จากสวนมะม่วง สู่แม่ค้าขาย “กระท้อน” ผลไม้ทำเงิน สร้างรายได้วันละหลักแสน

จากสวนมะม่วง สู่แม่ค้าขาย “กระท้อน” ผลไม้ทำเงิน สร้างรายได้วันละหลักแสน
จากสวนมะม่วง สู่แม่ค้าขาย “กระท้อน” ผลไม้ทำเงิน สร้างรายได้วันละหลักแสน

จากสวนมะม่วง สู่แม่ค้าขาย กระท้อน” ผลไม้ทำเงิน สร้างรายได้วันละหลักแสน แนะเคล็ดลับไม่กั๊ก มือใหม่ซื้อไปทานสด-แปรรูป 

เจ้ภา เจ้าของร้านเตย-ตอง เล่าให้ฟังว่า อาชีพหลักของครอบครัวคือการขายผลไม้ แต่ผลไม้ที่ขายหลักๆ จะเป็นมะม่วง เพราะมีผลผลิตผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนสายพันธุ์มีให้ขายได้ทั้งปี แต่ช่วงที่มะม่วงพีกสุดจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน เพราะมีสายพันธุ์ยอดนิยมอย่างน้ำดอกไม้ออกผลผลิตมามากที่สุด แต่หลังจากมิถุนายน รายได้จากมะม่วงก็จะเริ่มลดลง เลยต้องหาผลไม้อื่นมาขายเสริมให้รายได้เพิ่มขึ้น

จากสวนมะม่วง สู่แม่ค้าขาย “กระท้อน” ผลไม้ทำเงิน สร้างรายได้วันละหลักแสน
จากสวนมะม่วง สู่แม่ค้าขาย “กระท้อน” ผลไม้ทำเงิน สร้างรายได้วันละหลักแสน

“ตอนแรกก็ลองถูกลองผิดอยู่นาน จนมาลงตัวที่กระท้อน ช่วงแรกลุยเองติดต่อสวนกระท้อนด้วยตัวเองทุกสวน แล้วลองรับมาขาย ในใจรู้สึกว่าดวงเราถูกกับผลไม้ชนิดนี้ แล้วก็เป็นไปตามที่คิด จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็ขายมาจะ 10 กว่าปีแล้ว

พอถึงช่วงฤดูกระท้อน ก็จะเข้าสวนไปเอากระท้อนมาขายตลอด สำหรับลูกสวนพอเขาขายได้ราคา ก็บอกปากต่อปาก ธุรกิจก็ขยายตัวขึ้น จากไม่กี่สวนก็กลายเป็นสวนทั้งหมู่บ้าน ส่วนหนึ่งเพราะเราไม่เคยกดราคา จ่ายเงินสดตรงเวลา โดยขอแค่เงื่อนไขเดียวคือคัดของคุณภาพให้ นั่นเลยเป็นจุดขายสำคัญที่ทำให้ลูกค้าที่ซื้อไปก็ไปบอกต่อ เพราะกระท้อนร้านเราการันตีไม่มีขม ถ้าใครชอบกินกระท้อนจะรู้ว่าส่วนใหญ่จะขมติดปลายลิ้น แต่ของร้านเราไม่ขมแน่นอน” 

จากสวนมะม่วง สู่แม่ค้าขาย “กระท้อน” ผลไม้ทำเงิน สร้างรายได้วันละหลักแสน
จากสวนมะม่วง สู่แม่ค้าขาย “กระท้อน” ผลไม้ทำเงิน สร้างรายได้วันละหลักแสน

กระท้อนปราจีนบุรี นครนายก นครราชสีมา อร่อย ไม่ขม

เจ้ภา เล่าต่อว่า กระท้อนที่ร้านหลักๆ มาจากสวนจาก 3 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี นครนายก นครราชสีมา แต่ละพื้นที่ปลูก ดิน อากาศ น้ำ ปุ๋ย แต่ละสวนไม่เหมือนกัน

“ส่วนมากกระท้อนของปราจีนและนครนายก จะมีรสชาติหวาน ผิวสวย ซึ่งมีบางสวนที่ทางร้านร่วมทุนกับเกษตรกรในพื้นที่ เราลงเงิน เกษตรกรลงแรง ปัจจุบันมีเกษตรกรหลายหมู่บ้านส่งให้เราเจ้าเดียว ด้วยความซื่อสัตย์และไว้ใจ เพราะค้าขายมานาน อย่างหมู่บ้านหนองกระจับ บ้านหนองชะอม จังหวัดปราจีนบุรี และสวนจินดาพงษ์ จังหวัดนครราชสีมา”

สำหรับจุดเด่นของกระท้อนที่ทางร้านจำหน่าย เจ้ภา บอกว่า ทางร้านมีกระท้อนให้เลือกทุกไซซ์ ตั้งแต่ไซซ์จัมโบ้ ไปจนถึงไซซ์เล็ก อย่างไซซ์จัมโบ้จะมีน้ำหนักเฉลี่ยต่อผลไม่ต่ำกว่า 1 กิโลกรัม และผลที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบมีน้ำหนักถึง 2 กิโลกรัม ในส่วนของรสชาติเนื้อสัมผัส เนื้อหนาฟู รสชาติจัดจ้านหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย และนิ่ม เปลือกบาง มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ที่สำคัญ รับประกันไม่ขม 100% (ปกติกระท้อนทั่วไปจะมีรสขมติดปลายลิ้น)

และเคล็ดลับผลผลิตที่ลูกค้าติดใจ จะประกอบด้วยหลายอย่าง ทุกสวนเอาใจใส่ตั้งแต่การปลูก และใช้ปุ๋ยสูตรพิเศษที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค โดยทางสวนใช้สูตรนี้มานานกว่า 20 ปี เมื่อกระท้อนเริ่มติดผลจะคัดเฉพาะผลที่สมบูรณ์เอาไว้ ซึ่งตรงนี้ต้องใช้ประสบการณ์ในการเลือก และต้องดูไม่ให้ผลชิดติดกันเกินไปเพราะจะไม่กลมสวย ถ้าดูแล้วผลไม่สวยสมบูรณ์ก็ต้องตัดใจเด็ดทิ้ง เพื่อให้สารอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วนที่เลือกไว้ได้บำรุงต้นให้สมบูรณ์ แข็งแรง

และสุดท้ายคือ การห่อผลกระท้อน ซึ่งจะเริ่มทำตอนที่ขนาดผลขนาดกำมือ ต้องห่อเมื่อผลมีสีเขียวเข้มเท่านั้น ช่วยป้องกันแมลงมาเจาะผล และยังช่วยให้ผิวของผลสวยไม่มีตำหนิ ขายได้ราคาดี

จากสวนมะม่วง สู่แม่ค้าขาย “กระท้อน” ผลไม้ทำเงิน สร้างรายได้วันละหลักแสน
จากสวนมะม่วง สู่แม่ค้าขาย “กระท้อน” ผลไม้ทำเงิน สร้างรายได้วันละหลักแสน

ช่วงพีก รายได้ 3 แสนกว่าบาทต่อวัน 

เจ้ภา เล่าต่อว่า ทางร้านเน้นสายพันธุ์ที่อร่อยชัวร์ไม่ต้องลุ้นอย่าง อีล่า และปุยฝ้าย ช่วงพีกผลผลิตเข้ามาจำหน่ายวันละ 150 ตัน คิดเป็นเงินประมาณ 3 แสนกว่าบาทต่อวัน

“กระท้อนที่ซื้อจากตลาดสี่มุมเมืองสุดยอดคุณภาพเพราะห้างก็รับจากทางร้าน เรามีลูกค้าหลักคือ ห้างค้าปลีกและซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของประเทศ ตลาดพรีเมียมต่างๆ ในเมือง ตลาดนัดกลางคืน รองลงมาจะเป็น รถเร่ รถพ่วงเล็ก ร้านผลไม้ที่นำไปยำ และมีส่งออกต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น จีน และอเมริกา”

ก่อนทิ้งท้ายถึงเคล็ดลับฉบับเจ้ภา บอกแบบไม่กั๊กว่า ถ้าเลือกไปขายสำหรับทานสด ให้เลือกพันธ์ปุยฝ้าย แบบห่อ เนื้อจะฟู และหวาน อร่อยแน่นอน ส่วนร้านอาหาร หรือใครที่จะซื้อแบบนำไปทำเมนูยำ ทรงเครื่อง หรือลอยแก้ว ต้องพันธุ์อีล่า แบบนอกห่อ เพราะเนื้อเยอะ รสชาติเปรี้ยวหวานจัดจ้าน และราคาที่ถูกลง สร้างกำไรได้แน่นอน และสุดท้าย ถ้าต้องการนำกระท้อนไปดอง ต้องเลือกลูกที่มีสีเขียวๆ ลูกที่ออกสีแดงๆ จะดองไม่ได้

“ส่วนพ่อค้าแม่ค้าที่อยากนำไปขายต่อ พูดจากประสบการณ์เลยว่า ให้ดูโลเกชันของเรา อย่างตลาดพรีเมียมในเมือง หมู่บ้านแพงๆ หรือห้างดัง ก็จะเน้นเลือกลูกใหญ่ๆ เน้นพรีเมียม สวยตั้งแต่เปลือก เพราะลูกค้ามีกำลังซื้อนำไปอัปราคาได้ เฉลี่ยลูกละ 150-200 บาท แต่ถ้าเป็นตลาดสด ตลาดนัด รถเร่ หรือร้านทั่วไป แนะนำเกรดกลางๆ ที่ราคาต้นทุนไม่สูง ย่อมเยาลงมา เพราะลูกค้าจะเน้นรสชาติมากกว่ารูปทรง

จากสวนมะม่วง สู่แม่ค้าขาย “กระท้อน” ผลไม้ทำเงิน สร้างรายได้วันละหลักแสน
จากสวนมะม่วง สู่แม่ค้าขาย “กระท้อน” ผลไม้ทำเงิน สร้างรายได้วันละหลักแสน

สำหรับมือใหม่หัดเลือกกระท้อน จำง่ายๆ แบบนี้ ปุยฝ้าย เนื้อฟู เนื้อจะน้อยหน่อยแต่ทานสดอร่อยมาก ส่วนอีล่า เนื้อเยอะกว่า เม็ดเล็ก เหมาะเอาไปทำเมนูทรงเครื่อง เมนูยำ หรือลอยแก้ว ได้เนื้อเต็มๆ เรื่องรสชาติของ 2 สายพันธุ์เหมือนกันคือ หวาน อมเปรี้ยวเล็กน้อย ถ้าอยากได้แบบเปรี้ยวนำหวานตาม รสชาติจัดจ้าน ต้องเลือกแบบกระท้อนนอกห่อ ความแตกต่างระหว่างกะท้อนห่อ และไม่ห่อคือ กะท้อนไม่ห่อ มันจะเก็บได้ไม่กี่วัน เสียง่าย เหมาะกับการนำไปแปรรูป เช่น เอาไปดอง ออกไปทรงเครื่อง เอาไปลอยแก้ว อะไรแบบนี้ได้ แต่ถ้ากะท้อนห่อ มันเสียน้อยกว่าเพราะการห่อทำให้กันเรื่องหนอน เรื่องแมลงเจาะ” เจ้ภา บอกทิ้งท้าย

พิกัด ร้านเตยตอง ตลาดผลไม้รวม (ฝั่งถนนขาออกตรงข้ามตลาดผลไม้ต่างประเทศ) ช่องทางการติดต่อ โทร. 094-429-1646 ไลน์ toeynerrieee