“ฝอยทอง”…วัชพืชกาฝากลักษณะสีเหลืองทอง ประโยชน์มากล้น กินได้-ใช้บำรุงร่างกาย

เป็นไปได้นะ ที่สิ่งมีชีวิตต่างสายพันธุ์จะอาศัยอยู่ร่วมกัน โดยที่ไม่คิดว่าเป็นการเบียดเบียนกัน อย่างถึงขั้นทำลายล้างกันเลยได้ ในบางขณะหลายคนว่าดูดีมีความหมาย อีกหลายคนดูว่าเป็นการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด และหลายคนเรียกว่าเป็นศัตรู เช่นพืชชนิดนี้ที่ชื่อว่า “ฝอยทอง” เรียกกันว่าเป็นวัชพืช

วัชพืช คือพืชที่ขึ้นในที่ไม่ต้องการให้ขึ้น หรือไม่ได้ตั้งใจปลูกเอาผลผลิต มันขึ้นเองโดยอาจจะติดมากับดิน ติดมากับน้ำ ติดมากับมูลสัตว์ ที่เคลื่อนย้ายมาลงบริเวณดิน พบสภาพดินน้ำอากาศที่เหมาะสม ก็เจริญงอกงามขึ้นมาแก่งแย่งน้ำ แย่งอาหาร แย่งพื้นที่ความเป็นอยู่ของพืชปลูก หรือบางอย่างมีต้นเป็นลักษณะเถา เครือ มีมือ เกาะพันขึ้นรบกวนต้นไม้ปลูก สามารถเกาะอาศัยตามกิ่งก้านคบไม้ได้ นี้ไม่รู้ว่าอย่างเช่นพืชชนิดนี้ที่ชื่อ ฝอยทอง จะเรียกว่า หญ้า หรือ ผัก หรืออะไรดี เอาเป็นว่าเป็นวัชพืชชนิดหนึ่งที่เป็นผักกินได้ก็แล้วกัน

ฝอยทอง ผักฝอยทอง เถาฝอยทอง เครือคำ ฝอยไหล ผักไหล เป็นวัชพืชพวกกาฝาก ที่ชอบขึ้นพันเกาะกิ่งก้านไม้ ถ้าปล่อยให้ขึ้นแน่น จะพันรัดกิ่งไม้ ยอดไม้ ใบไม้ ดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นไม้ มีลักษณะสีเหลืองทองสวยงามมาก เป็นเถาเส้นยาว บางเส้นยาวกว่า 1 เมตร เป็นเส้นเล็กๆ ไม่ใหญ่โตมากนัก เท่าเส้นหมี่เหลือง หรือเล็กลงมาเท่าเส้นหมี่ขาวประมาณนั้น ฝอยทองจะขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด และกิ่งเถาของตนเอง เถาฝอยทองเมื่อถูกเด็ด หรือดึงออกมา ม้วนพาดโยนไปเกาะกิ่งไม้สดอื่นก็จะแพร่ขยายเจริญเติบโตได้ แต่ส่วนใหญ่ถ้าอยู่ในป่าจะขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด

ที่จริงฝอยทองที่เห็นลักษณะเป็นเส้นยาวๆ แตกแขนงแบ่งเถากระจายไปทั่วต้นไม้ที่เกาะอาศัย ลักษณะที่เห็นคือลำต้น จะมีจุดเจริญเห็นเป็นปม อยู่ในส่วนที่อาศัยเหมาะสม เช่น ง่ามกิ่งไม้ และจะก่อตัวเป็นปม แตกยอดแขนง ออกดอกตรงบริเวณนั้น สังเกตเห็นยอดที่แตกใหม่เป็นเส้นฝอยเล็กๆ แผ่เป็นคล้ายรากฝอยต้นไม้ที่แตกจากรากแขนงอย่างนั้น แท้ที่จริงฝอยทองมีใบเหมือนพืชอื่น แต่มองไม่เห็น

ใบฝอยทองมีขนาดเล็กมาก เป็นเกล็ดรูปสามเหลี่ยม มีนิดหน่อยเช่นเดียวกับดอกฝอยทอง ต้องเฝ้าดูหลายสัปดาห์กว่าจะพบเห็น ดอกมีสีขาว มีกลีบดอก 2-3 กลีบ โคนดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย ปลายกลีบบนแยกเป็น 5 แฉก กลางดอกมีเกสรตัวผู้ 5 อัน เกสรตัวเมีย 2 อัน เมื่อผสมเกสรแล้ว จะสร้างผลเป็นลูกกลมแบนเล็กๆ สีเทา เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ภายในผลมีเมล็ด 2-4 เมล็ด ลักษณะกลมรี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-1.5 มิลลิเมตร เมล็ดมีสีเหลืองอมเทา ผิวเมล็ดหยาบ ต้องใช้แว่นขยายส่องดูจึงจะพบความสวยงามเนื้อใน

ฝอยทอง มีชื่อสามัญ Doder ชื่อวิทยาศาสตร์ Cuscuta Chinensis Lam. เป็นพืชในวงศ์ผักบุ้ง CONVOLACEAE ชื่อเรียกภาษาจีนแต้จิ๋วว่า กิมซีเซ่า หรือ โทว้ซี่ ส่วนจีนกลางเรียก ทู่ซื่อ หรือ ทู่ซือจือ เป็นพืชผักสมุนไพร พืชเป็นยาที่มีสรรพคุณเลิศล้ำมากมาย หลายคนที่คิดว่าฝอยทองเป็นแค่วัชพืชที่ต้องกำจัดทิ้ง ต้องกลับมาคิดใหม่แล้วว่า ควรเก็บมาใช้ประโยชน์เป็นยาดีกว่า

เมล็ดฝอยทองเป็นยาบำรุงกำลัง ใช้เมล็ดแห้ง 10-15 กรัม ต้มน้ำดื่ม หรือบดเป็นผงทำเป็นเม็ด หรือบดเป็นผงชงน้ำดื่มก็ง่ายกว่า เป็นยาบำรุงกำลัง ที่สำคัญถามหากันมาก เป็นยาที่มีสรรพคุณแก้น้ำกามเคลื่อน บำรุงน้ำอสุจิชาย บำรุงไม่ให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ตำรับยาบำรุงไม่ให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อม ให้ใช้เมล็ดฝอยทอง ต้มหรือบดผสมกับสมุนไพรหลายอย่าง ได้แก่ เมล็ดฝอยทอง 15 กรัม เก๋ากี่ 12 กรัม โต่งต๋ง 12 กรัม โป๋วกุกจี 10 กรัม เกสรบัวหลวง 7 กรัม เมล็ดกุยช่าย 7 กรัม และโหงวปีจี 7 กรัม ต้มรวมกันหรือชงน้ำดื่ม หรือบดทำเป็นยาลูกกลอน สามารถใช้เป็นยารักษาโรคปวดหลัง ปวดเอว ไตหย่อนได้ด้วย

เมล็ดฝอยทองจะหาเก็บมาทำยาต้องขยันอดทนรอคอยหน่อยนะ เมล็ดเล็กมาก ใช้ความละเอียดอ่อนมาก สรรพคุณของฝอยทองอื่นๆ มีอีกมาก เช่น ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยบำรุงสายตาทำให้ตาสว่าง แก้ตาฝ้ามัว แก้วิงเวียนศีรษะ ใช้เป็นยาขับลม ขับเหงื่อ บำรุงตับ บำรุงไต

ส่วนที่หาได้ง่ายคือ เถาหรือลำต้นฝอยทองใช้เป็นยาบำรุงร่างกายได้ ใช้เถาแห้ง 10-12 กรัม ต้มน้ำหรือผสมเหล้า หรือผสมน้ำตาลทรายแดงแก้ร่างกายอ่อนเพลีย กินแก้ปัสสาวะขัด ปัสสาวะกระปิดกระปอย เถาต้นใช้แก้โรคดีซ่าน โดยต้มน้ำอาบรักษาตัวเหลืองจากโรคดีซ่าน ต้มกินแก้กระหายน้ำ ใช้ต้นสดตำคั้นเอาน้ำทารอบขอบตา แก้โรคตาแดง ตาเจ็บ ต้นแห้งต้มน้ำดื่ม แก้อาเจียนเป็นเลือด ไอเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล อุจจาระเป็นเลือด ตกเลือด ต้นต้มกินแก้บิด ใช้ต้นสด 1 กำมือ ต้มกับขิงสด 7 แว่น กินรักษาลำไส้อักเสบ โรคบิดจากเชื้อแบคทีเรีย ต้มกับเหง้ากุยช่ายสด แก้ปัสสาวะขัด และเป็นยาแก้โรค บำรุงร่างกายอีกจิปาถะสารพัดอย่าง

ขอให้สังเกตดูว่า ฝอยทอง มีประโยชน์ เป็นประเภทพืชผักสมุนไพร เช่นผักอื่นๆ หลายคนไม่คิดว่าจะเป็นผักที่กินได้ ผู้เขียนเองเคยสอบถามชาวบ้าน และลองเอามากินดู โดยเด็ดเถาฝอยทองมากำใหญ่ๆ ม้วนนึ่งให้สุก รวมกับผักอื่นๆ กินเป็นผักร่วมกับน้ำพริกปลาร้า ปลาย่าง เข้ากันได้ดีมาก อร่อยมาก รสชาติหวาน สีสันน่ากิน ยังเคยเอายอดเถาที่อ่อนมาเด็ดใส่ไข่ตุ๋น ดีอีกแบบ หมดถ้วยไม่รู้ตัว

ฝอยทอง” หลายคนคงคิดถึงขนมไทย ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อคนเป็นเบาหวานอย่างยิ่ง เป็นส่วนผสมของน้ำตาลกับไข่ กินกันเพลิน ตรวจน้ำตาลไปอยู่ในเลือดมากเกินไป หรือนักกีฬาฟุตบอลคงรู้จัก ทีมฝอยทองโปรตุเกส กันเป็นอย่างดี แชมป์ๆๆๆ ยังกังขาอยู่เหมือนกันว่า ฝอยทองมีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับโปรตุเกสอย่างไร หรือเขาเป็นต้นกำเนิด หรือเขาใช้ฝอยทองเป็นยาบำรุงทีมกีฬา อย่างนั้นหรือ