ไฮโซ ทายาทปุ้มปุ้ย อยากมีธุรกิจของตัวเอง หันปลูกผัก-ผลไม้ ส่งโมเดิร์นเทรด

เป็นอีกหนึ่งเซเลบที่หันมาเอาดีด้านการทำเกษตร สำหรับ “ไกรภูมิ โตทับเที่ยง” หนึ่งในทายาทตระกูลดังเมืองตรัง เจ้าของธุรกิจอาหารกระป๋อง “ปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม” ด้วยการก่อสร้างโรงเรือนปลูกผักไร้ดินปลอดสารพิษบนเนื้อที่ 6 ไร่ มีทั้งขายปลีก – ขายส่ง หวังตอบสนองกลุ่มผู้คนรักสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แถมยังปลูกเมลอนญี่ปุ่น ผุดไอเดียบรรเจิดจับผลมาแกะสลักลวดลายเพิ่มมูลค่า ใช้วิธีขายแบบประมูลในเฟสบุ๊ก ทำเอาเมลอนธรรมด๊า ธรรมดา กลายเป็นผลไม้ที่มีค่าตัวสูงลิบเลยทีเดียว

ทายาทดังหันมาทำเกษตร
เริ่มจากผักสวนครัว สู่ผักไฮโดรฯ

คุณไกรภูมิ บอกว่า หันหลังให้ธุรกิจครอบครัว เบนเข็มตัวเองมาเป็นเกษตรกร เมื่อปี 2553 ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ประกอบกับสนใจการทำเกษตร เลยลงทุน 50,000 บาท เพื่อลองผิดลองถูกปลูกผักสวนครัวทานเองบนเนื้อที่ กว้าง 2 เมตร ยาว 7 เมตร อาทิ ผักคะน้า กวางตุ้ง ผักกาดขาว ใช้ชื่อสวนผักแห่งนี้ว่า “สวนผักสวัสดี” เมื่อเริ่มมีผลผลิตนำไปแจกจ่ายเพื่อนบ้าน และเริ่มจำหน่าย

เมื่อกระแสการตอบรับดี ทายาทธุรกิจดัง ขยายพื้นที่ปลูกเป็น 6 ไร่ ตั้งอยู่เลขที่ 5 ถนนเพชรเกษม ตำบลนาท่ามเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง พร้อมกับหันมาปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ปลูกในโรงเรือนมุ้งตาข่าย ควบคุมอุณหภูมิ โดยรากผักจะแช่อยู่ในสารละลายธาตุอาหารโดยตรง ดูดซึมสารอาหารโดยการไหลเวียนของน้ำ มีการปั๊มอากาศเพื่อให้ออกซิเจนเข้ารากผัก ช่วยให้ผักดูดซึมอาหารได้ดียิ่งขึ้น การปลูกผักในระบบนี้ จะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของสารพิษตกค้าง เพราะเป็นการปลูกในรูปแบบไร้ดิน เป็นการให้รากผักแช่อยู่ในน้ำ

สำหรับธาตุอาหารที่ผักชนิดนี้ต้องการนั้นมี 16 ชนิด คือ คาร์บอน ออกซิเจน ไฮโดรเจน ไนโตรเจน แคลเซียม แมกนีเซียมฟอสฟอรัส โปตัสเซียม กำมะถัน เหล็ก ทองแดง แมงกานีส โมลิบดินัม สังกะสี คลอรีน และโบรอน รวมทั้งธาตุอาหารอื่นๆ เช่น อะลูเนียม แกลเลียม ซิลิกอน ไอโดดีน ซีลีเนียม และโซเดียม แต่จากการวิเคราะห์ พบว่า ธาตุอาหารที่ผักต้องการมากที่สุดก็คือ คาร์บอน และออกซิเจน รวมกันประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ของธาตุอาหารทั้งหมด

ด้านข้อดีของการปลูกผักไร้ดินในโรงเรือนมุ้งตาข่าย มีระบบไหลเวียนน้ำ นอกจากผลผลิตสะอาด ปลอดภัยจากสารพิษ เนื่องจากปลูกในโรงเรือนที่มีมุ้งตาข่ายปิดมิดชิด ไม่ใช้สารเคมี ยังลดความเสี่ยงจากสภาพดินฟ้าอากาศได้ แต่ทว่าข้อจำกัด คือ ลงทุนการก่อสร้างโรงเรือนและอุปกรณ์ต่างๆ ครั้งแรกค่อนข้างสูง ปุ๋ยและสารละลายธาตุอาหาร ราคาสูงเช่นกัน

สำหรับพื้นที่ปลูก คุณไกรภูมิ บอกว่า ผักไฮโดรโปนิกส์ปลูก 1 ไร่ ต่อ 1 โรงเรือน ปัจจุบันมี 4 โรงเรือน ผลผลิตผักไฮโดรโปนิกส์ราว 120 – 150 ตัน/ปี ช่องทางจำหน่าย ขายส่งให้ตลาดสดในท้องที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต แม็คโคร รวมถึงส่งจังหวัดใกล้เคียง มีสงขลา สุราษฎร์ธานี กระบี่ เป็นต้น

 

แกะสลักเมล่อน

ขายได้ลูกละ 8,000 บาท

หลังปลูกผักสวนครัว และผักไฮโดรโปนิกส์จนเริ่มอยู่ตัว คุณไกรภูมิ บอกว่า ราวเดือน พฤษภาคม 2558 หันมาทดลองปลูกเมลอน หรือราชินีแห่งพืชตระกูลแตง โดยเลือกใช้เมล็ดนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากขึ้นชื่อ มีกลิ่นหอม รสชาติอร่อย หวาน กรอบ ใช้พื้นที่ปลูกหน้ากว้าง 6 เมตร ยาว 25 เมตร ปลูกครั้งหนึ่ง 400 – 500 ต้น ระยะเวลา 80 – 90 วัน เมล่อนจะให้ผลผลิต การสูญเสียต่อครั้งราว 20 เปอร์เซ็นต์

เมลอนของคุณไกรภูมิ หากขายตามท้องตลาดทั่วไป ราคาก็คงจะไม่แตกต่าง ชายหนุ่ม เลยเพิ่มจุดขายโดยการนำมาแกะสลักให้คล้ายกับ “ผลโกมุ โกมุ” ผลไม้หายากในการ์ตูนเรื่อง “วันพีช” รวมถึงแกะสลักชื่อ คำอวยพรต่างๆ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลไม้ชนิดนี้ หลายเท่าตัวเลยทีเดียว

“ผมใช้เหล็กแหลมแกะสลักผลเมลอนเป็นลวดลายต่างๆ ตอนเมลอนมีอายุ 10 วัน หากเกิน 10 วัน ลายที่ออกมาจะไม่สวย ไม่ธรรมชาติ พอเมล่อนโตเต็มที่จะมีลวดลายบนผิวตามที่แกะสลักไว้ ส่วนการจำหน่ายใช้วิธีเปิดให้แฟนคลับการ์ตูนเรื่องวันพีช ประมูลผ่านเฟสบุ๊ก ซึ่งเมล่อน 2 ลูกแรกที่แกะสลัก ถูกประมูลไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ในราคาลูกละ 8,000 และ 7,000 บาท รวม 1.5 หมื่นบาท”

สำหรับราคาปกติของเมลอน คุณไกรภูมิ บอกว่า เดิมราคาลูกละ 175-250 บาท แต่หลังจากใช้วิธีเพิ่มมูลค่าด้วยวิธีแกะสลัก เพิ่มได้ลูกละ 7,000  – 8,000 บาท เลยทีเดียว

ด้านลวดลายที่แกะสลัก นอกจากคล้ายกับ “ผลโกมุ โกมุ” ผลไม้หายากในการ์ตูนเรื่อง “วันพีช” ยังเปิดให้ลูกค้าสั่งจองแกะสลักเป็นชื่อบุคคล คำอวยพร รูปหัวใจ เพื่อนำไปมอบให้เป็นของขวัญแก่คนพิเศษ โดยเปิดให้สั่งจอง ในขณะที่เมล่อนอายุ 10 วัน   ราคาลูกละ 250 บาท

ถามถึงวัตถุประสงค์ของลูกค้าที่ประมูลผลเมล่อนไป คุณไกรภูมิ เผยว่า คนที่มาประมูล 2 คน แรกเป็นแฟนพันธุ์แท้การ์ตูนวันพีช ที่อยากได้ไปครอบครอง ส่วนลูกค้าที่สั่งแกะสลักเป็นชื่อบุคคล คำอวยพร 100 เปอร์เซ็นต์นำไปมอบให้เป็นของขวัญแก่คนพิเศษช่วงเทศกาล

นับเป็นการผสมผสานที่เข้ากันดี ระหว่างศิลปะการแกะสลักกับผลไม้ ช่วยสร้างมูลค่าทั้งราคา และมีชื่อเสียงโด่งดัง ไอเดียสุดเฟี้ยวของคนรุ่นใหม่ สำหรับสวนผักสวัสดี ตั้งอยู่เลขที่ 5 ถนนเพชรเกษม ตำบลนาท่ามเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง  เบอร์โทรศัพท์ (084) 439 – 3333