ผู้เขียน | ดวงกมล โลหศรีสกุล |
---|---|
เผยแพร่ |
ผุดขึ้นมาเป็นโมเดลธุรกิจได้อย่างน่าสนใจ สำหรับ “ฟาร์มฝัน” อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ฟาร์มเกษตร์อินทรีย์ พื้นที่ 50 ไร่สถานที่ที่เปิดโอกาสให้คนที่ฝันอยากเป็นเกษตรกรได้มาลองปลูกต้นไม้ ทำไร่ ทำสวน และหากมีผลผลิตก็สามารถนำไปขายได้ เจ้าของไอเดียดังกล่าว คือ คุณสรธรรม เกตตะพันธุ์ หรือคุณสร ชายหนุ่มในวัย 37 ปี อดีตพนักงานและเจ้าของบริษัทไอที ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ให้แก่องค์กรประกันภัยและค้าปลีก
ให้คนเมืองมาเช่าที่ ทำเกษตรอินทรีย์
4 รูปแบบเลือกจ่าย ตามต้องการ
สำหรับประวัติคุณสร พื้นเพเป็นคนจังหวัดสงขลา จบการศึกษาจากวิทยาการคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ทำงานประจำด้านคอมพิวเตอร์ จนกระทั่งปี 2554 ชวนเพื่อนๆ ในแวดวงไอที เปิดบริษัทเป็นของตัวเอง โดยพัฒนาซอฟต์แวร์ให้แก่องค์กรประกันภัยและค้าปลีก ผลประกอบการปี 2558 ที่ผ่านมานับสิบล้านบาท
ชายหนุ่ม บอกว่า แม้จะทำงานด้านไอทีมาตลอด แต่ลึกๆ แล้ว มีความฝันอยากจะใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติ เพราะมองว่าเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่ฉาบฉวย ฉะนั้นเลยไปลองเรียนรู้วิชาการทำเกษตรสมัยใหม่จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลักสูตรปริญญาโท สาขาการจัดการเกษตรอินทรีย์ ปรึกษาเพื่อนที่เป็นเกษตรกร ไปเดินตามงานอีเว้นต์เกี่ยวกับสินค้าออร์แกนิค ศึกษาภูมิปัญญาชาวบ้าน เพื่อนำมาประกอบกันพัฒนาเป็นองค์ความรู้การทำเกษตรอินทรีย์แนวใหม่เฉพาะตัว
“ผมกับภรรยาทำงานในแวดวงไอที ทว่าสนใจเรื่องเกษตรมานานแล้ว แต่ไม่เคยศึกษาอย่างจริงจัง จนเมื่อปี 58 เริ่มศึกษาอย่างจริงจัง อยากทำเกษตรผสมผสาน หนที่สุดนำที่ดินของภรรยาที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสี 50 ไร่ มาปรับเป็นพื้นที่ทำเกษตรอินทรีย์ พยายามปรับสภาพพื้นที่ด้วยการปลูกปอเทือง ไม่ใช้ยาฆ่าหญ้า บำรุงดินด้วยขี้วัว ฉีดจุลินทรีย์ลงดินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน เริ่มเห็นไส้เดือนในพื้นดิน จากที่ไม่เคยมีมาก่อน”
ที่ดินของภรรยาคุณสร มีทั้งหมด 300 ไร่ ปลูกมะม่วง อ้อย ข้าวโพด กระทั่งปี 58 คุณสร เริ่มตระหนักถึงความยั่งยืน เพราะลำพังรายได้จากผลผลิตทางการเกษตรคงจะเสี่ยง เขาเริ่มคิดช่องทางสร้างรายได้ จนเกิดไอเดียเป็นโมเดลธุรกิจฟาร์มแชร์ริ่ง หรือพื้นที่ให้เช่าสำหรับคนอยากทำฟาร์ม และจัดกิจกรรมเรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงเกษตรขึ้นมา
“ผมมีความฝันอยากทำเกษตร ซึ่งคนเมืองที่อาศัยในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ก็คิดคล้ายๆ ผม คือ อยากปลูกต้นไม้ อยากลองปลูกพืชผักผลไม้ แต่ติดปัญหา คือ ไม่มีพื้นที่ ไม่มีความรู้ ไม่มีเวลา ฟาร์มฝันเลยคิดโมเดลนี้ขึ้นมาเพื่อให้สามารถเป็นเจ้าของฟาร์มได้ทันที มาเรียนรู้วิธีทำเกษตรอินทรีย์ทุกขั้นตอนเป็นการเติมความฝันให้ได้เป็นเกษตรกรจริงๆ หรือบางคนที่วางอนาคตจะไปทำเกษตรกรเต็มตัว ก็ใช้โปรแกรมนี้เป็นการเรียนรู้และฝึกฝนให้พร้อมเสียก่อน”
“ฟาร์มฝัน” นับเป็นการเติมเต็มความฝันให้คนที่อยากเป็นเกษตรกร หรือบางคนที่คิดว่าปั้นปลายชีวิตจะเป็นเกษตรกรเต็มตัว คุณสร อธิบายว่า พื้นที่ 50 ไร่ แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก คือ พื้นที่สำหรับปลูกพืช ทั้งพืชทำเงินระยะสั้น และระยะยาว เช่น มะละกอ ฟักทอง ผักสวนครัว ผักสลัด ส่วนที่สอง พื้นที่ให้เช่าสำหรับคนอยากทำฟาร์มโดยรายได้มาจากค่าบริการและค่าเช่า ส่วนที่สาม พื้นที่จัดกิจกรรมเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีที่พัก
นำเทคโนโลยีมาต่อยอด
ดูการเติบโตของพืชที่ปลูกได้ 24 ชั่วโมง
คุณสร เพิ่มเติมว่า รายได้ส่วนแรกมาจากการขายผลผลิต รายได้ส่วนที่สอง มาจากคนที่เช่าพื้นที่ โดยเริ่มตั้งแต่ 25 ตารางเมตร โดยผู้เช่าสามารถเลือกพืช ผักที่จะปลูกได้เอง หากมีผลผลิตก็สามารถนำไปขายเอง หรือจะฝากขาย ฝากให้ดูแลด้วยก็ได้ โดยจ่ายเป็นค่าเช่าพื้นที่ ค่าดูแล เริ่มต้น 991 บาท รายได้ส่วนที่สาม มาจากกิจกรรมเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
รูปแบบของคนที่ต้องการเช่าพื้นที่ มี 4 แบบ คือ
- Model Free Area ให้อิสระในการบริหารพื้นที่ด้วยตัวเอง ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 25 ตารางเมตร
- Model Startup 991 บาท / เดือน (ค่าพื้นที่ + ค่าดูแล) พื้นที่ 25 ตารางเมตร ราคานี้ ทางฟาร์มฝันจะเลือกชนิดผักให้ผู้เช่าทำการปลูก โดยจะใส่จุลินทรีย์ ใส่ปุ๋ยให้ 2 ครั้งต่อรอบ รดน้ำให้วันละ 2 ครั้ง ช่วยกำจัดแมลง กำจัดวัชพืช 3ครั้งต่อสัปดาห์ พรวนดินให้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ส่วนผลผลิตผู้เช่าเก็บเกี่ยวเอง
- Model Basic ค่าบริการพื้นที่ 991 บาท / เดือน และค่าดูแล 1,200 บาท / เดือน พื้นที่ 100 ตารางเมตร สิ่งที่ผู้เช่าจะได้รับ คือ ผู้เช่าสามารถเลือกปลูกผักได้ตามต้องการ โดยจะใส่จุลินทรีย์ ใส่ปุ๋ยให้ 2 ครั้งต่อรอบ รดน้ำให้วันละ 2 ครั้ง ช่วยกำจัดแมลง กำจัดวัชพืช 3 ครั้งต่อสัปดาห์ พรวนดินให้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ส่วนผลผลิตผู้เช่าจะเก็บเกี่ยวเองหรือจ้างให้เก็บก็ได้
- Model Special ค่าบริการเบื้องต้น 2,900 บาท/เดือน (ค่าพื้นที่ + ค่าดูแล) ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และข้อตกลง
“ฟาร์มฝัน” เปิดให้บริการมาเพียง 1 ปี เจ้าของธุรกิจ บอกว่า มีผู้มาใช้บริการเช่าที่ปลูกผักแล้วกว่า 20 คน ลูกค้ากลุ่ม Model Startup และ Model Basicค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่เป็นคนกรุงเทพฯ อายุ 40 ปีขึ้นไป มาดูว่าถ้าต้องไปเป็นเกษตรกรจริงๆ จะทำได้ไหม ชอบปลูกผักจริงหรือเปล่า ใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อทดสอบความพร้อม หากคิดจะมาเช่าที่ปลูกผักเพื่อนำไปขายนั้นไม่คุ้มค่าแน่นอน
ในส่วนของกิจกรรมเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงเกษตร เจ้าของฟาร์ม บอกว่า มีทั้งลูกค้าองค์กร และทัวร์ต่างชาติเข้าชมพื้นที่ เข้ามาเรียนรู้การทำเกษตร ลงมือทำเกษตรูอินทรีย์ เรียนรู้พืชออร์แกนิค เมล็ดพันธ์ ต้นกล้า ตามโปรแกรมที่สนใจ ลงมือทำจริง เตรียม ปลูก ราคาเริ่มต้น โปรแกรม 3 วัน 2 คืน 4,900 บาท
ในอนาคต หนุ่มไอทีคนนี้ เตรียมพัฒนาระบบให้ผู้เช่าติดตามความเคลื่อนไหวฟาร์มของตัวเองได้ง่ายๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นได้ 24 ชั่วโมง ผ่านกล้องวงจรปิด และขณะนี้อยู่ในระหว่างพัฒนาระบบ และขายLicense (การอนุญาตให้ใช้สิทธิ) เพื่อให้นักธุรกิจหรือเจ้าของที่ดินที่สนใจ สามารถนำโมเดลนี้ไปสร้างโอกาสให้กับตัวเองได้