ปลูก “มะลิ” พืชเศรษฐกิจรายได้มั่นคง สร้างเงินแสนได้ไม่ยาก

ดอกมะลิ เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าจึงนิยมนำมาจัดตกแต่งบนพานพุ่มหรือร้อยเป็นมาลัยนำไปกราบแม่เพื่อขอรับพรที่เป็นมงคลชีวิต หรือนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ ด้วย การปลูกผลิตดอกมะลิขายในสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจจึงเป็นทางเลือกสร้างเสริมรายได้ให้ครอบครัวมีวิถีมั่นคง วันนี้จึงนำเรื่อง มะลิ…ดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ พืชเศรษฐกิจสร้างรายได้ของชาวสวน มาบอกเล่าสู่กัน

คุณสมชาย ทองชื่น เกษตรอำเภอธัญบุรี เล่าให้ฟังว่า มะลิเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ปลูกง่าย มีความสูง 1-2 เมตร ลำต้น เล็กกลม แตกกิ่งก้านสาขารอบลำต้น ลำต้นสีขาวนวล ใบ เป็นใบเดี่ยว แตกใบเรียงกันเป็นคู่ตามกิ่งก้าน ใบมนป้อม โคนใบสอบเรียว ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบเป็นมัน สีเขียวเข้ม ใบกว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 3-5 เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อตามส่วนยอดหรือง่ามใบ ขนาดเล็กสีขาวนวล มี 6-8 กลีบ เรียงกันเป็นวงกลมหรือซ้อนกันเป็นชั้นแล้วแต่พันธุ์ ดอกบานเต็มที่ 2-3 เซนติเมตร ผล เป็นรูปกลมรีเล็ก สุกมีสีดำ ภายในมีเมล็ด
เพื่อยกระดับรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มีความมั่นคง จึงได้ส่งเสริมให้เกษตรกรทำการผลิตในแบบผสมผสาน หรือผลิตในระบบเกษตรดีที่เหมาะสม GAP (Good Agricultural Practice) เพื่อให้ได้ผลผลิตดีมีคุณภาพปลอดภัยตรงกับความต้องการของตลาดผู้บริโภค ส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่มผู้ปลูกและผลิตเพื่อได้ทำกิจกรรมร่วมกันและมีอำนาจต่อรองด้านการตลาด
คุณลุงศักดิ์ชาย กล่อมเสนาะ เกษตรกรปลูกมะลิ เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนหน้านี้ปลูกส้มเขียวหวาน ผ่านไปได้ระยะหนึ่งมีโรคและศัตรูพืชเข้าทำลายทำให้ไม่ได้รับผลผลิต จึงได้พิจารณาข้อมูลต่างๆ ร่วมกันในครอบครัว และตัดสินใจปรับพื้นที่ปลูกมะลิ 5 ไร่ เพื่อทดแทนการปลูกส้มเขียวหวาน
การเตรียมดิน บนพื้นที่แปลงปลูกส้มเขียวหวาน ได้ทำการไถพรวนดิน ตาก 5-7 แดด เพื่อกำจัดแหล่งที่อยู่อาศัยของโรคแมลงศัตรูพืชให้หมดไป
พันธุ์ปลูก ได้เลือกปลูกมะลิพันธุ์เพชรบุรี นครสวรรค์ และราชบูรณะ เพราะเป็นชนิดพันธุ์ที่ปลูกง่าย ให้ดอกดก และตลาดต้องการ โดยได้ปลูกมะลิแบบวิธีผสมผสาน ทำให้ง่ายต่อการปฏิบัติดูแลบำรุงรักษา
การเตรียมกิ่งพันธุ์ ได้ซื้อกิ่งพันธุ์จากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ เป็นกิ่งปักชำ ได้เลือกกิ่งพันธุ์ที่มีความสูง 30 เซนติเมตรขึ้นไป จะทำให้ปลูกง่าย เจริญเติบโตสมบูรณ์ไว และติดดอกดก
การปลูก ได้ขุดหลุมปลูกกว้าง ยาว และลึก ด้านละ 30x30x30 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกแห้ง 3-5 กำมือ นำกิ่งพันธุ์มะลิไปล้างน้ำเอาวัสดุเพาะออกให้เห็นรากสีขาว พูนโคนที่ก้นหลุมปลูก วางให้รากต้นกล้าพันธุ์หรือกิ่งพันธุ์กระจายจะช่วยให้รากเดินและหาอาหารได้ดี เกลี่ยดินกลบ แล้วให้น้ำแต่พอชุ่ม
มะลิปลูกใหม่ได้ให้น้ำทุกวันในตอนเช้าหรือได้รับน้ำอย่างพอเพียง การปลูกต้นฤดูฝนก็ให้ได้รับน้ำจากน้ำฝน จัดการแปลงปลูกให้ระบายน้ำได้ดี ไม่ให้น้ำขังแฉะ เพราะจะทำให้ต้นมะลิใบเหลือง ต้นแคระแกร็นและตาย เมื่อต้นมะลิเจริญเติบโตดี ได้ให้น้ำวันละครั้ง หรือ 2 วัน ต่อครั้ง หรือดูความชุ่มชื้นในดินก่อนให้น้ำ
คุณลุงศักดิ์ชาย เล่าให้ฟังในท้ายนี้ว่า หลังจากปลูก 10 วัน ได้ใส่ปุ๋ยยูเรีย ในอัตรา 1 ช้อนโต๊ะ ต่อต้น โดยหว่านให้กระจายรอบทรงพุ่ม พรวนหรือเกลี่ยดินกลบ หลังจากปลูก 30 วัน ได้ใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ในอัตรา 1 ช้อนโต๊ะ ต่อต้น โดยหว่านให้กระจายรอบทรงพุ่ม พรวนหรือเกลี่ยดินกลบ และหลังจากนั้นอีกราว 40 วัน ได้ใส่ปุ๋ยคอกแห้งหรือปุ๋ยหมัก 1/2 กิโลกรัม ต่อต้น หว่านให้กระจายรอบทรงพุ่ม พรวนหรือเกลี่ยดินกลบ จากนั้นได้ใส่ปุ๋ยเดือนละครั้ง ทุกครั้งหลังการใส่ปุ๋ยได้ให้น้ำแต่พอชุ่ม ต้นมะลิก็จะเจริญเติบโตได้ดี
ศัตรูพืช ถ้าตรวจพบว่ามีเพลี้ยไฟ ตั๊กแตน หรือหนอนเจาะดอกมะลิ เข้าทำลายไม่มากก็จับหรือตัดกิ่งออกไปทำลายทิ้ง หรือถ้าจำเป็นก็ฉีดพ่นสารสะเดาป้องกันกำจัด เป็นวิธีที่ทำให้ลดต้นทุนการผลิตและไม่มีสารเคมีตกค้างอยู่ในดอกมะลิ ทำให้ผู้ปลูกและผู้บริโภคได้ใช้ประโยชน์จากดอกมะลิมีคุณภาพปลอดภัย
การเก็บเกี่ยว เมื่อปฏิบัติดูแลบำรุงรักษาได้ดี ต้นมะลิก็เจริญเติบโตสมบูรณ์ หลังจากปลูกในราว 6 เดือนขึ้นไป ก็เริ่มเก็บเกี่ยว วิธีการเก็บได้เก็บเวลาเช้า แดดไม่ร้อน ดอกไม่ช้ำ ด้วยการใช้นิ้วมือเด็ดดอกตูมโตเต็มที่ สีขาวนวลที่ตรงบริเวณก้านดอกใต้กลีบเลี้ยงให้ขาดออกมาวางใส่ในถุงผ้าย่าม นำไปรวบรวมใส่ถุงพลาสติกสะอาด ถ้าเก็บในกล่องโฟมที่มีน้ำแข็งเกล็ดรองพื้นและโรยปิดทับจะช่วยให้ดอกมะลิมีความสดได้นานก่อนนำส่งขาย
มะลิ 100 ต้น ได้ผลผลิตเฉลี่ย ดังนี้ การเก็บดอกครั้งแรก จะได้ดอกมะลิราว 5 ลิตร เมื่อเก็บครั้งที่ 2 จะได้ราว 10 ลิตร เก็บในครั้งที่ 3 จะได้ผลผลิต 20 ลิตร จากนั้นจะทำการพักต้นด้วยการตัดแต่งและบำรุงให้ต้นมะลิแตกกิ่งใหม่และได้ทรงพุ่มโปร่ง เมื่อต้นเจริญเติบโตสมบูรณ์จะเก็บดอกมะลิได้ในราว 20 ลิตร
ตลาด ดอกมะลิที่รวบรวมไว้ได้นำไปขายที่ตลาดใกล้บ้าน ราคาขายส่ง ดอกมะลิในฤดูแล้งขาย 40-60 บาท ต่อลิตร ดอกมะลิในฤดูฝนขาย 150-250 บาท ต่อลิตร และดอกมะลิในฤดูหนาวขาย 500-2,000 บาท ต่อลิตร ราคาซื้อขายนี้ขึ้นอยู่กับตลาดและฤดูกาล การปรับเปลี่ยนพื้นที่มาปลูกมะลิพืชเศรษฐกิจสำคัญทำให้มีรายได้เงินแสนบาท ครอบครัวดำรงชีพได้แบบพอเพียงมั่นคง และมีพวงมาลัยดอกมะลิไปกราบแม่ ในวันแม่แห่งชาติด้วย
จากเรื่อง มะลิ…ดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ พืชเศรษฐกิจสร้างรายได้ของชาวสวน ทำให้ผู้ปลูกมะลิมีรายได้มั่นคง ประชาชนมีดอกมะลิสีขาวนวล กลิ่นหอม ไปกราบแม่เพื่อการเชิดชูและเคารพต่อผู้มีพระคุณ ก็จะได้รับพรที่เป็นมงคลชีวิต สอบถามเพิ่มได้ที่ คุณลุงศักดิ์ชาย กล่อมเสนาะ 72/1 หมู่ที่ 4 ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โทร. (096) 260-5463 หรือที่ คุณตราพฤกษ์ ธัญญเกษตร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอธัญบุรี โทร. (02) 577-1986 ก็ได้นะครับ