“ปลูกมะพร้าวน้ำหอม” อาชีพรอเกษียณ ออกจากงาน มีผลผลิตขายได้ทันที

อย่างที่ทราบกันอยู่ว่า ในอนาคตสังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยมีการคำนวณจากสำนักงานสถิติแห่งชาติว่า จำนวนผู้สูงอายุของไทยจะมีมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทั้งหมด ซึ่งผู้สูงอายุไม่น้อยกลัวว่าเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณจะส่งผลให้เป็นภาระของลูกหลาน จึงทำให้ผู้สูงอายุไม่น้อยได้หากิจกรรมยามว่างทำ เพื่อเป็นการสร้างสุขให้กับการดำเนินชีวิต เช่น ท่องเที่ยว กิจกรรมนันทนาการ ตลอดจนอาชีพที่สนใจ รวมไปถึงทางด้านการเกษตร

ซึ่งงานทางการเกษตรถ้าหากทำในช่วงที่เกษียณแล้ว พืชบางชนิดอาจเจริญเติบโตให้ผลผลิตได้ไม่ทัน จะต้องมีการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเข้าสู่วัยเกษียณ เพื่อเป็นอาชีพรองรับเมื่อต้องเกษียณจากงานอย่างเต็มตัว เมื่อออกจากงานก็สามารถขายผลผลิตได้ทันที จึงเป็นเสมือนกิจกรรมยามว่างที่สร้างเงินและความสุขไปพร้อมกัน เหมือนเช่น ดร. ชวัลวิทย์ แจ่มขำ อยู่บ้านเลขที่ 289 หมู่ที่ 10 ตำบลผ่านศึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เป็นผู้ที่ได้เริ่มทำการเกษตร คือสวนมะพร้าวน้ำหอม โดยเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเกษียณอายุราชการจะมาถึง

ปลูกสวนมะพร้าว ไว้รอก่อนเกษียณอายุงาน

ดร. ชวัลวิทย์ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนจบการศึกษาทางด้านการเกษตร หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง ที่บ้านกร่าง (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตพิษณุโลก) และศึกษาต่อไปถึงจบปริญญาเอก ในช่วงแรกทำงานรับราชการเป็นเกษตรตำบล ต่อมาจึงได้ย้ายมาทำงานเป็นรองปลัดอยู่ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองปรือ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งด้วยจบการศึกษาทางด้านการเกษตร และมีประสบการณ์ทำงานเกี่ยวกับทางด้านนี้ด้วย จึงมีแนวคิดมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วว่า อยากจะมีสวนเป็นของตนเอง เพื่อเป็นอาชีพยามว่างหลังวัยเกษียณ

“เราจะรู้เลยว่า คนที่จบเกษตร ก็จะมีความตั้งใจอยู่แล้ว ว่าเมื่อเกษียณจากงานแล้ว จะทำอาชีพอะไรรองรับเมื่อวัยเกษียณ ซึ่งผมก็ได้มาเลือกสร้างสวนมะพร้าวอยู่ที่อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เหตุที่เลือกที่นี่เพราะภรรยาผมเป็นคนพื้นที่นี้ โดยได้ซื้อที่ดินบางส่วนเอาไว้ด้วย ก็เลยคิดที่จะสร้างสวนมะพร้าวให้เติบโตก่อนที่เราจะเกษียณออกมา ก็เลยได้ที่นี่ทำสวนเก็บเกี่ยวผลผลิต” ดร. ชวัลวิทย์ เล่าถึงที่มา

สวนมะพร้าวที่ปลูกทั้งหมดภายในสวน ใช้เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ โดยแบ่งแปลงปลูกมะพร้าวเป็น 3 รุ่น โดย รุ่นที่ 1 มีอายุอยู่ที่ 3 ปีครึ่ง รุ่นที่ 2 มีอายุอยู่ที่ 3 ปี และรุ่นที่ 3 มีอายุอยู่ที่ 2 ปีครึ่ง ซึ่งสายพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมที่นำมาปลูก ส่วนใหญ่ซื้อมาจากจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดฉะเชิงเทรา

พื้นที่ภายในสวน

เลือกสายพันธุ์มะพร้าว ที่เป็นแหล่งเชื่อถือได้

ก่อนที่จะลงมือปลูกมะพร้าวน้ำหอมในพื้นที่ที่เตรียมไว้ ดร. ชวัลวิทย์ เล่าว่า จะต้องไปหาซื้อสายพันธุ์จากแหล่งที่ต้องการเสียก่อน ซึ่งต้นกล้ามะพร้าวที่ดีต้องได้จากต้นแม่พันธุ์ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป จึงจะทำให้มีความสมบูรณ์ของพันธุ์ค่อนข้างดี โดยในพื้นที่ที่ปลูกจะเน้นใช้เขตน้ำชลประทาน จึงทำให้มีน้ำดูแลต้นมะพร้าวตลอดทั้งปี

มะพร้าวน้ำหอม รุ่นที่ 3

“วิธีการปลูก ในขั้นตอนแรกก็จะทำพื้นที่แปลงให้มีถนนเป็น 4 แปลง โดยปลูกมะพร้าวอยู่บริเวณริมถนนก่อน จากนั้นจึงนำไปปลูกลงในพื้นที่แปลง โดยให้มีระยะห่าง ประมาณ 6×7 เมตร ก็จะได้ประมาณ 40 ต้น ต่อไร่ รองก้นหลุมปลูกด้วยขี้ไก่ จากนั้นก็รดน้ำดูแลไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้อายุให้ผลผลิตได้” ดร. ชวัลวิทย์ บอกถึงวิธีการปลูก

ซึ่งระยะเวลาการเจริญเติบโตของมะพร้าวน้ำหอมภายในสวน ดร. ชวัลวิทย์ บอกว่า จะใช้เวลาประมาณ 3 ปีครึ่ง ก็จะเริ่มให้ผลผลิตได้ โดยการติดผลผลิตภายในสวนส่วนใหญ่จะมีผึ้งและแมลงเป็นตัวช่วยในเรื่องการผสมเกสร จึงทำให้ต้นมะพร้าวแต่ละต้นค่อนข้างติดผลผลิตดี

เกสรมะพร้าวน้ำหอม

ในเรื่องของการใส่ปุ๋ยบำรุงต้นนั้น ดร. ชวัลวิทย์ บอกว่า จะใส่ในช่วงต้นฝนและปลายฤดูฝน เป็นปุ๋ยขี้ไก่และปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 ผสมกับ สูตร 21-0-0

ในเรื่องการป้องกันโรคและแมลง ต้นมะพร้าวน้ำหอมที่ยังไม่ออกผลผลิต จะมีการใช้ยากำจัดเพื่อช่วยให้ต้นมีความสมบูรณ์ กันจากศัตรูจำพวกหนอนหัวดำและด้วง เมื่อมะพร้าวเริ่มออกจั่นเพื่อติดผลก็จะหยุดใช้สารเคมีทันที

ผลผลิตออกดก

“มะพร้าวต่อต้นจะให้จั่นอยู่ที่ 15-18 จั่น ต่อปี ซึ่งใน 1 ปี สำหรับที่สวนออกประมาณ 12 ทะลาย ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งที่สวนผม 1 ทะลาย จะมีประมาณ 10 ผล โดยที่สวนก็มีผลผลิตออกขายต่อเดือนก็ประมาณ 7,000-15,000 ผล โดยนำเงินที่ขายได้มาเลี้ยงภายในสวนก่อน พอเริ่มมีผลผลิตมากขึ้น คราวนี้ก็จะเป็นผลผลิตที่เลี้ยงดูเราในอนาคต” ดร. ชวัลวิทย์ อธิบาย

 

เน้นขายผลผลิตในพื้นที่ และส่งขายตลาด

ในเรื่องหลักการทำตลาดมะพร้าวน้ำหอม ดร. ชวัลวิทย์ บอกว่า จะเน้นทำการตลาดแบบหลากหลายแบบ เช่น ให้พ่อค้ามาติดต่อซื้อผลผลิตที่สวน และบางส่วนจะส่งให้พ่อค้าแม่ค้าที่อยู่แถวตลาดลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

“ที่สวนตอนนี้ราคามะพร้าว ขายอยู่ที่ ผลละ 15 บาท เพื่อที่ให้พ่อค้าแม่ค้าเขาไปทำการตลาดได้ ซึ่งตอนนี้ในอำเภออรัญประเทศเองก็สามารถขายได้เรื่อยๆ ซึ่งผลตอบรับก็ถือว่าดีมาก เพราะภายในตลาดโรงเกลือมีร้านค้าค่อนข้างมาก ดังนั้น แม่ค้าที่ขายของในตลาดเขาก็ต้องใช้มะพร้าวอย่างน้อย ร้านละ 1 ผล เพราะเซ่นไหว้เจ้าที่ก่อนเปิดร้าน จึงทำให้มะพร้าวสามารถขายได้ตลอดที่อรัญประเทศ” ดร. ชวัลวิทย์ บอก

(คนที่ 3 จากซ้าย) คุณอำนวย ชูช่วย เจ้าพนักงานการเกษตร คุณสังข์ ทองแท่งใหญ่ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะปลูกมะพร้าวน้ำหอมเป็นอาชีพ ดร. ชวัลวิทย์ ให้แนวคิดสำหรับผู้ที่กำลังจะเกษียณจากงานว่า ควรปลูกต้นให้เจริญเติบโตก่อนที่จะเกษียณออกจากงาน เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมเรียบร้อยแล้ว ผลผลิตที่ได้ก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยทำเงินในช่วงหลังเกษียณได้อย่างสบาย

“สำหรับคนที่อยากปลูก มีพื้นที่น้อยอยู่ก็สามารถปลูกได้ อาจจะเริ่มทีละ 5 ต้น 10 ต้น เมื่อให้ผลผลิตก็อาจจะช่วยสร้างรายได้เสริมให้กับเราได้ เมื่อเรารู้สึกว่าทำแล้วประสบผลสำเร็จมากขึ้น ก็ค่อยๆ ขยับขยายต่อไป มันก็จะเป็นรายได้หลักได้ในอนาคต ซึ่งอยากจะบอกว่าเราไม่ควรทำงานเพื่อสร้างรายได้เพียงทางเดียว ควรที่จะหารายได้เสริมต่างๆ ให้กับครอบครัว ก็จะเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงออกไปได้ ดังนั้น ควรหาอาชีพเสริมทำสำรองไปกับอาชีพหลัก ก็จะทำให้มีรายได้มากขึ้น” ดร. ชวัลวิทย์ กล่าวแนะนำ

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ดร. ชวัลวิทย์ แจ่มขำ หมายเลขโทรศัพท์ (086) 355-2098