จากบ้านพักส่วนตัว ต่อยอด ฟาร์มท่องเที่ยววิถีไทยบ้าน ถูกจริตนักท่องเที่ยว

จากบ้านพักส่วนตัว ต่อยอด ฟาร์มท่องเที่ยววิถีไทยบ้าน ถูกจริตนักท่องเที่ยว
จากบ้านพักส่วนตัว ต่อยอด ฟาร์มท่องเที่ยววิถีไทยบ้าน ถูกจริตนักท่องเที่ยว

จากบ้านพักส่วนตัว ต่อยอดเป็นร์มท่องเที่ยววิถีไทยบ้าน ถูกจริตนักท่องเที่ยว ทัวร์ลงตรึม

ผมอยากให้ทุกคนที่มา มีความสุข คำพูดแสนเรียบง่าย แต่ความหมายยิ่งใหญ่จากหัวใจของ คุณธงชัย ปริเตนัง ผู้เนรมิตพื้นที่ว่างเปล่าชานเมืองเชียงใหม่ให้กลายเป็นฟร์มท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์ จินเจอร์ ฟาร์ม (Ginger Farm)

ฟาร์มที่เปิดประสบการณ์ให้ทุกคน โดยเฉพาะเด็กน้อย เข้ามาเล่นสนุกเรียนรู้ใกล้ชิดธรรมชาติวิถีลูกทุ่งแท้ๆ ช่วยเติมความสุข และเก็บเป็นความประทับใจตลอดไป  

คุณธงชัย ปริเตนัง เจ้าของ จินเจอร์ฟาร์ม

คุณธงชัย เล่าว่า พื้นฐานครอบครัวเคยประกอบอาชีพเกษตรกรรม เมื่อเติบโตมุ่งประกอบธุรกิจผลิตสินค้าหัตถกรรมแฮนด์เมด และของตกแต่งบ้านส่งออกต่างประเทศ รวมถึงทำธุรกิจร้านอาหาร

แต่ในส่วนลึกแล้ว ยังคงรักการทำเกษตรเสมอมา อยากจะใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ จึงนำที่ดินที่ซื้อไว้ใน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ปลูกบ้านพักส่วนตัวพร้อลงมือทำเกษตรอินทรีย์ครบวงจรด้วยตัวเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทำนาปลูกข้าว และฟาร์มเลี้ยงสัตว์

จากบ้านพักส่วนตัว กลายมาเป็นศูนย์การเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์ ด้วยเหตุบังเอิญ เมื่อลูกหลานที่มาเล่นทำกิจกรรมการเกษตรที่บ้านพัก เช่น ดำนา ขี่ควาย มักถ่ายภาพแล้วโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย

ปรากฏว่า มีผู้สนใจติดต่ออยากเข้ามาท่องเที่ยวลักษณะนี้บ้าง จุดประกายให้คุณธงชัย และคุณศิริลักษณ์ ผู้เป็นภรรยา พัฒนาที่ดิน เปิดเป็น จินเจอร์ฟาร์ม บนเนื้อที่ประมาณ 22 ไร่ ตั้งแต่ปี 2558

ภายในฟาร์ม แบ่งพื้นที่เป็นส่วนกิจกรรมเรียนรู้การทำเกษตรต่างๆ มีสะพานไม้ไผ่ให้เดินชมบรรยากาศทุ่งนา รวมถึง ร้านอาหาร และตลาดขายสินค้าเกษตรอินทรีย์ ทั้งหมดล้วนมาจากฝีมือออกแบบสร้างสรรค์ของคุณธงชัยทั้งสิ้น

เสน่ห์ของจินเจอร์ฟาร์ม คือ การให้ลูกค้า โดยเฉพาะเด็กๆ ยุคปัจจุบันที่ค่อนข้างห่างไกลจากธรรมชาติ ห่างไกลกลิ่นอายชนบท ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตลูกทุ่งไทยแท้ๆ โดยไม่ประดิดประดอยหรือปรุงแต่งให้ผิดเพี้ยนจากความเป็นจริง

มีกิจกรรมสนุกสนานหลากหลาย ใช้เวลาเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งวัน ไม่มีเบื่อ เช่น สไลเดอร์บ่อโคลน ดำนา เลี้ยงควาย เก็บไข่ไก่ สอนศิลปะปั้นตุ๊กตาดินเผา ปลูกผักอินทรีย์ ทำปุ๋ยหมัก ทำน้ำสมุนไพร ฯลฯ หลายกิจกรรมที่แม้จะโลดโผน แต่อยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยสูงสุด  

ส่วนร้านอาหาร นำวัตถุดิบเกษตรอินทรีย์ภายในฟาร์ม มาประกอบเป็นเมนูสุดว้าว ผสมผสานระหว่างอาหารไทยย้อนยุคเสิร์ฟในสไตล์โมเดิร์น ปรุงโดยเชฟระดับมิชลิน เช่น ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู คั่วเห็ดถอบยอดใบมะขามอ่อน ตำขนุนหมูกรอบตะไคร้ เป็นต้น  

ด้วยจุดเด่นดังกล่าว ทำให้ที่ผ่านมา ธุรกิจเติบโตอย่างสูง มีลูกค้าหลากหลายกลุ่มเข้ามาท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวพาลูกหลานมาเที่ยว คณะทัวร์จากลูกค้าต่างประเทศ และกลุ่มโรงเรียนนำนักเรียนมาทัศนศึกษา นอกจากนั้น ยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานลอยกระทง เป็นต้น  

จากกระแสนิยมดังกล่าว ต่อยอดสู่การขยายธุรกิจด้วยแนวคิด From Farm To City นำของดีจากฟาร์มสู่เมือง ด้วยการเปิดร้านอาหาร Ginger Farm Kitchen ในตัวเมืองเชียงใหม่ และกรุงเทพฯ เสิร์ฟเมนูอาหารจากวัตถุดิบเกษตรอินทรีย์ของฟาร์ม และท้องถิ่น ช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชน

โดยมีธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank สถาบันการเงินของรัฐเพื่อเอสเอ็มอีไทย เป็นแรงหนุนสนับสนุนเงินทุน

คุณธงชัย เผยด้วยว่า ที่ผ่านมา ธุรกิจดำเนินมาด้วยดีต่อเนื่อง และกำลังมีแผนจะขยายธุรกิจรูปแบบอื่นต่อไป กระทั่งเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาได้ ฉุดรายได้ลดลงอย่างมาก

แม้จะพยายามปรับตัว มุ่งทำตลาดขายอาหารดีลิเวอรี่ แต่ก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับผลกระทบรุนแรงที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม SME D Bank เข้ามาให้คำปรึกษาพร้อมพาเข้าสู่มาตรการพักชำระหนี้ ช่วยให้ยังสามารถประคับประคองธุรกิจได้ และอนาคตหากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ธุรกิจจะมีโอกาสกลับมายืนได้แข็งแกร่งอีกครั้ง