เกษตรกรอุบลฯ ปลูกแตงกวา 2 เดือน สร้างรายได้ไร่ละ 50,000

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรบ้านทุ่งเดิ่น ต.ธาตุ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ยึดอาชีพปลูกพืชผักสวนครัว พืชอายุสั้น ทนแล้ง ใช้น้ำน้อยหลังฤดูกาลทำนา สร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพืชผักสวนครัวเช่น แตงกวา

ลุงมังกร และยายนวลจันทร์ นิตอินทร์ สองสามีภรรยา ชาวบ้านทุ่งเดิ่น ต.ธาตุ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ตนเองปลูกแตงกวามาเกือบ 10 ปี คือทำการเกษตรทุกอย่างตั้งแต่ทำนา ปลูกข้าวโพด และปลูกแตงกวา เฉพาะการปลูกแตงกวานั้น ปลูกอย่างน้อยปีละ 3 ครั้ง ครั้งละ 3 ไร่ เหมือนเป็นพืชเสริมที่ว่างจากการทำนา แต่กลับเป็นพืชที่สร้างรายได้หลักให้กับครอบครัว เพราะแตงกวาเป็นพืชที่ให้ผลผลิตเร็ว คือปลูกราว 30-32 วัน ก็เริ่มให้ผลผลิตเก็บเกี่ยวต่อเนื่องได้นาน 25-28 วัน จึงจะเลิกเก็บ

ลุงมังกร เล่าว่า แตงกวาสามารถทำเงินได้เร็วมาก ถ้าเกิดปัญหาโรคหรือแมลงทำลายเสียหาย เกษตรกรก็แก้ตัวใหม่ได้เร็ว ซึ่งแตงกวาปลูกได้ทุกฤดูกาล ขอให้มีแหล่งน้ำดี เพราะแตงกวาเป็นพืชชอบน้ำ แต่ต้องไม่ขังแฉะ เมื่อแปลงปลูกขังแฉะก็จะเสี่ยงต่อโรคจากเชื้อรา การปลูกแตงกวามีความยากง่ายต่างกันไปตามฤดูกาล อย่างช่วงหน้าร้อน แตงกวาจะทำยากกว่าฤดูอื่น เพราะแมลงระบาดเยอะโดยเฉพาะเพลี้ยไฟ และแมลงหวี่ขาว

ส่วนช่วงฤดูฝนจะค่อนข้างทำแตงกวาง่าย โตไว แตงกวาติดผลดี เพราะต้นแตงกวาได้รับน้ำฝน แมลงศัตรูมีไม่มากนัก จะมีโรคเชื้อราบ้าง แต่ถ้าเราเตรียมแปลงดีก็ไม่มีปัญหามากนัก ปลูกได้ทั้งปี ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย บางปีแตงกวาได้ราคาดี สูงถึงกิโลกรัมละ 22 บาท โดยเฉลี่ยแตงกวา ราคากิโลกรัมละกว่า 10 บาท โดยจะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงสวน การปลูกแตงกวานอกจากการดูแลที่ดีแล้ว ยังต้องอาศัยปัจจัยทางการตลาดด้วย เพราะราคามีขึ้นลงเหมือนพืชผักชนิดอื่น แต่ราคาโดยเฉลี่ยทั้งปีเกษตรกรก็อยู่ได้ บางทีราคาแตงกวาแพง เพราะแตงกวาขาดตลาด เกษตรกรได้ราคาดีขึ้นมา แต่เมื่อมีของมากเกินไปราคาก็ลง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา