อดีตพนักงานประจำ ผันตัวจากลูกจ้างมุ่งหน้าบ้านเกิด นำเงินเก็บ 3 แสน เปิดโรงงานผลิตกาแฟครบวงจร ตั้งเป้า 3 ปี โกยรายได้ 100 ล้านบาท

อดีตสาวโรงงานคั่วกาแฟ เชื่อฟังคำแม่ ผันตัวจากลูกจ้างมุ่งหน้าบ้านเกิดที่จังหวัดน่าน นำเงินเก็บ 3 แสน เปิดโรงงานผลิตกาแฟ ค่อยๆ ต่อยอด จนทำครบวงจร ตั้งแต่ปลูก คั่ว จัดจำหน่าย สร้าง 3 แบรนด์หวังเจาะตลาดทุกกลุ่ม ภูคอฟฟี่ ดูโอ คอฟฟี่ และภูมิใจ๋ คอฟฟี่  ปัจจุบันผลิตกาแฟเม็ดดิบได้ 100 ตันต่อปี เป็นบริษัทแรกของประเทศไทยที่ได้รับการอนุมัติวงเงินสนับสนุนจากรัฐบาล คือ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ตั้งเป้า 3 ปีข้างหน้าจะมีรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท

ชีวิตลูกจ้าง มีแม่ชอบดื่มกาแฟ
ผันความชอบ กลายเป็นธุรกิจเงินล้าน

คุณวัชรี พรมทอง หรือคุณแอ๋ว คือ เจ้าของ ห้างหุ้นส่วน จำกัด น่านดูโอ คอฟฟี่ และประธานกลุ่มคลัสเตอร์กาแฟน่าน

คุณแอ๋ว ในวัย 38 ปี เล่าว่า หลังจากจบคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร หรือฟู้ดซายน์ เป็นพนักงานอยู่ในบริษัทคั่วกาแฟขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง รับเงินเดือน 30,000 บาท นาน 8  ปี พอจะมีเงินเก็บ ขณะเดียวกันมองเห็นโอกาสธุรกิจกาแฟ ที่สำคัญแม่ชอบกินกาแฟ เลยตัดสินใจลาออกไปตั้งโรงคั่วกาแฟที่พัทยาราวปี 50 เพราะมีพี่ชายทำงานอยู่ที่นั่น ประกอบกับมองว่าแถวชลบุรี พัทยา เป็นตลาดใหญ่ มีโรงงานอุตสาหกรรมเยอะ คนบริโภคกาแฟมาก ลงทุนครั้งแรกในชีวิต 3 แสนบาท

คุณแอ๋ว เกิดและเติบโตมาในครอบครัวเกษตรกรเป็นลูกสาวคนเล็ก แม่ปลูกผักส่งขายตลาดไท ที่สำคัญชอบทานกาแฟ เลยสนับสนุนลูกสาว ให้ทำธุรกิจกาแฟ

ธุรกิจเริ่มแรกของหญิงสาว เธอใช้วิธีซื้อเมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าจากทางภาคใต้มาคั่วและบดเอง ใช้ชื่อแบรนด์ว่า “ภูคอฟฟี่” จำหน่ายตามร้านค้าส่งและร้านกาแฟขนาดเล็ก กระแสการตอบรับดีมาก สินค้าถูกกระจายไปหลายจังหวัด

“ยอดขายกาแฟคั่วเดือนแรก 6 หมื่นบาท สินค้ากระจายไปทั่วภูมิภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ประกอบกิจการ 3 ปี ปรากฏคู่แข่งเพิ่มขึ้นเยอะเลยใช้วิธีทำแฟรนไชส์ร้านกาแฟขนาดเล็ก ต่อมาอีก 2 ปี ปรากฏโดนตลาดปั่นราคากาแฟ เลยตัดสินใจยุติกิจการแล้วกลับบ้านเกิดที่จังหวัดน่าน เพื่อเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง”

คุณแอ๋ว กลับจังหวัดน่านปี 54 เธอบอกว่า นำต้นกล้ากาแฟพันธุ์โรบัสต้าจากชุมพร ขึ้นมาทดลองปลูก ขณะเดียวกันก็ใช้เมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่มีถิ่นกำเนิดจากน่านนครที่แม้รสชาติจะเบาบางกว่าโรบัสต้าจากทางใต้บ้างเล็กน้อยแต่ตลาดก็ตอบรับดี

“จังหวัดน่านมีการปลูกกาแฟนานมาแล้ว 30 ปี แต่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก พื้นที่ในภาคเหนือจะเน้นปลูกพันธุ์อาราบิก้า ปลูกมากใน เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ตาก ส่วนพันธุ์โรบัสต้าปลูกได้มากทางใต้แถวชุมพร”

ได้รับเงินสนับสนุนจาก ภาครัฐ

ช่วงที่หญิงสาวย้ายไปบ้านเกิด เธอส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกกาแฟ ด้วยการขายต้นกล้าให้ลูกไร่ โดยมีการคอนแทรคฟาร์มมิ่งหรือรับซื้อผลผลิตในราคาสูงกว่าตลาดเพื่อเป็นกำลังใจให้ลูกไร่ ซึ่งกาแฟที่ปลูกในภาคเหนือมีข้อดี คือ อากาศเย็น เมล็ดกาแฟจะค่อยๆ สุก รสชาติจะนุ่ม เหมาะกับเมนูกาแฟร้อน

ปัจจุบันคุณแอ๋ว มีพื้นที่ปลูกกาแฟเอง 1,000 ไร่ และคอนเทรคฟาร์มมิ่งกับเกษตรกรหลายอำเภอ ใน จ.น่าน อาทิ อำเภอปัว ท่าวังผา เวียงสา แม่จริม ทุ่งช้าง อีก 2,500ไร่ ในปี 59 ผลิตกาแฟเมล็ดดิบได้ 50 ตัน ส่งขายให้สมาคมกาแฟและรับจ้างผลิต 40 ตัน เก็บไว้ผลิตในแบรนด์ตัวเอง 10 ตัน

“ปี 2557 ห้างหุ้นส่วน จำกัด น่านดูโอ คอฟฟี่ ผลิตและจำหน่ายกาแฟครบวงจร สร้าง 3 แบรนด์หวังเจาะตลาดทุกกลุ่ม แบรนด์ ‘ภูมิใจ๋ คอฟฟี่’ เป็นกาแฟออร์แกนิคในรูปแบบของกาแฟ 3 in 1 เจาะลูกค้ากลุ่มบน ส่วน ‘ภูคอฟฟี่’ และ ‘ดูโอ คอฟฟี่’ เจาะตลาดล่าง”

ปัจจุบันที่จังหวัดน่าน มีเพียงห้างหุ้นส่วน จำกัด น่านดูโอ คอฟฟี่ ที่ทำธุรกิจกาแฟครบวงจร ตั้งแต่ปลูก คั่วและผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ช่องทางสร้างรายได้แบ่งเป็น 3 ส่วน 1. ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งกาแฟคั่วสดแบรนด์ดูโอคอฟฟี่ 2. จำหน่ายกาแฟแบรนด์ภู คอฟฟี่  3. จำหน่ายผลิตภัณฑ์กาแฟตามโรงแรม รีสอร์ต ทั่ว จ.น่าน

ด้านผลประกอบการปีที่ผ่านมา เจ้าของกิจการ บอกว่า มีรายได้ 10 ล้านบาทเติบโตจากปี 58 ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ สินค้าขายดี คือ กาแฟ 3 in 1 และการขายเมล็ดดิบ  ส่วนในอนาคตจะขายแฟรนไชส์ ดูโอ คอฟฟี่ พร้อมแตกไลน์ผลิตสบู่กาแฟ หวังบุกตลาดต่างประเทศ ภายใน 3 ปี รายได้จะทะลุ 100 ล้านบาทอย่างแน่นอน

สำหรับการสนับสนุนจากภาครัฐนั้น เมื่อเดือน พฤษภาคม น่านดูโอ คอฟฟี่ ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากรัฐบาล ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยได้รับอนุมัติวงเงินกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวประชารัฐ จากคณะกรรมการกองทุนบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จำนวน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1% ปลอดชำระเงินต้น 3 ปี ระยะเวลาคืน 7 ปี

ขณะเดียวกันยังได้รับอนุมัติสินเชื่อจาก ธพว. ในโครงการสินเชื่อ SMEs Transformation Loan วงเงิน 2 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย 3% ใน 3 ปีแรก ปีที่ 4-7 คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ปกติ โดยให้ บสย. ค้ำประกันสินเชื่อ ในโครงการสินเชื่อ SMEs Transformation Loan วงเงิน 2,000,000 ล้านบาท

ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมแปรรูปทางการเกษตรของจังหวัดน่าน ที่ได้รับการส่งเสริมป็นพิเศษ จัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดน่านด้านเศรษฐกิจ ด้านการผลิตทางการเกษตรอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน เงินทุนดังกล่าว เจ้าของธุรกิจวางแผนนำมาลงทุนสร้างโดมพาราโบลา สำหรับตากเมล็ดกาแฟ พร้อมขยายโรงคั่วกาแฟ เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น