้แดงเต็มผล มีรสเปรี้ยวนำหวาน เชื่อว่าหากให้ปุ๋ยขี้ไก่หมักหรือขี้นกกระทาจะหวานกว่านี้ เวลาสุกเนื้อจะฉ่ำน้ำมาก นำมาปั่นทำน้ำฝรั่งสดหอม อร่อยมาก พี่จะขยายพันธุ์ไว้เยอะๆ เชื่อว่าจะเป็นฝรั่งคั้นน้ำที่มีอนาคตแน่นอน”

“แล้วพันธุ์อื่นๆ มีอีกไหมครับ”

“ก็สะสมไว้บ้างค่ะ พันธุ์แตงโม หงเป่าสือ และพันธุ์อื่นๆ ที่ซื้อมีช่วงเดินทางไปต่างประเทศ แต่ส่วนมากยังไม่ติดผล ก็เลยยังไม่มีข้อมูลว่าจะอร่อยเหมือนพันธุ์สุ่ยมี่ที่ปลูกอยู่ไหม”

“เห็นแว้บๆ ว่าขยายพันธุ์ไว้จำนวนหนึ่ง เอาไว้ปลูกเองหรือแบ่งจำหน่ายครับ”

“ไว้ปลูกเองและแบ่งจำหน่ายจ้า เพราะบางทีก็มีคนขอเข้ามาชมสวน พอได้ชิมติดใจก็ขอซื้อกิ่งพันธุ์กลับไปด้วย”

“ขายแพงไหมพี่”

ปลอดสารพิษ

“ไม่แพงจ้า เพื่อนๆ กัน ใครสนใจหากบอกว่าทิดโสแนะนำมา หรืออ่านจากนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน จัดพิเศษให้เลย”

“เอางี้พี่ หากมีใครสนใจขอชมสวน หรือขอซื้อกิ่งพันธุ์ จะติดต่อพี่ได้ทางไหนครับ”

“ยินดีจ้า เบอร์พี่ (089) 793-2880 ยินดีต้อนรับทุกท่าน มาดูกันว่าสวนฝรั่งโดยมีฝรั่งมาช่วยปลูก จะเป็นสับปะรดหรือฝรั่ง”

“เข้าท่าเนอะ พาฝรั่งมาปลูกฝรั่ง ขอบคุณครับพี่”