อดีตลูกจ้างผันตัวเลี้ยงไก่ เก็บไข่ขายตลาดประชารัฐ เผยรายได้และการลงทุน ทำตามได้ไม่ยาก

อีกหนึ่งเรื่องราวชีวิตลูกจ้าง ที่ผันตัวเองออกมาทำอาชีพอิสระ สุจริต มีแนวโน้มว่าจะไปได้สวย รวมทั้ง พร้อมที่จะให้ผู้สนใจนำไอเดียดีๆ ไปต่อยอด

คุณพงศกร พลบูรณ์ อายุ 27 ปี และภรรยา นางสาวนุชจรีภรณ์ ศรีสมบัติ อายุ 27 ปี ชาวบ้านเหมืองแพร่ อ.นาแห้ว จ.เลย

คุณพงศกร หรือคุณกอล์ฟ เดิมเคยทำงานเป็นลูกจ้างกรมป่าไม้ ส่วนภรรยา คุณนุชจรีภรณ์  ทำงานที่ สวนป่านาปอ อ.นาแห้ว จ.เลย แต่เมื่อปี 2559 เขาทั้งคู่ ลาออกมาเลี้ยงไก่ !!

ล่าสุด นอกจากมีขายอยู่ที่บ้านแล้ว ยังส่งขายที่ร้านประชารัฐในหมู่บ้าน รวมทั้งตลาดประชารัฐ ที่มีเจ้าหน้าที่มาชักชวนให้นำไปจำหน่ายด้วย โดยปรับราคาลงจากปกติเล็กน้อย เพื่อให้ชาวบ้านได้ซื้อไข่ไก่คุณภาพ สดๆใหม่ๆ ในราคาที่ถูกลง

ซึ่งทั้งคุณกอล์ฟ และคุณนุชจรีภรณ์  ก็ดูเหมือนว่าจะมีความสุขกับการได้ทำอาชีพนี้ ที่นับเป็นอาชีพอิสระ ของตัวเอง ไม่ต้องอยู่ในกรอบของพนักงานออฟฟิศ

เรามาดูว่า เขาทั้งคู่ เริ่มต้นอาชีพใหม่นี้ได้อย่างไร

จากเดิมที่เขาทั้งคู่มีงานประจำ แต่มิได้หมายความว่า  เขาปุบปับลาออก แล้วมาเริ่มนับหนึ่งใหม่กับอาชีพใหม่ หากแต่ เขาเริ่มเลี้ยงมาบ้างแล้วระหว่างที่ทำงานเป็นลูกจ้าง เริ่มต้นที่ 100 ตัว  ลองผิดลองถูก ศึกษาการเลี้ยงเองจากอินเตอร์เน็ต  เมื่อเห็นว่ามีลู่ทางดี ไก่ออกไข่ให้ทุกวันไม่เบี้ยวกัน (ไม่ใช่กินแต่อาหาร แต่ไม่ออกไข่ ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็น่าจะเปลี่ยนไปทำอาชีพไก่ย่าง ส้มตำ)  จึงเพิ่มปริมาณการเลี้ยงเป็น 500 ตัว พร้อมกับลาออกจากงาน มาเลี้ยงไก่เต็มตัว  เก็บไข่ขายได้ทุกวัน

ไก่ 500 ตัว เขาเก็บไข่ได้ราว 450 ฟองต่อวัน ขายเป็นแผง (30 ฟอง) ได้ 15 แผง แผงละ 90-100 บาท ได้เงินราว 1,500 บาท ทุกวัน (หักค่าอาหาร วันละ 470 บาท ก็ยังเหลืออีกราว 1,000 บาท คิดเป็นรายได้สุทธิต่อเดือน เกือบ 30,000 บาท)

คุณกอล์ฟ เดินมาถึงจุดนี้ ได้อย่างไร เรามาดูกัน

เริ่มต้น คุณกอล์ฟ ไปซื้อไก่สาว (ไม่ใช่ลูกไก่) อายุไก่ 5 เดือน ราคาตัวละ 180-200 บาท จำนวน 100 ตัว  (เท่ากับค่าพันธุ์ไก่ 20,000 บาท)  เสียค่าโรงเรือน สำหรับ 100 ตัวแรก 15,000 บาท  (ทำเองด้วยไม้ไผ่ง่ายๆ)

สรุป เสียค่าพันธุ์ไก่ 20,000 บาท ค่าโรงเรือน 15,000 บาท รวมเป็น 35,000 บาท และนี่คือเงินลงทุนสำหรับการเริ่มทดลองเลี้ยงในเบื้องต้น

เขาบอกว่า ไก่อายุ 5 เดือน เลี้ยงไปแค่สัปดาห์เดียวก็เริ่มออกไข่แล้ว (เจ้าของเริ่มมีรายได้ตั้งแต่สัปดาห์แรก)

สำหรับลูกค้า ก็มีชาวบ้านละแวกบ้าน รวมทั้งพี่น้องชาวลาวที่ข้ามมาซื้อกลับไป (บ้านคุณกอล์ฟ อยู่ อ.นาแห้ว จ.เลย ชายแดนติด สปป.ลาว) และล่าสุด ก็เปิดตลาดประชารัฐ อย่างที่กล่าวไปข้างต้น

เมื่อเห็นว่า ลู่ทางแจ่มใส และได้บทเรียนจากการลองผิดลองถูก รู้วิธีรับมือกับไก่ป่วยแล้ว จังหวะนี้เองที่เขาและภรรยา ลาออกจากงาน มาเลี้ยงไก่เต็มตัว โดยขยายพื้นที่ และเลี้ยงเพิ่มเป็น 500 กว่าตัว

มาดูเงินลงทุนในส่วนต่อขยาย

พันธุ์ไก่ 420 ตัว ตัวละ 200 บาท เท่ากับ 84,000 บาท

ค่าโรงเรือน 25,000 บาท

ค่ากรงอีก 28,000 บาท

รวมเงินลงทุน 137,000 บาท

 

นอกจากนี้ การเลี้ยงไก่ ยังมีขี้ไก่ สำหรับทำปุ๋ย ถ้ามีมากๆ ยังขายได้อีก

คุณกอล์ฟ เล่าให้ฟัง ถึงกิจวัตรประจำวัน (เผื่อใครที่สนใจ จะได้ใคร่ครวญดูว่า จะทำได้หรือไม่)

ตื่น 06.00 น. ทำภารกิจส่วนตัว

06.30-8.30 น. ให้อาหารไก่ เปลี่ยนน้ำ

08.30 -10.00 น. หว่านแกลบ เก็บขี้ไก่ เดินตรวจดูว่าตัวไหนป่วย (ซึม ไม่กินอาหาร) ถ้าป่วยให้กินสมุนไพรเครือเขาฮอ (หรือบอระเพ็ด) ทุบให้ละเอียดกินสดๆ

10.00 น. เริ่มขายไข่

คุณกอล์ฟ บอกอีกว่า เขามีโครงการขยายการเลี้ยงต่อไปอีก เพราะมีลูกค้ามากขึ้น

โดยเฉพาะพี่น้องชาวลาวที่ข้ามมาเป็นลูกค้าประจำกันหลายราย

และนี่คือเรื่องราวของผู้หันมาทำอาชีพอิสระ จากเดิมที่เป็นลูกจ้างเงินเดือน ราว 12,000-15,000 บาท แต่มีรายได้ในวันนี้ เกือบ 30,000 บาท ซึ่งการเริ่มต้น การลงทุนการขาย ก็ไม่ซับซ้อน อีกทั้งไข่ไก่ยังเป็นอาหารที่คนส่วนใหญ่บริโภคชนิดที่เรียกว่า “ไม่มีอะไร ก็ต้องมีไข่ไว้ติดบ้าน” อะไรทำนองนั้น

“หลังจากที่ลาออกมา ผมก็ว่า อิสระกว่า รายได้ดีกว่า แถมมีเวลาให้ครอบครัว” คุณกอล์ฟ กล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณภาพ จากคุณพงศกร เจ้าของซำแคนฟาร์ม