ฟาร์มไก่ตะเภาทองของ  คุณ ณ นพชัย ผิวเกลี้ยง  ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 328 หมู่ที่ 2 ตำบลบ่อสุพรรณ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่ง คุณ ณ นพชัย เล่าให้ฟังว่า เหตุผลที่มาเลือกเลี้ยงไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ เพราะจากที่ได้ทดลองเลี้ยงในช่วงแรกๆ นั้น เป็นไก่ที่ตอบโจทย์ในการที่จะเลี้ยงในสภาพภูมิอากาศแบบในประเทศไทย เพราะสามารถเจริญเติบโตได้ดี ทนต่อโรค และที่สำคัญ สามารถเลี้ยงแบบปล่อยบริเวณรอบบ้านได้โดยที่ไม่ต้องขังให้อยู่ในกรง

 

“ไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ นอกจากเลี้ยงได้ง่ายแล้ว เมื่อไก่เจริญเติบโตได้เต็มที่ คุณภาพเนื้อก็สามารถตอบโจทย์ในเรื่องการขายให้กับตลาด เพราะเนื้อไก่มีเอกลักษณ์ คือเนื้อเหนียวนุ่ม กระดูกร่อน หนังกรอบ ซึ่งคุณภาพตรงนี้ถือว่าตอบโจทย์ เพราะตอนนี้เราก็จะเลี้ยงเป็นเชิงไก่ปลอดสาร เพื่อเป็นเทรนด์ให้กับผู้ที่รักสุขภาพมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น” คุณ ณ นพชัย บอกถึงลักษณะพิเศษของไก่ (ข้อมูลจาก สุรเดช สดคมขำ เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์)

ปัจจุบัน ไก่ตะเภาทอง ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ทั้งจากผู้เลี้ยงด้วยกันเอง และจากผู้บริโภคเนื่องจากเป็นไก่ที่เลี้ยงในลักษณะปลอดสารเคมี  รสชาติดี  ส่วนผู้เลี้ยง ก็ได้กำไรมากขึ้น จากการลดต้นทุนด้านอาหารสัตว์ เนื่องจากใช้พืชสมุนไพรช่วยในการเลี้ยงทดแทนอาหารสัตว์ที่ต้องไปซื้อจากบริษัทขายอาหาร

“ไก่ตะเภาทองสามารถกินได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพืชผักสวนครัว ต้นไม้ ใบหญ้าในท้องถิ่น ก็นำของเหล่านี้แทนที่เราจะทิ้งก็สามารถนำมาเลี้ยงไก่ได้” คุณ ณ นพชัย  ว่าอย่างนั้น

“ส่วนทางด้านการตลาด ผมทำในลักษณะส่งเสริมให้คนเอาไปเลี้ยง ผมส่งเสริมการเลี้ยง แบบเข้าหาเกษตรกรโดยตรงมากกว่า แนะนำพันธุ์ ทดลองให้เลี้ยง คนมักจะมีคำถามว่า จะลงทุนเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ ผมว่า ถ้าเซฟต้นทุนได้ ที่เหลือมันก็เหลือเยอะ  คือได้อาหารคุณภาพ ในราคาที่ ควบคุมได้”

ทั้งนี้ ในช่วงแรกที่เขาเลี้ยงไก่พันธุ์นี้ ก็มีคำถาม เข้ามามากมายว่า  เลี้ยงแล้ว จะหาตลาดอย่างไร ขายใคร ขายที่ไหน ซึ่งคุณ ณ นพชัย ตอบมาดังนี้

“การขาย ต้องเริ่มจากสินค้าที่มีคุณภาพ เมื่อสินค้ามีคุณภาพ เราก็มั่นใจที่จะขาย ก็เกิดการบอกกันปากต่อปาก  อีกทั้งเมื่อคนเลี้ยง ได้กำไรมากขึ้น เพราะต้นทุนน้อย เค้าก็มีกำลังใจมากขึ้น บวกกับสินค้าที่ไปถึงผู้บริโภคแล้วเค้าพอใจ มันก็ขายได้  และขายได้ราคาดี นอกจากนี้ในระยะหลัง เราก็ใช้โซเชียลช่วยการในทำการตลาด ก็ช่วยได้มากทีเดียว”