สวนกระหล่ำปลีริมโขงบูม ได้ลมเย็น 15 องศา โตเร็ว สีสด เก็บขายได้ไร่ละแสน

 

เรื่อง/รูป โดย  มติชนออนไลน์ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม  ในช่วงนี้สภาพอากาศยังคงหนาวเย็นต่อเนื่อง จากการตรวจวัดอุณหภูมิของสถานีอุตุนิยมวิทยานครพนม มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดที่ประมาณ 14 -15 องศาเซลเซียส ถึงแม้จะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ประสบปัญหาภัยหนาว ยิ่งชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ในพื้นที่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขง ได้รับผลกระทบหนัก  แต่กับส่งผลดีต่อชาวบ้านที่ยึดอาชีพเกษตรพอเพียงปลูกผักขายตามแนวริมแม่น้ำโขง  โดยเฉพาะสวนกะหล่ำปลีที่ปีนี้อากาศหนาวเย็น ทำให้กะหล่ำปลีโตเร็ว  ดูแลง่าย และมีราคาดี ขายได้ไร่ละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท  ทำให้ชาวบ้านหันมาปลูกมากขึ้น เพื่อส่งขายในช่วงเทศกาลปีใหม่ไปถึงตรุษจีน เช่นชาวบ้านในพื้นที่ บ้านบึงหล่ม ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม

201612080931502-20111216140823-768x512

ด้านนายวีระ ชัยสอน อายุ 53 ปี  เกษตรกรชาวบ้านบึงหล่ม ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม  เปิดเผยว่า ในปีนี้เกษตรกรริมแม่น้ำโขงที่ยึดอาชีพเกษตรพอเพียงปลูกผักขาย มีรายได้มากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศหนาวต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อพืชผักโตเร็ว  โดยเฉพาะสวนกะหล่ำปลีของเกษตรกร หลังอากาศหนาวทำให้โตเร็ว ใช้เวลาแค่ประมาณ 60 -70 วัน หรือประมาณแค่ 2 เดือน สามารถเก็บผลผลิตขายได้แล้ว  ยิ่งปีนี้พื้นที่อื่นปลูกยากทำให้ราคาแพง ตกกิโลกรัมละประมาณ 15 บาท  พื้นที่ 1 ไร่จะเก็บผลผิตได้ไม่ต่ำกว่า 1 ตัน  ขายได้ประมาณไร่ละ 1 แสนบาท  ถือเป็นโอกาสดีของเกษตรกรทำสวนกะหล่ำ  ซึ่งข้อดีของพื้นที่ริมโขงมีดินตะกอนน้ำโขง ทำให้พืชผักโตเร็ว ไม่ต้องใช้สารเคมี ปลอดสารพิษ ยิ่งช่วงนี้มีออเดอร์สั่งซื้อไม่อั้น ยาวไปถึงปีใหม่ ตรุษจีน เป็นโอกาสทองของเกษตรกร ใครขยันปลูกมาก สร้างรายได้ปีละหลายแสนบาทที่มา มติชนออนไลน์