จากลูกจ้าง สู่เถ้าแก่แผงผักเงินแสน ผุดบริการโดนใจลูกค้า “กะหล่ำปลีเคลมได้” 

จากลูกจ้าง สู่เถ้าแก่แผงผักเงินแสน ผุดบริการโดนใจลูกค้า “กะหล่ำปลีเคลมได้” 

จากอาชีพเด็กโยนผักท้ายรถ สู่การนำเงินเก็บก้อนแรกในชีวิตหลักหมื่นบาท เปิดร้านขายผักของตัวเอง ถึงปัจจุบันค้าขายในตลาดสี่มุมเมืองมาแล้ว 15 ปี และยังมีบริการโดนใจลูกค้า “ผักกะหล่ำเคลมได้”

จากลูกจ้าง สู่เถ้าแก่แผงผักเงินแสน ผุดบริการโดนใจลูกค้า "กะหล่ำปลีเคลมได้" 
จากลูกจ้าง สู่เถ้าแก่แผงผักเงินแสน ผุดบริการโดนใจลูกค้า “กะหล่ำปลีเคลมได้”

จุดเริ่มต้นร้านผัก

คุณอาทิตย์ แสนสงคราม อายุ 42 ปี เจ้าของแผงผัก เล่าให้ฟัง เริ่มต้นเป็นเด็กโยนผักท้ายรถ ขนกะหล่ำปลี จากจังหวัดเชียงราย ให้เถ้าแก่นำมาขายที่ตลาดสี่มุมเมือง อาศัยเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์พอสมควร จึงตัดสินใจนำเงินทุนก้อนแรกในชีวิต 30,000 บาท เก็บจากน้ำพักน้ำแรงมาเปิดร้านขายผัก แต่ช่วงแรกขายไม่ได้เลย

“ผมยังไม่รู้จักจังหวะราคาผักขึ้นลงแต่ละวัน เช่น วันไหนผักลงมาเยอะ ราคาจะลง วันไหนผักน้อย ราคาจะขึ้น ลูกค้าประจำก็ไม่มี เพราะเป็นเจ้าใหม่ ต้องอาศัยความอดทนและความพยายามผ่านไปให้ได้”

จากลูกจ้าง สู่เถ้าแก่แผงผักเงินแสน ผุดบริการโดนใจลูกค้า "กะหล่ำปลีเคลมได้" 
จากลูกจ้าง สู่เถ้าแก่แผงผักเงินแสน ผุดบริการโดนใจลูกค้า “กะหล่ำปลีเคลมได้”

ก่อนเล่าต่อ เมื่อก่อนยังเป็นลานผัก ต้องยอมเปียกยืนกางร่มให้ผักไม่เน่าเสีย จนในที่สุดโอกาสก็มาถึง เมื่อตลาดสี่มุมเมืองทำตลาดผักยุคใหม่ จึงไปลงชื่อเพราะอยากมีร้านเป็นของตัวเอง แล้วก็โชคดีจับฉลากได้ร้านหัวมุมพอดี

ถึงแม้ไม่ได้เรียนจบสูง แต่ไม่ใช่อุปสรรค เพราะคุณอาทิตย์ ใช้หัวใจทำงาน

“ลูกค้าร้านผมต้องได้ของดี ได้บริการที่ดี ต่อให้แวะดูสินค้าแล้วยังไม่ซื้อ ก็ไม่เป็นไร เราต้องมีมิตรไมตรีให้เขาก่อน เช่น แนะนำของที่ลูกค้าหาไม่เจอ ช่วยถือของไปส่งที่รถ หรือถ้าสินค้าที่ร้านไม่มี ก็แนะนำร้านอื่นให้ เพราะถือว่าเป็นเพื่อนร่วมตลาด เป็นครอบครัวเดียวกัน ถึงวันนี้เขายังไม่ใช่ลูกค้าเรา วันหน้าอาจจะเป็นลูกค้าเราก็ได้ น้ำใจไม่ต้องรอว่าใครจะให้ เราให้เขาก่อนเลย ลูกค้ารายเล็กรายใหญ่ทางร้านบริการแบบเดียวกันหมด” คุณอาทิตย์ บอกย้ำ

จากลูกจ้าง สู่เถ้าแก่แผงผักเงินแสน ผุดบริการโดนใจลูกค้า "กะหล่ำปลีเคลมได้" 
จากลูกจ้าง สู่เถ้าแก่แผงผักเงินแสน ผุดบริการโดนใจลูกค้า “กะหล่ำปลีเคลมได้”

บริการโดนใจ “เคลมผัก”

เจ้าของร้านผัก เล่าต่อ จำหน่ายผัก 2 อย่าง คือ กะหล่ำปลี และผักกาดขาว ขายดีมากทั้งคู่ และมีผลผลิตเข้ามาเยอะที่สุดในตลาดสี่มุมเมือง นำมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์, อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก, จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา และซื้อจากเกษตรกรอาคารรถผัก

ลักษณะของกะหล่ำปลีเวลามาจากไร่ ชาวสวนจะไม่ได้ตัดแต่ง ขุดขึ้นมาเป็นหัวแล้วบรรจุแพ็ก แพ็กละ 10 กิโลกรัม ดังนั้น จะไม่รู้เลยว่าสินค้าด้านในเป็นอย่างไร พวกศัตรูพืชอย่างหนอนใยผัก หนอนกระทู้ผัก ด้วงหมัดผัก หนอนเจาะยอดกะหล่ำ พวกนี้จะกินอยู่ด้านในใจกะหล่ำ ดูภายนอกไม่ได้ กว่าจะรู้ว่าหนอนเจาะ คือลูกค้าซื้อไปบริโภคแล้วเจอ

จากลูกจ้าง สู่เถ้าแก่แผงผักเงินแสน ผุดบริการโดนใจลูกค้า "กะหล่ำปลีเคลมได้" 
จากลูกจ้าง สู่เถ้าแก่แผงผักเงินแสน ผุดบริการโดนใจลูกค้า “กะหล่ำปลีเคลมได้”

ส่วนโรคเน่าคอดิน และโรคเน่าดำ จะเห็นตอนตัดแต่งผัก ถ้าเจอจะแยกออกไม่ขายให้กับลูกค้า ทางร้านเลยมาคิดว่าในเมื่อบางอย่างคุมไม่ได้ ก็ขอรับผิดชอบเอง จึงเป็นที่มาของกะหล่ำเคลมได้ จะซื้อกี่บาทก็เคลมได้ แค่ขอให้ลูกค้าแจ้งมา

“วิธีการเคลมง่ายมากครับ แค่ถ่ายรูปส่งไลน์ มาซื้อรอบต่อไป ผมชดเชยให้ แถมให้ หรือลดราคาให้ ผมไม่ทิ้งลูกค้าเด็ดขาด ส่วนผักกาดขาวไม่ค่อยมีปัญหา เพราะถ้าหัวไหนไม่ดีเราคัดทิ้งทันที”

จากลูกจ้าง สู่เถ้าแก่แผงผักเงินแสน ผุดบริการโดนใจลูกค้า "กะหล่ำปลีเคลมได้" 
จากลูกจ้าง สู่เถ้าแก่แผงผักเงินแสน ผุดบริการโดนใจลูกค้า “กะหล่ำปลีเคลมได้”

ปัจจุบัน คุณอาทิตย์ขายส่งผักให้กับห้าง Golden Place, Big C มีซัพพลายเออร์มาซื้อที่ร้าน เช่น ร้านอาหาร ร้านหมูกระทะ และขายหน้าร้าน โดยระบุสเปกที่ต้องการว่าอยากได้แบบไหน สำหรับรายได้ประมาณ 300,000 บาทต่อเดือน (ยังไม่หักค่าใช้จ่าย)

“ผมคงไม่ได้เน้นการแปรรูปหรือนำสินค้าใหม่ๆ มาขาย แต่เน้นเรื่องให้บริการ หาแหล่งสินค้าที่กว้างขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และเพิ่มช่องทางการขายด้วยการร่วมมือกับตลาดสี่มุมเมืองออนไลน์” คุณอาทิตย์ ทิ้งท้าย

พิกัดร้าน ตลาดผักทั่วไป ตลาดสี่มุมเมือง โทร. 094-830-0036

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ.2565