ขายผลไม้กินง่าย ที่คนมองข้าม! กล้วย-มะละกอ ทำรายได้เดือนละหลายล้าน

กล้วย มะละกอ ผลไม้กินง่าย ที่คนอื่นมองข้าม แต่ คุณวิ-ศศิชญา กิจศิลป์ อายุ 41 ปี เจ้าของร้านอริสา พลิกมุมเห็นต่าง นำผลไม้ 2 ชนิดนี้ที่มีราคาจับต้องง่ายมาขายคู่กัน เชื่อหรือไม่ว่า สามารถสร้างรายได้ต่อเดือนประมาณ 4,000,000 บาท

คุณวิ เล่าให้ฟังว่า เปิดร้านขายมะละกออยู่ตลาดสี่มุมเมืองมาตั้งแต่ตลาดเปิด จากนั้นได้แต่งงานมีครอบครัว โดยฝั่งสามีเปิดร้านกล้วยอยู่ที่ตลาดเดียวกัน เมื่อเป็นคู่ชีวิตกันแล้วจึงได้รวมกิจการจำหน่ายทั้งกล้วยและมะละกอ

“เราช่วยกันดูแลร้านทำให้เติบโตและขยายออกไปเรื่อยๆ จากตอนแรกมีร้านมะละกอและร้านกล้วยคนละแผง ปัจจุบันมีแผงค้ากล้วยและมะละกอรวมกันเกือบๆ 10 แผงแล้วค่ะ ขายแค่ 3 อย่าง แต่เป็น 3 อย่างที่เราชำนาญจริงๆ คือ มะละกอฮอลแลนด์ กล้วยน้ำว้า และกล้วยไข่” คุณวิ เล่าเสริม

มะละกอ กล้วย หมุนเวียนขายตลอดทั้งปี

สำหรับมะละกอและกล้วยของร้านอริสามีวางจำหน่ายตลอดทั้งปี นำมาจากแหล่งปลูกที่ส่งผลผลิตให้กันเป็นประจำ ลูกค้ามั่นใจในเรื่องคุณภาพได้เลย

“มะละกอฮอลแลนด์ เราแบ่งเป็น 2 ช่วงเดือน เดือน ต.ค.-พ.ค. นำมาจากจังหวัดกำแพงเพชร ส่วนเดือน มิ.ย.-ก.ย. นำมาจากจังหวัดตาก ชุมพร และเชียงใหม่ ส่วนกล้วยน้ำว้ามี 2 สายพันธุ์ คือนวลจันทร์และมะลิอ่อง นำมาจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ตลอดทั้งปี ส่วนกล้วยไข่นำมาจากจังหวัดจันทบุรี ทุกสวนเรารับประกันได้มะละกอและกล้วยลูกใหญ่แน่นอน” 

ในส่วนของการจำหน่าย คุณวิเปิดร้านขายตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้าสามารถอุดหนุนได้ตามเวลาสะดวก ราคามีทั้งขายปลีกและขายส่ง

“ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้ารับแบบขายส่งไปขายท้ายรถ ขายตามตลาดทั่วไป หรือตีตราแบรนด์ของตัวเองแล้วส่งห้างก็มี ส่วนขายปลีกนั้นมีมาประปราย แต่ร้านเราขายให้ในราคาเท่าๆ กันไม่ได้บวกเอากำไรจากราคาขายปลีกเพิ่ม เช่น มะละกอฮอลแลนด์ คัดเกรด เกรด A ราคา 35 บาท/กก. เกรด B ราคา 32 บาท/กก. และเกรด C ราคา 29 บาท/กก.

ส่วนกล้วยทั้งน้ำว้าและกล้วยไข่ จะขายเป็นหวีคัดไซซ์คัดเบอร์ อย่างไซซ์เล็กหรือไซซ์กลางขายอยู่ที่หวีละประมาณ 15-18 บาท แต่ถ้าเป็นไซซ์ใหญ่เบอร์สวย เริ่มต้นที่หวีละ 20 บาท (ราคา ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2565)” เจ้าของร้าน อธิบาย

ก่อนบอกต่อ ตอนนี้ทางร้านมีส่งออกกล้วยไข่ไปขายที่ประเทศจีน โดยขนส่งทางเรือ จากนั้นจะมีพ่อค้าแม่ค้าคนกลางรับไปจำหน่ายอีกที

จุดเด่นสินค้า เหนือกว่าคู่แข่ง

คุณวิ เล่าต่อว่า ตลาดกล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า และมะละกอ ไม่มีวันถึงทางตัน เพราะมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ ส่วนร้านนั้นก็ขายได้ตั้งแต่ตลาดล่างจนถึงตลาดบน เพียงแต่ต้องควบคุมคุณภาพของผลผลิตให้ดี และการให้บริการก็เป็นอีกส่วนที่สำคัญ

“กล้วยและมะละกอเป็นผลไม้ที่ค่อนข้างบอบบาง อายุค่อนข้างสั้น ดังนั้น ต้องมีความแม่นยำเรื่องเวลา ตั้งแต่ตัดผลผลิตให้พอดีกับความต้องการของลูกค้า เช่น ลูกค้าแจ้งได้ว่าต้องการเก็บผลไม้ให้ทยอยสุก เพื่อนำไปขายต่อ หรือสามารถรับประทานได้

นอกจากนี้ ทางร้านยังรับประกันสินค้าให้ด้วย อย่างกล้วยหรือมะละกอ เมื่อลูกค้าซื้อไปบ่มแล้วไม่สุกหรือช้ำเละ ทางร้านยินดีเปลี่ยนให้ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดแข็ง ทำให้เรามีลูกค้าประจำเหนียวแน่น จนเติบโตประสบความสำเร็จมาถึงปัจจุบัน” คุณวิ แชร์กลยุทธ์ให้ฟัง

ช่วงขายดี ยอดขายสุดพีก

สำหรับช่วงขายดี คุณวิ บอกว่า คนไทยส่วนใหญ่จะใช้กล้วยน้ำว้าในการประกอบพิธีทางศาสนา หรือไหว้ศาล ไหว้เจ้าที่ แก้บน ดังนั้น จึงขายได้เรื่อยๆ มีร้านทำของไหว้มารับไปจำหน่ายร่วมกับพวงมาลัยดอกไม้

ส่วนเทศกาลสำคัญอย่างตรุษจีน กล้วยน้ำว้าจะขายดีมาก สำหรับเทศกาลเข้า-ออกพรรษาจะเป็นกล้วยไข่ที่ขายดี และช่วงเปิดเทอมจะมีพ่อค้าคนกลางมารับกล้วยไปส่งตามโรงเรียน ส่วนมากเป็นกล้วยไข่

เมื่อคิดยอดขายรวมทั้งกล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า และมะละกอฮอลแลนด์ สามารถทำยอดขายสูงสุดต่อวันรวมกันได้ 18,000 กิโลกรัม หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 4,000,000 ++ บาทต่อเดือน (ยังไม่หักค่าใช้จ่าย)

ก่อนทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันทางร้านไม่ได้ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการขายเลย ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำมารับซื้อและเลือกเองที่หน้าร้าน แต่ในอนาคตก็มีแผนจัดจำหน่ายในช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ท่านใดที่สนใจสามารถมาได้ที่ร้านอริสา ตลาดสี่มุมเมือง โซนตลาดกล้วย ขนุน มะละกอ เบอร์ติดต่อ 081-346-7665

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2565