ปัจจุบันสตรอว์เบอร์รี ไม่ได้เป็นผลไม้ปลูกเฉพาะเมืองหนาว จะเห็นได้ว่าทุกภาคในประเทศไทยสามารถปลูกสตรอว์เบอร์รี่ได้ ดั่งเช่นที่อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าของไร่ คือ คุณพิมพ์วรัตน์ คำเรือง หรือคุณน็อต สาวนักบัญชี จากรั้วมหาวิทยาลัยสยาม

ลบคำสบประมาทจากเพื่อนบ้าน
ปลูกสตรอว์เบอรี่  โกยเงินล้าน

น็อต เล่าว่า  หลังเรียนจบคณะบัญชี จากมหาวิทยาลัยสยาม ก็ไม่คิดทำงานประจำ คิดแต่เพียงว่าจะกลับบ้าน ไปช่วยพ่อแม่ทำไร่ เพราะพ่อแม่เป็นเกษตรกร ปลูกมะนาว ปลูกแตงกวา ปลูกถั่วฝักยาว แต่ทว่าพืชผักเหล่านั้นราคาไม่แน่นอน เลยทดลองหาผลไม้แปลกๆ มาปลูก ในที่สุดเลือกปลูกสตรอว์เบอรี่

พ่อกับแม่ของคุณน็อต มีอาชีพเป็นเกษตรกรมาตลอดทั้งชีวิต โดยลูกสาว บอกว่า เมื่อก่อนจะปลูกพืชล้มลุก เช่น มะนาว ถั่ว แตงกวา ปลูกแบบนี้สลับหมุนเวียนไป ส่งขายพ่อค้าคนกลาง บางปีขาดทุน ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ราคาพืชผลเกษตรไม่ดี บางปีมะนาวต้นตลาด เกิดปัญหาเดิมๆ ซ้ำซาก อยู่แบบนี้เรื่อยมา

ภายหลังที่คุณน็อตเรียนจบ หญิงสาวปฏิเสธชีวิตมนุษย์เงินเดือน แล้วกลับมาช่วยพ่อแม่ทำไร่ ทำสวน แต่ครั้งนี้ไม่ปลูกพืชล้มลุก หันไปปลูกสตรอว์เบอร์รีแทน โดยมีเหตุผลว่า สตรอว์เบอรี่ เป็นผลไม้สากลที่คนทั่วโลกรู้จัก เป็นผลไม้ดาวรุ่ง ทุกเพศทุกวัยกินได้ มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย

“ช่วงที่เรียนจบปริญญาตรี แล้วกลับมาอยู่บ้าน ณ เวลานั้นคนแถวบ้านสบประมาทว่า เรียนสูง เเต่มาเป็นเกษตร ปลูกผัก ซึ่งใครๆ ก็ปลูกได้ ไม่ต้องไปเรียนหนังสือสูงๆ ช่วงนั้นคิดมาก เพราะรู้สึกเหมือนโดนดูถูก เกรงใจพ่อกับแม่ด้วย เลยยิ่งมุ่งมั่นและทุ่มเทกับการปลูกสตรอว์เบอร์รีเพื่อจะลบคำครหานั้น”

“ดิฉันซื้อต้นกล้า หรือเกษตรกรจะเรียกว่าต้นไหล จากจังหวัดชัยภูมิ สั่งซื้อ 2 สายพันธุ์ เป็นพันธุ์ที่ทนโรค ทนต่อความร้อนของอากาศได้ดี คือ พันธุ์ 80 จะเป็นลักษณะคล้าย ๆ รูปหัวใจ ตูดกลมมน รสชาติหวาน ส่วนพันธุ์ที่ 2 คือพันธุ์ 329 ผลจะออกแบน ๆ ลูกใหญ่ รสชาติเปรี้ยว ให้ผลดก เบื้องต้นปลูกบนพื้นที่ เกือบ 2 งาน จำนวน 4,000 ต้น ใช้เงินทุนเริ่มต้น 32,000 บาท”

 

ทว่าทุกย่างก้าวย่อมมีอุปสรรค แต่ด้วยใจที่มุ่งมั่นของหญิงสาว เธอไม่ย่อท้อ ในเบื้องต้นเตรียมดินด้วยการปลูกต้นปอเทือง ปลูกนาน 70 วันจากนั้นไถกลบ วัตถุประสงค์เพื่อใช้ทำปุ๋ย จากนั้นค่อยปลูกต้นกล้าสตรอว์เบอร์รีซึ่ง 1 เดือนแรกจะใช้เคมี จากนั้นอีก 70 วัน จะใช้ชีวภัณฑ์ หรือปุ๋ยธรรมชาติ

สำหรับวิธีให้ปุ๋ยจะมีอยู่ 3 ช่วงคือ 1.ช่วงบำรุงสตรอว์เบอร์รี ต้องให้ปุ๋ยทุก 15 วัน 2.พอสตรอว์เบอร์รี่ อายุ 3 เดือน เข้าสู่ช่วงบำรุงดอก เร่งผล ให้ใส่ปุ๋ยตามความเหมาะสม อาจจะให้ทุก 15 วันเหมือนเดิมหรือลดลงก็ได้ โดยใช้สูตรปุ๋ยอินทรีย์ 8-24-24 3.เมื่อผลสตรอว์เบอรี่ เริ่มออก ต้องพยายามดูแลเพื่อให้ผลแข็งแรง พร้อมให้ปุ๋ยสูตร 0-0-50 หรือ 13-13-21 ทุก ๆ 10 วันจนกว่าจะเก็บเกี่ยวได้

ไม้เมืองหนาวปลูกได้แล้ว
ที่จังหวัดสุพรรณบุรี

อย่างไรก็ตามแม้ว่าอากาศของจังหวัดสุพรรณบุรีจะไม่หนาวเย็นเหมือนภาคเหนือ แต่พื้นที่ปลูกสตรอว์เบอร์รีของคุณน็อตก็เป็นใจ เพราะมีภูเขาล้อมรอบ มีแหล่งน้ำ เจ้าของไร่ บอกว่า บางปีช่วงหน้าหนาว เคยหนาวถึง 10 องศาเซลเซียส และเพื่อสร้างรายได้หลายช่องทาง ปลูกต้นกล้าขาย เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย

“ไร่พิมพ์วรัตน์ อากาศตอนค่ำจะเย็น อุณหภูมิประมาณ 15-16 องศา แต่ตอนกลางวันจะร้อน อาศัยให้น้ำต้นสตรอว์เบอร์รีตอนกลางวัน ช่วยทำให้สตรอเบอรี่ออกผลได้ สตอรว์เบอรี่ที่ไร่ต้องใช้เวลานาน เกือบ 4 เดือน ถึงจะให้ผลิต”

กล่าวได้ว่า ผลสตรอว์เบอร์รี จะเริ่มออกช่วงอากาศหนาว ระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ เก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป พอเข้าเดือนมีนาคมและเมษายนอากาศร้อนขึ้น สตรอว์เบอรี่จะไม่ติดผล

ปัจจุบันพื้นที่ปลูกสตรอว์เบอร์รี แห่งนี้ ราว 1 ไร่ มีต้นสตรอว์เบอร์รี 10,000 ต้น สำหรับราคาขายพันธุ์ 80 จะขายในราคา 350 บาท/กก. และสตรอว์เบอร์รี พันธุ์ 329 ขายอยู่ในราคา 300 บาท/กก. แต่ละวันจะเก็บ
สตรอว์เบอรี่ได้เฉลี่ยวันละ 40 กิโลกรัม

“ดิฉันสร้างความแตกต่างด้วยความสด นั่นคือ ที่ไร่จะเก็บสตรอว์เบอร์รี ขายวันต่อวัน เก็บเฉพาะผลสุกสีแดงเท่านั้น ต่างจากในท้องตลาดที่รับจากภาคเหนือ  สตรอว์เบอร์รี่พวกนั้นถูกเก็บตั้งแต่ผลสีขาวยังไม่สุก  พอลำเลียงมา กทม.ผลจะเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่รสชาติจะยังไม่หวาน”

ปัจจุบัน ไร่พิมพ์วรัตน์ ขายสตรอว์เบอร์รี ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง กำหนดราคาเอง  ราคากิโลกรัมละ 300 – 350 บาท หากลูกค้าจะเก็บสตอรว์เบอร์รี่จากต้นเอง คิดราคาขีดละ 40 บาท เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสุพรรณบุรี และในอนาคตจะรวมกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่ใกล้เคียงแปรรูปผลผลิตจากสตรอว์เบอร์รีอีกด้วย