จากสถานการณ์ กล้วยน้ำว้าราคาแพง (มาก) อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งหลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น และสถานการณ์นี้จะกินเวลาไปอีกนานมั้ย เราจะต้องซื้อกล้วยน้ำว้าแพงอย่างนี้ไปตลอดเลยหรือเปล่า 

ผู้สื่อข่าว “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ได้สอบถามไปยัง คุณณัชคิรากร ดำชมทรัพย์  เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยน้ำว้า ที่ ต.ดอนทราย อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา โดยกล่าวได้ว่า เธอเป็นผู้คลั่งไคล้ ในกล้วยน้ำว้าคนหนึ่งของเมืองไทยเลยทีเดียว ทำมาแล้วกว่า 15 ปี  และไม่เพียงแต่ปลูกอย่างเดียว แต่ยังเสาะหาข้อมูลอยู่เสมอๆ

ปัจจุบัน คุณณัชคิรากร ทำการเกษตรในพื้นที่ 30 ไร่ มีทั้งกล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า และเลี้ยงปลา โดยก่อนหน้านี้ เคยทำงานบริษัทเอกชน เหตุที่ลาออกมาเพราะต้องการทำการเกษตร โดยเริ่มจากบ่อกุ้ง แล้วเปลี่ยนมาทำไม้ผล ซึ่งมองว่า กล้วยเป็นพืชที่ไปได้  ถ้ายังไม่แน่ใจในการทำการตลาด ก็ขายหน่อไปก่อน

คำถามแรกคือ – เกิดอะไรขึ้น กับกล้วยน้ำว้าเมืองไทยที่แพงมากในปัจจุบัน

 

“ที่แพงมาก เพราะ 2 ปีที่ผ่านมานี้ แล้งหนักมาก อีกทั้งเกิดโรคระบาด โรคตายพราย ที่เกิดจากเชื้อรา ทำให้กล้วยขาดตลาด  เมื่อก่อน ขายกันได้หวีละไม่ถึง 10 บาท หรือราคาดีๆ หน่อย ขนาดจั้มโบ้ ได้ 25 บาท ก็ดีใจกันแล้ว แต่ตอนนี้ รับซื้อหน้าสวนอยู่ที่หวีละ 30-35 บาท  และไปถึงมือผู้บริโภค ราคาขึ้นไปถึง 50 บาทเลยทีเดียว”

คำถาม – พื้นที่ปลูกในเวลานี้ มีที่ไหนบ้าง

“พื้นที่ปลูกเยอะ ตอนนี้ ค่อนข้างกระจายไปทางภาคอีสาน แหล่งใหญ่ ๆ เช่น หนองคาย สระแก้ว  ส่วนทางเหนือไม่มากเท่าไหร่ 

คำถาม – สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร

“ปีหน้าจะค่อยๆ คลี่คลายแน่ๆ  คือตั้งแต่ฝนเริ่มลงที่ผ่านมา  คนก็เริ่มปลูกกันเยอะแล้ว  พื้นที่ปลูกเดิมอย่างหนองเสือ ปทุมธานี ก็ฟื้นแล้ว  คือเริ่มมีน้ำมาให้เพาะปลูกกันได้แล้ว บางที่เริ่มตัดได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ประมาณ 1 ปีนี้ ยังไงก็แพงแน่ๆ  นอกจากว่า จะมีกล้วยนอกเข้ามา จาก เขมร ลาว  คือก็ยังไม่ลองชิม แต่เท่าที่คุยๆ กับพรรคพวก  เค้าว่า กล้วยไทยอร่อยกว่า แต่กล้วยไทยเอง กล้วยทางภาคอีสาน ภาคกลาง รสชาติไม่เหมือนกัน”

คำถาม – แหล่งต้นพันธุ์มีที่ไหนบ้าง

“ปากช่อง โคราช  ท่ายาง จ.เพชรบุรี มีเยอะ  พันธุ์กล้วยในประเทศไทยมี 300 กว่าพันธุ์ อย่างพันธุ์  ปากช่อง 50  / มะลิอ่อง / ท่ายางกาบขาว ชาวบ้านรู้จักกันมากนาน  ราคาประมาณ  20-25 บาทต่อหน่อ บางพื้นที่อย่างพันธุ์ปากช่อง  ก็ประมาณ 35 บาทต่อหน่อ  ปกติ ก่อนที่จะเกิดวิกฤต กล้วยขาดแคลน  ราคาขายอยู่ที่  5-10 บาทต่อหน่อ   แต่ถ้าเป็น พันธุ์ปากช่องแพงกว่า พันธุ์อื่น”

คำถาม – จากวิกฤตกล้วยขาดแคลน และตอนนี้ก็เริ่มฟื้นแล้ว ถ้าจะทำหน่อขายตอนนี้ ยังทันหรือไม่

“ถ้าจะหน่อขายตอนนี้ มันช้าไปแล้ว คือเกษตรกร เค้าจะออร์เดอร์กัน ตั้งแต่เตรียมดิน คือในช่วง สงกรานต์ที่ผ่านมา   พอถึงตอนนี้ ปูพรม ปลูกกกันแล้ว  ปีนี้ปลูกกันเยอะ น้ำก็ดี  ปีหน้า ถามว่า ราคาจะถูกลงมั้ย  ต้องดูว่าปลายปีเป็นไง  กลัวว่าจะน้ำท่วม เพราะปีนี้ฤดูฝน ก็ยาวกว่าปกติ  ถ้าอยู่ใกล้คลองก็ท่วมอยู่แล้ว”

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า การปลูกเพื่อขายหน่อ รับวิกฤตนี้อาจจะช้าเกินไปถ้าตัดสินใจทำตอนนี้    แต่อย่าลืมว่า กล้วยเป็นพืชที่ขายได้เรื่อยๆ ขายผลไม่ได้ ก็ขายหน่อ หรือกระทั่งใบก็ตัดขายได้ นอกจากนี้ ความมหัศจรรย์ของกล้วยอีกประการหนึ่งก็คือ แม้น้ำจะท่วม ต้นกล้วยตาย แต่อย่าลืมว่า ยังไม่เหง้าอยู่ใต้ดิน ที่พร้อมจะเติบโตขึ้นมาได้อีก   

“กล้วยมันไม่เสียหาย  ลำต้นแท้จริงอยู่ใต้ดิน ส่วนที่เราเห็นเป็นต้น จริงๆ คือก้านใบที่มันซ้อนๆ กัน คือมันจะขึ้นมาได้เรื่อยๆ  กล้วยเป็นสัญลักษณ์ ของการเจริญเติบโต ตายยาก ไม่เหมือนไม้ผลชนิดอื่น เว้นแต่ ว่าจะเจอโรค    อย่างโรคตายพราย ถ้าเป็น  ก็ติดเชื้อกันไปหมด วิธีแก้  ใช้พวก ไตรโคเดอร์ม่า บำรุงดินและอย่าให้ดินเป็นกรด  รวมทั้งใส่อินทรีย์วัตถุด้วย”

หมายเหตุ  คุณณัชคิรากร  จะเป็นหนึ่งในวิทยากร งานสัมมนา  “กล้วยหอมทอง-กล้วยน้ำว้าปลูกกินเองได้ ปลูกขายทำเงิน” ที่จัดโดยนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน เครือบริษัทมติชน  ในวันเสาร์ ที่ 12 พฤศจิกายน 2559  ณ ห้องประชุมหนังสือพิมพ์ข่าวสด  ติดตามรายละเอียดได้จากนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้า  เว็บไซต์เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์ เว็บไซต์เส้นทางเศรษฐี  และเฟซบุ๊กเทคโนโลยีชาวบ้านและเส้นทางเศรษฐี  หนังสือพิมพ์มติชน ประชาชาติ และข่าวสด เร็วๆ นี้