ปลูกมะเขือเทศเชอร์รี่ 2 งาน พืชเมืองหนาว กินแล้วผิวดี คนรุ่นใหม่นิยม

เกษตรกรหนุ่มมาดเข้มวัย 31 ปี อยู่ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี อดีตเคยเป็นพนักงานเช็กสต๊อกคลังสินค้า บริษัทเอกชน ผันตัวเป็นเกษตรกรปลูกมะเขือเทศเชอร์รี่ พืชเมืองหนาว จุดเด่น ผลเล็ก เนื้อแน่น รสชาติหวานกรอบ เม็ดน้อย ทานแล้วผิวดี วิตามินซีสูง คนรุ่นใหม่นิยมทานผลสด ปลูกบนพื้นที่ 600 ตารางเมตร ขายไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง รายได้ปีละ 360,000 บาท

89234

คุณปิยะ กิจประสงค์ เกษตรกรหนุ่ม เล่าว่า หลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ภาควิชากีฏวิทยา ทำงานประจำอยู่คลังสินค้า บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งราว 6 ปี กระทั่งเริ่มรู้สึกอยากทำกิจการส่วนตัว จึงลาออกพร้อมกับนำเงินเก็บสะสมมาสร้างโรงเรือนกางมุ้งปลูกมะเขือเทศเชอร์รี่ หรือ มะเชือเทศราชินี 3 โรงเรือน พื้นที่ทั้งสิ้นราว 600 ตารางเมตร ผสมปุ๋ยสูตรตัวเอง เก็บมะเขือเทศเชอร์รี่ผลสดขายสัปดาห์ละ 100 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 100-150 บาท

สำหรับมะเขือเทศเชอร์รี่ เป็นไม้เมืองหนาว มีหลายสายพันธุ์ แยกตามลักษณะของผลและสี เช่น สีเหลือง แดง  ชมพู ม่วง น้ำตาล คนทั่วไปนิยมทานผลสด ซึ่งการปลูกมะเขือเทศเชอร์รี่ของไทย เริ่มจากภาคเหนือ เพราะมีอากาศเย็น  ส่วนภาคกลางที่พบขณะนี้ มีที่จังหวัดนครปฐม และสุพรรณบุรี

89227

ถามว่าทำไมคุณปิยะ เลือกปลูกมะเขือเทศเชอร์รี่ เจ้าตัว บอกว่า ที่บ้านมีพื้นที่ว่างเพียง 2 งาน หรือ 600 ตารางเมตร ฉะนั้นจึงเลือกปลูกพืชอายุสั้น เพราะจะได้ทำเงินเร็ว แต่ทว่าไม่อยากปลูกแตงกวา บวบ ถั่วฝักยาว เพราะในตลาดมีขายเยอะแล้ว อีกอย่างกลัวขายไม่ได้ราคา จึงเลือกปลูกผักที่คนรุ่นใหม่นิยมรับประทาน อย่างเช่น มะเขือเทศเชอร์รี่

การปลูกมะเขือเทศเชอร์รี่ของคุณปิยะ เขาลงทุนสร้างโรงเรือน ต้นทุนโรงเรือนละ 1 แสนบาท วัตถุประสงค์ที่ต้องสร้างโรงเรือน เกษตรกร บอกว่า จะได้ควบคุมโรคและป้องกันแมลงศัตรูพืช โดยไม่ต้องใช้สารเคมี ใช้งานได้หลายสิบปี

สายพันธุ์ที่คุณปิยะเลือกปลูก คือ  มะเขือเทศเชอร์รี่ สีแดง และ สีเหลือง นำเมล็ดมาเพาะในกระบะก่อน 3 สัปดาห์ หลังจากนั้นย้ายต้นเข้าโรงเรือน ปลูกต่อไปอีกราว 2 เดือนก็สามารถเก็บผลผลิตได้

“ที่ไร่ปลูก 2 สายพันธุ์ คือ สีแดง และ สีเหลือง ราคาสีเหลืองจะแพงกว่า กิโลกรัมละ 150 บาท สีเเดง กิโลกรัมละ 100 บาท สีเหลืองลูกจะกลม ส่วนสีแดงลูกจะเรียวและเล็ก โดยมะเขือเทศเชอร์รี่ประมาณ 80 ผล น้ำหนัก 1 กิโลกรัม”

89228

“โรงเรือน 1 หลัง พื้นที่ราว 200 ตารางเมตร ปลูกต้นมะเขือเทศได้ราว 450 ต้น ผมปลูกสลับกัน 3 โรงเรือน ทำให้มีผลผลิตออกตลอด เก็บขายทั้งปี สัปดาห์ละ 100 กิโลกรัม จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 100-150 บาท”

รสชาติของมะเขือเทศที่ได้มาจะดีแค่ไหน เกษตรกรหนุ่ม บอกว่า อยู่ที่การให้ปุ๋ย ต้องผสมปุ๋ยเอง เพื่อจะได้ปุ๋ยตรงตามความต้องการของพืช ช่วงย้ายกล้าลงกระถางจะใช้ปุ๋ยสูตร 25-7-7 ช่วงติดลูกใช้สูตร 15-15-15 และช่วงผลมะเขือเทศเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดงจะใช้ปุ๋ยสูตร 8-24-24 ส่วนผสมสูตรปุ๋ยที่ว่ามานี้ จะให้ผ่านทางท่อระบบน้ำหยด

89277

“มะเขือเทศเชอร์รี่เป็นไม้เมืองหนาว ไม่ชอบอากาศร้อน ฉะนั้นผลผลิตจะหายไปเกือบครึ่งช่วงหน้าร้อน เลยต้องหาวิธีเพิ่มผลผลิต ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลอง ร่วมกับทางกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการหาวิธีช่วยเพิ่มผลผลิตมะเขือเทศในช่วงฤดูร้อน”