ทุเรียนเมืองแพร่ จากสวน ลุงสงบ ธรรมณี สุดยอดของความอร่อย ได้รับรางวัล ระดับ Best Fruit

มีผู้คนจำนวนไม่มากนักที่จะรู้ว่า จังหวัดแพร่ มีการปลูกทุรียนกันในหลายพื้นที่ ทั้งที่ อำเภอเมือง เด่นชัย ลอง และวังชิ้น

ที่อำเภอวังชิ้น มีสวนทุเรียนของ ลุงสงบ ธรรมณี ที่ผู้เขียนได้โทรศัพท์นัดแนะกันล่วงหน้าเพื่อขอเข้าไปดูสวนทุเรียน ซึ่งเป็นที่โด่งดังอยู่ในโลกโซเชียล ช่วงเดือนมิถุนายน 2560 ที่ผ่านไป

หากท่านจะเดินทางไปที่สวนทุเรียนของลุงสงบ เริ่มจากอำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ด้วยรถยนต์ไปตามทางหลวงหมายเลข 1023 ถึงสี่แยกแม่แขม ขับรถตรงไปทางอำเภอวังชิ้น จนถึงหลักกิโลเมตรที่ 70 อีกเส้นทางหนึ่งผ่านอำเภอเด่นชัย เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 11 เด่นชัย-ลำปาง ถึงสี่แยกแม่แขม เลี้ยวซ้าย ถึงหลักกิโลเมตรที่ 70 ด้านซ้ายมือจะเห็นแผงขายผลไม้ นั่นแหละสวนทุเรียนของลุงสงบ

ลุงสงบ ธรรมณี และรางวัลที่ได้รับ

ลุงสงบ ได้พาผู้เขียนเดินชมบริเวณสวน แปลงไม้ผลแปลงที่หนึ่ง เนื้อที่ 6 ไร่ และแปลงที่สอง เนื้อที่ 10 ไร่ แล้วจึงจะเริ่มสนทนาซักถามในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องชื่อเสียงของทุเรียนที่ไปคว้ารางวัล จากงาน Best Fruit Export Gateway 2017 ที่สวนนงนุช พัทยา

 

ทำความรู้จัก ลุงสงบ ธรรมณี

ลุงสงบ ปัจจุบัน อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ที่ 5 บ้านแม่จอก ตำบลแม่ป้าก อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ โทรศัพท์ (096) 459-9784 ภรรยาชื่อ คุณพิน ธรรมณี มีบุตร 4 คน ชาย 2 คน หญิง 2 คน ที่กล่าวมาก็เพราะว่าสวนผลไม้ลุงสงบมี 2 แปลง คือ 6 ไร่ และ 10 ไร่ ใช้แรงงานในครัวเรือนทั้งหมด ไม่ได้จ้างแรงงานจากภายนอกแต่อย่างใด

ลุงสงบ เป็นหมอดินอาสา จึงมีความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ในการผลิตและใช้ปุ๋ยหมัก สารชีวภัณฑ์ ในการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชเป็นอย่างดี

เมื่อสอบถามถึงแนวคิดในการทำการเกษตร ลุงสงบ กล่าวว่า “ลุงเคยไปเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการปลูก ดูแลไม้ผล แต่ในใจคิดว่าพื้นที่ดินของลุงไม่น่าจะปลูกไม้ผลได้ แต่ก็อยากทดลอง โดยเริ่มแรกก็นำเมล็ดทุเรียนไปเพาะไว้ในสวน หลังจากนั้น 2-3 ปี ต้นทุเรียนดังกล่าวเจริญงอกงามดี จึงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะปลูกไม้ผลให้ได้ จึงได้ไปหาซื้อกิ่งพันธุ์ไม้ผลหลายชนิดมาปลูกดังที่เห็น”

ทำการเกษตรแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ที่สวนของลุงสงบ เป็นสวนเกษตรผลไม้ผสมหลากหลายชนิด ได้แก่ ทุเรียน เงาะ ลองกอง มังคุด กล้วยหอม มะยงชิด  กระท้อน ลางสาด มะไฟ และส้มโอ ทั้งยังมีบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงกบ อีกด้วย

เมื่อครั้งที่ลุงเริ่มทำการเกษตร ลุงสงบ กล่าวว่า “ลุงก็ตั้งใจเพาะปลูกไม้ผลไปเรื่อยๆ อย่างละเล็กละน้อย ลองผิดลองถูกมาระยะหนึ่ง สวนลุงจึงมีไม้ผลผสมผสานกันไป ไม่ได้วางระบบหรือแผนผังแต่อย่างใด ได้เงินจากการขายผลไม้มา ลุงก็ซื้อกิ่งพันธุ์มาปลูกเพิ่ม โดยเฉพาะทุเรียน ตอนแรกๆ ก็ปลูกเพื่อกินเป็นหลัก เมื่อผลผลิตมากขึ้นก็ขาย ชีวิตความเป็นอยู่ของลุงและครอบครัวก็ราบรื่นดี ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ประหยัด ไม่มีขัดสน ได้อยู่กับธรรมชาติ ดิน น้ำ ลม ไฟ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ของกินก็ไม่ได้ซื้อจากภายนอกมากนัก ในสวนลุงก็มีให้เก็บกินหลายอย่าง ผลไม้ก็มีให้กินตลอดฤดูกาล

 

เบื้องหลังของการปลูกทุเรียน

ลุงสงบ บอกว่า “ได้เริ่มปลูกทุเรียนจริงจัง เมื่อปี พ.ศ. 2533 จากที่กล่าวไว้ว่า ได้นำเมล็ดทุเรียนพื้นเมืองเพาะไว้ในสวน  ต่อมามีญาติซื้อกล้าพันธุ์ทุเรียนหมอนทองจากจังหวัดจันทบุรีมาให้ทดลองปลูก จำนวน 10 ต้น ก็เจริญงอกงามดี จึงได้ขยายพื้นที่ปลูกทุเรียนมากขึ้นทุกปีๆ จนปัจจุบันมีทั้งหมด 160 ต้น มีหลายสายพันธุ์ ได้แก่ ทุเรียนพันธุ์พื้นเมือง  หมอนทอง ชะนี ก้านยาว หลงลับแล ซึ่งสายพันธุ์หมอนทองมีมากที่สุด 100 ต้น แต่ทุเรียนที่ถูกนำไปประกวดเป็นสายพันธุ์พื้นเมือง ที่ได้จากการเพาะเมล็ด”

การดูแลเอาใจใส่สวนทุเรียน

ลุงสงบ กล่าวว่า “ลุงใส่ใจดูแลทุเรียนทุกต้นว่ามีโรคและแมลงมารบกวนหรือไม่ ลุงใช้วิธีป้องกันไม่ให้เกิดศัตรูแก่ทุเรียนมากกว่า การกำจัดเมื่อเกิดการระบาดแล้วโดยฉีดพ่นเชื้อราไตรโคเดอร์มาและน้ำหมักชีวภาพ”

ทั้งนี้ หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียน รุ่นที่ 2 หมดแล้วในเดือนสิงหาคม จะพักต้นไว้ 1-2 เดือน ในเดือนตุลาคมจะตัดแต่งกิ่ง โดยตัดจากปลายกิ่งเข้าหาลำต้น 1-2 เมตร ไม่ให้มีกิ่งแขนง กำจัดวัชพืช โดยการตัดหญ้าแล้วกองทิ้งไว้ให้กลายเป็นปุ๋ย ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตรา 3 กิโลกรัม ต่อต้น โดยดูจากขนาดของลำต้นและทรงพุ่มเป็นหลัก พร้อมกับใส่ปุ๋ยหมัก ต้นละ 10 กิโลกรัม แล้วให้น้ำทันที และฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพที่ผลิตขึ้นเองจากหอยเชอรี่ ทั้งทางใบและพื้นดินรอบๆ ทรงพุ่ม

ส่วนการบริหารจัดการน้ำ ลุงสงบใช้ระบบน้ำประปาภูเขา โดยลงทุนวางท่อน้ำพีวีซี จากแหล่งน้ำบนภูเขา ขนาด 4 นิ้ว แล้วทดลงมาเรื่อยๆ เป็น 3 นิ้ว และ 2 นิ้ว ด้วยระยะทางไกลถึง 3 กิโลเมตร จากนั้นจะใช้สายยางเดินรดทุกต้น ดูว่ารอบๆ ต้นมีความชื้นเพียงพอหรือไม่ และที่สำคัญได้ดูแลต้นทุเรียนไปด้วย

ทุเรียนที่สวนลุงสงบจะเก็บเกี่ยวได้ 2 รุ่น คือช่วงเดือนมิถุนายนและสิงหาคม ได้ผลผลิตประมาณ 3 ตัน

ดูแลเอาใจใส่ที่ดี ผลผลิตจึงได้รับรางวัล ในงาน Best Fruit Export Gateway 2017

ทุเรียนจากสวนลุงสงบ สายพันธุ์พื้นเมืองได้นำเข้าไปประกวด ในงาน Best Fruit Export Gateway 2017 ที่สวนนงนุช  เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้รับการตัดสิน เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2560 และได้รับรางวัลระดับ Best Fruit โดยนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ได้ลิ้มชิมรสและยกให้เป็นสุดยอดของความอร่อย

เมื่อถามถึงข้อบ่งชี้ของทุเรียนสายพันธุ์พื้นเมืองที่ชนะการประกวดที่นักชิมยกให้เป็นสุดยอดของความอร่อย ลุงสงบ กล่าวว่า “นอกจากการเอาใจใส่ดูแลที่ดีแล้ว อาจเป็นเพราะธรรมชาติเป็นตัวช่วยด้วย เพราะบริเวณรอบสวนทุเรียนของลุง ใต้พื้นที่ดินมีธาตุกำมะถันพาดผ่านเป็นบริเวณยาวและกว้าง ลักษณะดินจึงเหมาะกับการปลูกทุเรียน จริงๆ ลุงก็ปลูกทุเรียนมาหลายปี เพิ่งจะรู้จากนักชิมว่าอร่อย ทุเรียนของลุงเป็นสายพันธุ์พื้นเมือง เนื้อทุเรียนจะเหลืองเนื้อละเอียด  ไม่มีเส้น ไม่หวานจัด มีกลิ่นเฉพาะตัว แต่ผลไม่ใหญ่มากนัก ประมาณ 1-2 กิโลกรัม เท่านั้น”

 

การตลาดทุเรียนจากอดีตและปัจจุบัน

ที่ผ่านมา ลุงสงบตัดทุเรียนวางขายที่แผงร้านหน้าสวน ในราคากิโลกรัมละ 90 บาทบ้าง 50 บาทบ้าง แล้วแต่สายพันธุ์ทุเรียน ในแต่ละปีก็ไม่พอขายอยู่แล้ว ปีหนึ่งๆ จะมีรายได้จากการขายทุเรียนไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท ทั้งนี้ไม่รวมการขายผลผลิตอื่นๆ เช่น เงาะ ขายวันละ 200 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 30 บาท มังคุด และลองกอง ขายได้กิโลกรัมละ 40 บาท เป็นต้น และยังมีกระท้อน กล้วยหอม ลางสาดอีก

แต่หลังจากชื่อเสียงของลุงสงบเป็นที่รู้จักทั้งจากสื่อท้องถิ่น สื่อทางออนไลน์ การตลาดทุเรียนของสวนลุงสงบเป็นอย่างไร ลุงตอบว่า “ทุกวันนี้มีคนโทรศัพท์เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งสั่งซื้อทุเรียน ขอมาดูสวน ลุงก็ยินดี แต่ทุเรียนที่เหลือบนต้นเป็น รุ่นที่ 2 มีคนจองหมดแล้วทุกผล ทุกสายพันธุ์ จะเริ่มตัดให้ผู้สั่งซื้อประมาณปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นสิงหาคมนี้

ลุงสงบ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ลุงก็ยังขายทุเรียนราคาเดิมไม่ได้ขึ้นราคาหรือเอาเปรียบผู้ซื้อแต่อย่างใด”

การแนะนำส่งเสริมจากหน่วยงานราชการ

แม้ลุงสงบจะเป็นหมอดินอาสา เป็นเกษตรกรที่มีความรู้ในระดับดีคนหนึ่ง แต่ลุงก็บอกว่ายังต้องการแรงใจ แรงสนับสนุนอยู่ ทุกวันนี้ก็ได้รับคำแนะนำเอาใจใส่จากเกษตรอำเภอวังชิ้นเป็นอย่างดี

คุณประดิษฐ์ สลีหล้า เกษตรอำเภอวังชิ้น โทรศัพท์ (093) 136-9044 ได้กล่าวถึงเรื่องทุเรียนสวนลุงสงบว่า “สวนทุเรียนของลุงสงบเป็นสวนไม้ผลนำร่องของอำเภอวังชิ้น และเป็นเกษตรกรรายแรกที่นำทุเรียนมาปลูกจนได้ผลผลิตที่ดี ได้แนะนำการตัดแต่งกิ่ง การพัฒนาคุณภาพผลผลิต ส่งเสริมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาดูงานของเกษตรกรรายอื่นๆ พื้นที่ภายในสวนทุเรียนของลุงสงบ มีน้ำดี ชุ่มชื้น ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและแมลง และอยู่ในพื้นที่สูง”

ทุเรียนพันธุ์พื้นเมือง ที่ส่งเข้าประกวดนั้น เกษตรอำเภอวังชิ้นได้เป็นผู้นำไปด้วยตนเอง จำนวน 2 ราย รายละ 2 ผล ดีใจกับลุงสงบ ที่สามารถชนะใจนักท่องเที่ยว นักชิมชาวเกาหลี ยกให้เป็นสุดยอดของความอร่อย

“ผมทราบมาว่า คนเกาหลีชอบกินทุเรียนที่มีรสชาติหวานมัน กลิ่นพอดี ไม่ฉุน” เกษตรอำเภอวังชิ้น กล่าว

เกษตรอำเภอวังชิ้น ได้ให้ข้อมูลการปลูกทุเรียนในพื้นที่อำเภอวังชิ้น มีอยู่ 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลแม่ป้าก แม่เกิ๋ง วังชิ้น นาพูน และแม่พุง

– จำนวนเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน 134 ราย

– พื้นที่ปลูก 274 ไร่ จำนวน 10,960 ต้น

ผลผลิตต่อปียังมีไม่มากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่เพิ่งเริ่มให้ผลผลิต แต่ปีนี้ช่วงที่ออกผล รุ่นที่ 1 จะได้ 10 ผล ต่อต้น น้ำหนักเฉลี่ย ผลละ 3 กิโลกรัม

ทั้งนี้ เกษตรอำเภอวังชิ้นได้ไปชี้แจงกับเกษตรกรผู้ปลูกและผู้ขายทุเรียน โดยเฉพาะพันธุ์พื้นเมืองว่าให้ใช้วิธีตัดผล ไม่ปล่อยให้ร่วงแล้วนำมาขายเหมือนแต่ก่อน แนะนำให้เกษตรกรผู้ปลูกใช้วิธีนับวันตั้งแต่ทุเรียนออกดอกจนถึงตัดผลได้ใช้เวลา 5 เดือน ซึ่งทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองจะมีทั้งเนื้อขาวและเนื้อเหลือง รสชาติต่างกัน จึงให้แยกผลให้ชัดเจน ปีนี้ฝนฟ้าอากาศดี เอื้อให้ทุเรียนติดผลเป็นจำนวนมาก

ก่อนจบการสนทนากับ ลุงสงบ ธรรมณี ผู้เขียนได้สอบถามว่า เมื่อชื่อเสียงของลุงเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไปแล้ว หากมีใครขอเข้ามาดู มาชมสวนผลไม้ของลุงล่ะ ลุงตอบว่ายินดีและเต็มใจ โดยแจ้งไปตามหมายเลขโทรศัพท์ข้างต้น การเดินทางไปยังสวนของลุงก็ไม่ยากนัก มาได้โดยทางรถยนต์ทั้งจากจังหวัดสุโขทัย ลำปาง และแพร่

 

ที่มา เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์