สร้างรายได้เสริม ด้วย’อะโวกาโด’พืชแซมสวนทุเรียนที่ชุมพร ไม้เมืองหนาวแต่ปลูกได้ในภาคใต้

เรื่อง / รูป โดย จิรวรรณ โรจนพรทิพย์

สำหรับอะโวกาโด ที่เจอในปักษ์ใต้ ปลูกอยู่ในสวนผลไม้ผสมผสานของ คุณทองทิม สีถาการ ที่ ตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร

ต้นอะโวกาโด ที่ปลูกในสวนแห่งนี้คือ พันธุ์แฮสส์ (Hass) เป็นสายพันธุ์ที่ชอบอากาศค่อนข้างเย็น มีลักษณะผลด้านบนเรียวยาวคล้ายลูกแพร ผิวขรุขระมาก เปลือกผลหนา ผิวเปลือกสีเขียวเข้ม เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มเกือบดำ เปลือกปอกล่อนง่าย มีรสชาติอร่อย หอม และมีรสมันเหมือนถั่ว รับประทานเปล่าๆ ก็อร่อย ผลมีขนาดเล็ก น้ำหนัก ประมาณ 200-300 กรัม เนื้อสีเหลือง เมล็ดเล็กถึงขนาดกลาง เนื้อหนาและไขมันสูง อายุผลผลิตตั้งแต่ผสมติดถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 8 เดือน เป็นสายพันธุ์อะโวกาโดที่นิยมปลูกเชิงการค้ามาก เรียกว่าเป็น อันดับ 1 ของโลกเลยทีเดียว เนื่องจากมีรสชาติอร่อยกว่าพันธุ์อื่น

คุณทองทิม สีถาการ เล่าว่า พื้นที่สวน มีเนื้อที่ 20 ไร่ แห่งนี้ เคยปลูกกาแฟเป็นพืชหลัก ต่อมาเกิดปัญหาดินเปรี้ยว ดูแลจัดการสวนไม่ดี ทำให้ผลผลิตกาแฟลดลง จึงหันมาปลูกไม้ผลแบบผสมผสานแทน โดยปลูกทุเรียน ปาล์มน้ำมัน มังคุด มีอาชีพเสริมเพาะเห็ดขาย ส่วนต้นอะโวกาโดได้พันธุ์มาปลูกด้วยความบังเอิญ เมื่อ 7 ปีที่แล้ว มีญาติผู้ใหญ่จากแม่สอด จังหวัดตาก ได้นำผลอะโวกาโดมาเป็นของฝาก จึงเก็บเมล็ดมาทดลองปลูกเล่นๆ ที่สวนหลังบ้าน โดยนำเมล็ดอะโวกาโดไปปลูกเหน็บดินหลังบ้าน เอาไม้ปักไว้เป็นสัญลักษณ์เท่านั้น

โดยทั่วไป อะโวกาโด เป็นไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกประเภท เนื้อดินลึก อินทรียวัตถุมากๆ ระบายน้ำดี และไม่ทนต่อสภาพน้ำท่วมขังนาน ถ้าดินมีความชื้นสูงเกินความต้องการจะทำให้เกิดโรครากเน่าได้ง่าย ถ้าขาดน้ำฝนควรมีการให้น้ำอย่างน้อย 7-10 วัน ต่อครั้ง โดยเฉพาะช่วงดอกบาน และติดผลเป็นช่วงที่ต้องการน้ำ เนื่องจากต้นอะโวกาโดเป็นไม้เนื้ออ่อน กิ่งเปราะ ควรมีแนวป้องกันลม เพื่อป้องกันการหักของต้นอะโวกาโด ควรมีการตัดแต่งกิ่งให้พุ่มโปร่ง จะช่วยป้องกันได้พอสมควร

ส่วนเทคนิคการปลูกดูแลต้นอะโวกาโดของคุณทองทิม   ไม่ได้เน้นอะไรเป็นพิเศษปลูกแบบธรรมชาติแค่ให้ปุ๋ยและน้ำเช่นเดียวกับไม้ผลอื่นๆภายในสวนโดยหว่านปุ๋ยสูตร 15-15-15 เฉลี่ย 2-3 เดือน ต่อครั้ง ตั้งแต่ปลูกต้นอะโวกาโด ไม่เคยเจอปัญหาโรคและแมลงรบกวนเลย แต่เจอปัญหาผลแตกบ้าง ซึ่งคุณทองทิมก็หาคำตอบไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร


ต้นอะโวกาโดต้องใช้เวลาปลูกถึง 3 ปี จึงออกผล และเก็บผลผลิตได้ปีละครั้ง แต่พ้น 3 ปีไปจะสร้างรายได้ให้แก่ผู้ปลูกอย่างต่อเนื่อง เพราะผลผลิตต่อต้นจะเพิ่มขึ้นทุกปี อะโวกาโดเป็นไม้ผลที่มีลำต้นสูง การเก็บผลก็ต้องใช้ไม้สอย ผลอะโวกาโดของสวนแห่งนี้มีขนาดเล็ก เฉลี่ยประมาณ 4 ลูก ต่อกิโลกรัม โดยทั่วไปอะโวกาโดไม่นิยมรับประทานผลดิบ เนื่องจากมีสารแทนนิน มีรสขม รับประทานมากจะปวดศีรษะ

“ผมเน้นเก็บผลแก่จัด ประมาณ 40% ที่มีสีเขียวเข้มเกือบดำ ผิวขึ้นเงาเท่านั้น ผลสุกแบบนี้หากปล่อยทิ้งไว้ไม่เก็บ อีกไม่กี่วันผลก็จะร่วงแล้ว หลังจากเก็บผลที่แก่จัดแล้ว ผมก็นำมาวางเรียงใส่ตะกร้าโปร่ง วางไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิปกติ เพื่อบ่มให้สุก ประมาณ 2-3 วัน จึงนำไปรับประทาน จะได้รสชาติที่อร่อยมาก ผลอะโวกาโดหากวางไว้ในอุณหภูมิปกติ จะเก็บไว้ได้ประมาณ 7 วัน ก่อนเน่าเสีย หากเก็บในตู้เย็นน่าจะยืดอายุได้อีกเท่าตัว” คุณทองทิม กล่าว

หลังจากคุณทองทิมปลูกอะโวกาโดได้สำเร็จ ก็มีเพื่อนหลายคนสนใจอยากปลูกอะโวกาโด จึงขอแบ่งปันเมล็ดพันธุ์ไปทดลองปลูกดูบ้าง ทุกวันนี้ อะโวกาโด ถือเป็นพืชเสริมรายได้ตัวใหม่ ที่คุณทองทิมเร่งขยายพันธุ์เพิ่มอีก ปัจจุบัน คุณทองทิม ปลูกไว้ได้ 100 กว่าต้น และขณะนี้ มีอยู่สองต้นที่เริ่มติดดอกแล้ว คาดว่าจะได้ผลผลิตในเดือนกรกฎาคม

และนี่ก็เป็นบทพิสูจน์ว่า อะโวกาโด สามารถปลูกได้ในพื้นที่ภาคใต้ เช่นกัน

 

ติดต่อ คุณทองทิม สีถาการ ได้ที่  บ้านเลขที่ 86 หมู่ที่ 2 บ้านล่าง ตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร 86130 เบอร์โทร. (084) 941-7983 และ (084) 060-9872