อดีตสาวออฟฟิศ ต่อยอด ผุด น้ำผึ้งดอกไม้นานาพรรณ ขึ้นแท่น OTOP จ.ชัยภูมิ

อดีตสาวออฟฟิศ ต่อยอด ฟาร์มผึ้งลัดดา กิจการครอบครัว ผุด น้ำผึ้งดอกไม้นานาพรรณ-ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง OTOP เจ้าดัง ประจำ จ.ชัยภูมิ

น้ำผึ้ง อาจกล่าวได้ว่า เป็นอาหารที่ให้ความหวานที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ถือเป็นน้ำตาลบริสุทธิ์จากธรรมชาติ ที่ปราศจากเชื้อโรค ปลอดภัยต่อการบริโภค สรรพคุณของน้ำผึ้ง เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกเชื้อชาติต่างให้การยอมรับถึงคุณประโยชน์ที่หลากหลาย ในสมัยโบราณ น้ำผึ้ง ถือว่าเป็นยาอายุวัฒนะที่มีคุณค่า มีประโยชน์ต่อร่างกาย และเป็นของกำนัลที่มีมูลค่าสำหรับผู้ให้และผู้รับเสมอมานับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน (ขอบคุณข้อมูลจาก เทคโนโลยีชาวบ้าน)

เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณลัดดา ตั้งรัตนะ วัย 45 ปี ผู้ประกอบการรุ่น 2 แห่ง ฟาร์มผึ้ง ลัดดา เจ้าของผลิตภัณฑ์ OTOP 5 ดาว ประจำจังหวัดชัยภูมิ อย่าง น้ำผึ้งลัดดา ที่ผลิตจำหน่ายมาแล้วกว่า 20 ปี!

คุณลัดดา เล่าว่า เดิมที ครอบครัวของเธอไม่ได้ทำธุกิจการฟาร์มผึ้ง แต่ประกอบธุรกิจขายสินค้ามันสำปะหลังอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ ค้าขายมาเรื่อยๆ กระทั่งมีช่วงหนึ่งที่มันสำปะหลังราคาตกต่ำ ขายแล้วไม่ได้กำไร คุณพ่อของคุณลัดดา จึงคิดต่อว่า จะแก้ปัญหาหรือหาอะไรทำดี

คุณลัดดา ตั้งรัตนะ ผู้ประกอบการรุ่น 2 แห่ง ฟาร์มผึ้ง ลัดดา เจ้าของผลิตภัณฑ์ OTOP 5 ดาว ประจำจังหวัดชัยภูมิ

“พอเจอปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำ พ่อก็คิดว่าจะทำอะไรดี แล้วเวลานั้นคนฮิตเรื่องน้ำสมุนไพรอะไรพวกนี้กัน พ่อเลยไปศึกษาสูตรการทำน้ำสมุนไพร เลยเลือกเอาน้ำผึ้งผสมสมุนไพร มะขาม พวกนี้มาทำขาย ไปหาซื้อวัตถุดิบมาทำ มันก็ขายดีเลยค่ะ ตอนนั้นพ่อทำส่งขายในเซเว่นฯ ในห้าง ทำขายมาเรื่อยๆ จนวันหนึ่งพ่อเจอปัญหา ได้น้ำผึ้งปลอมมา เราเป็นชาวบ้านธรรมดาๆ ไม่ได้อยากจะมีเรื่องอะไรกับใคร พ่อก็คุยกับแม่ว่ามาลองเลี้ยงผึ้งเองเลยไหม จะได้ได้วัตถุดิบคุณภาพมาขาย”

“พ่อก็ไปศึกษาวิธีเลี้ยงผึ้ง ไปอบรมที่ขอนแก่นที่ตอนนั้นเขาเปิดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงผึ้ง พ่อเลยได้รู้จักเกษตรกรเลี้ยงผึ้งมากมาย หลังจากนั้นได้ประสานและติดต่อสอบถามกันมาโดยตลอดนานร่วมปี จนปี 2543 พ่อตัดสินใจขอซื้อลังเลี้ยงผึ้งหรือบ้านผึ้ง ซึ่งเป็นกล่องไม้กับสมาคมผู้เลี้ยงผึ้ง จาก จ.อุตรดิตถ์ จำนวน 10 ลัง ในราคาลังละ 1,000 บาท เอามาศึกษามาเรื่อยๆ จนสามารถขยายลังเลี้ยงผึ้งได้จาก 10 ลัง เป็น 100 ลัง และปัจจุบันจำนวนลังผึ้งรวม 500 ลัง โดยสินค้าที่คุณพ่อกับคุณแม่ทำออกมาขาย เป็น น้ำผึ้งดอกลำไย ที่ได้จากฟาร์มนี่แหละค่ะ” คุณลัดดา เล่า

นอกจากนั้น เจ้าของฟาร์มรุ่น 2 ยังเล่าต่อว่า เดิมทีตนนั้นเรียนจบมา เข้าทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เหมือนเด็กจบใหม่ทั่วๆ ไป ทำได้ไม่นานก็ต้องเข้ามาช่วยผู้เป็นมารดาบริหารกิจการเมื่อตอนสัก 10 ปีที่แล้ว เนื่องจากหัวเรือหลักอย่างผู้เป็นบิดาได้เสียชีวิตลงนั่นเอง

“ลาออกมาก็เข้ามาช่วยแม่บริหารค่ะ เข้ามาดูเรื่องการขายน้ำผึ้งจากดอกลำไยเพียวๆ ข้นๆ ที่พ่อกับแม่ทำขายกันมาก่อนหน้านี่แหละ เพราะผลผลิตเยอะและมันมีตลาดรองรับอยู่แล้ว เริ่มดูเริ่มศึกษาและก็คิดว่า งั้นเราลองทำเป็นน้ำผึ้งจากดอกไม้อื่นๆ ดูบ้างไหม เลยออกมาเป็น น้ำผึ้งจากดอกไม้ป่า จากดอกทานตะวัน ดอกขี้เหล็ก ซึ่งอันนี้ได้ไอเดียมาจาก การที่ดอกขี้เหล็กเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดชัยภูมิ แล้วเรากำลังหากิมมิกให้แบรนด์เพื่อที่จะส่งคัดสรรของจังหวัด เลยออกมาเป็นน้ำผึ้งจากดอกขี้เหล็ก”

“รสชาติก็จะหวานๆ ในตอนแรกแล้วขมปลาย ถือเป็นตัวขายดีตัวหนึ่ง ที่ลูกค้าต้องสั่งจองซื้อ ขายดีรองลงมาจาก น้ำผึ้งดอกลำไย แล้วก็พัฒนามาเรื่อยเป็น น้ำผึ้งจากดอกกาแฟ น้ำผึ้งผสมฟ้าทะลายโจร แล้วก็ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับผึ้งอย่าง เกสรผึ้ง นมผึ้ง ไขผึ้ง เป็นต้น รวมๆ แล้ว ตอนนี้สินค้าของแบรนด์ ถ้ารวมทุกไซซ์ทุกอย่างแล้ว มีประมาณ 30 อย่างได้” คุณลัดดา ว่าอย่างนั้น

นอกจากนั้น คุณลัดดา ยังเล่าอีกว่า สิ่งที่ทำให้ธุรกิจฟาร์มผึ้งลัดดาอยู่มาได้กว่า 20 ปีขนาดนี้ มีอยู่ 2 สิ่งที่คิดว่าเป็นปัจจัย นั่นคือ บริการหลังการขายที่เข้มแข็ง และการรับเคลมสินค้าคืนทุกกรณี ซึ่งลูกค้าต่างก็ชอบในการบริการแบบนี้ จึงได้เลือกที่จะมาซื้อสินค้าจากฟาร์มซ้ำๆ นั่นเอง

“เราออกบู๊ธบ่อย ก็จะเจอลูกค้าบ่อย เลยมักพูดคุยไถ่ถามกับเขา แล้วเราก็ขายแบบเน้นให้ความรู้เพราะสินค้าของเรามีหลากหลาย บางทีมีเปิดให้ลองชิมก่อนซื้อด้วย คืออยู่มาได้ 20 ปีกว่าๆ เรารู้แล้วว่า ยอดขายมันไม่ใช่คำตอบสำหรับการทำธุรกิจของเราแล้ว แต่มันคือความประทับใจของลูกค้า และสุขภาพที่ดีของเขา ที่ทำให้เขากลับมาซื้อสินค้าของเราซ้ำๆ ทำให้เรายังไปต่อได้”

“นอกจากน้ำผึ้งแบรนด์ลัดดา เราก็แยกแบรนด์ออกมาอีก 2 กลุ่ม คือ แบรนด์ภูมิผึ้ง ที่เน้นลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยม และ Honey Home (ฮันนี่โฮม) ที่เน้นลูกค้ากลุ่มชาวบ้าน เพราะพักหลังๆ ลูกค้าจะใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาซื้อ เราเลยทำสินค้าตอบโจทย์ตลาดลูกค้ากลุ่มนี้”

“น้ำผึ้ง พูดก็พูดมันเป็นสินค้าที่คนต้องชอบและอยากได้จริงๆ คนถึงจะยอมซื้อ ต่อให้การขายของคุณจะเป็นการลดราคา แจก แถมยังไง มันก็ไม่ยั่งยืน เพราะถ้าลูกค้าไม่ชอบ เขาก็ไม่มีทางซื้อ เมื่อก่อนเรามีส่งขายต่างประเทศนะ เป็นลักษณะรับหิ้ว แต่พอเศรษฐกิจ โรคระบาด มันส่งผลกระทบพอสมควร เลยหันมาเน้นตลาดเมืองไทยกับการขายออนไลน์ เพราะเราอยากดันสินค้า OTOP ให้เข้ามาอยู่ในออนไลน์มากขึ้น” คุณลัดดา ว่าอย่างนั้น

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก น้ำผึ้งลัดดา ฟาร์มผึ้งลัดดา Ladda Honey Farm

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2565

ว้าวมาก ริสต์แบนด์สเปรย์แอลกอฮอล์ อวัยวะที่ 33 ฝีมือไทย ชนะใจเวทีนานาชาติ