ปลูกพริกขี้หนูหัวเรือ พันธุ์ใหม่ ผลใหญ่ ขายสดได้ ทำพริกแห้งดี

พริก จัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญอีกชนิดหนึ่ง และกลุ่มของพริกที่เกษตรกรไทยนิยมปลูกในเชิงพาณิชย์นั้นจะแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ คือ พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนูผลใหญ่ พริกขี้หนูผลเล็ก และ พริกหวาน เป็นต้น แหล่งปลูกพริกที่สำคัญของประเทศ ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ เชียงใหม่ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครปฐม และราชบุรี เป็นต้น

สำหรับสายพันธุ์พริกขี้หนูผลใหญ่ที่มีพื้นที่ปลูกมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ “พริกหัวเรือ” ซึ่งเป็นพริกขี้หนูที่มีขนาดผลใหญ่ ความยาวประมาณ 7-8 เซนติเมตร มีความเผ็ดปานกลาง กลิ่นหอม เมื่อผลแก่มีสีแดงสด ใช้รับประทานสดและแปรรูปเป็นพริกแห้งได้เป็นอย่างดี จังหวัดที่ปลูกพริกหัวเรือมากที่สุดคือ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ พริกหัวเรือเป็นที่นิยมอย่างมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีพื้นที่ปลูกพริกรวมกันมากกว่า 300,000 ไร่ แต่ปัจจุบันพบว่าการปลูกพริกหัวเรือของเกษตรกรได้ผลผลิตลดลง คุณภาพของผลผลิตด้อยลง เนื่องจากเกษตรกรเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้เองหรือซื้อจากเพื่อนบ้าน ไม่ได้มีการปรับปรุงพันธุ์หรือคัดเลือกพันธุ์ที่ถูกต้อง เหตุผลสำคัญที่ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษมีความจำเป็นจะต้องมีการพัฒนาพันธุ์พริกขี้หนูหัวเรือ เนื่องจากเป็นพริกประจำท้องถิ่นที่ชาวบ้านมักจะเรียกกันว่า “พริกหัวเรือ” และมีการปลูกกันมานานแล้ว

พริกหัวเรือพันธุ์ใหม่ พัฒนาให้ความยาวของพริกมีความยาวที่สม่ำเสมอกันและผลผลิตต่อไร่ที่สูงขึ้น
พริกหัวเรือพันธุ์ใหม่ พัฒนาให้ความยาวของพริกมีความยาวที่สม่ำเสมอกันและผลผลิตต่อไร่ที่สูงขึ้น

ดังนั้น ระหว่างปี พ.ศ. 2540-2541 ทางศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ กรมวิชาการเกษตร คัดเลือกพันธุ์พริกขี้หนูหัวเรือ เริ่มจากเก็บรวบรวมสายพันธุ์พริกขี้หนูหัวเรือจากหลายพื้นที่โดยคัดพันธุ์แบบสายพันธุ์บริสุทธิ์ เปรียบเทียบพันธุ์ในปี พ.ศ. 2542-2543 และได้ทดสอบพันธุ์ในท้องถิ่น จำนวน 5 แห่ง ในช่วงปี พ.ศ. 2544-2545 ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ, ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตบุรีรัมย์, สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 3 (ส่วนแยกพืชสวน จังหวัดขอนแก่น), ศูนย์วิจัยพืชสวนหนองคายและศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตนครพนม สุดท้าย ได้ทดสอบพันธุ์ในไร่ของเกษตรกร ระหว่างปี พ.ศ. 2546-2547 อีก 5 แห่ง ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ บุรีรัมย์ ขอนแก่น หนองคายและจังหวัดนครพนม เพื่อตรวจสอบความคงตัวและคุณลักษณะของพันธุ์ที่ได้ ผลจากการทดสอบได้สายพันธุ์ที่ดีที่สุด และได้ตั้งชื่อว่า “พริกขี้หนูหัวเรือสายพันธุ์ ศก.13” และ “พริกขี้หนูหัวเรือสายพันธุ์ ศก.25”

 ลักษณะเด่น ของ พริกขี้หนูหัวเรือพันธุ์ใหม่

คือ “พันธุ์หัวเรือ ศก.13” เปรียบเทียบกับพันธุ์พริกขี้หนูหัวเรือที่เกษตรกรใช้ปลูกกันอยู่ในปัจจุบันนี้พบว่า ให้ผลผลิตสูงกว่า 14% (เกษตรกรที่นำพริกขี้หนูหัวเรือพันธุ์ใหม่ไปปลูกในเชิงพาณิชย์ พบว่า เมื่อมีการบำรุงรักษาที่ดีจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เฉลี่ยไร่ละ 2,500-3,200 กิโลกรัม ต่อไร่) ผลสดมีสีแดงปนส้มเล็กน้อย ผลตรง ขนาดผลใหญ่ ผลยาว 7.8 เซนติเมตร ผลกว้าง 1.03 เซนติเมตร ขนาดของทรงพุ่มกะทัดรัด มีความสูงและเส้นผ่าศูนย์กลางของต้น ประมาณ 80-90 เซนติเมตรเท่านั้น มีอายุการเก็บเกี่ยวผลผลิต 90 วัน หลังย้ายปลูก ที่สำคัญเป็นพริกขี้หนูที่มีขนาดของผลสม่ำเสมอ มีความยาวของผลประมาณ 7-8 เซนติเมตร ใช้รับประทานสดและทำเป็นพริกแห้งได้ดีมาก

พริกหัวเรือสายพันธุ์ใหม่ ศก.13 ให้ผลผลิตต่อไร่สูงมาก
พริกหัวเรือสายพันธุ์ใหม่ ศก.13 ให้ผลผลิตต่อไร่สูงมาก

เมื่อนำไปปลูกในเชิงพาณิชย์มีการบำรุงรักษาเหมือนกับพริกขี้หนูหัวเรือที่เกษตรกรปลูกอยู่ทุกประการ และอีกสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจมากอีกเช่นกันคือ “พริกขี้หนูหัวเรือ ศก.25” เป็นพริกที่ให้ผลผลิตพริกสดและผลผลิตพริกแห้งสูงกว่าสายพันธุ์ที่เกษตรกรใช้อยู่ ผลสดมีสีแดงปนส้มเล็กน้อย ผลตรง ผลยาว 7.0 เซนติเมตร ผลกว้าง 0.95 เซนติเมตร ผลเล็กเรียวกว่าพันธุ์ ศก.13 เล็กน้อย ความสูงและเส้นผ่าศูนย์กลาง 80-90 เซนติเมตร การเก็บเกี่ยว ผลสุก 90 วันหลังปลูกเช่นกัน พริกขี้หนูพันธุ์นี้ปลูกได้ดีในดินแทบทุกชนิดที่มีความอุดมสมบูรณ์ แต่จะต้องมีแหล่งน้ำที่ดีตลอดทั้งปี

พริกหัวเรือ ศก.25 ปลูกที่สวนคุณลี จังหวัดพิจิตร ก็ติดผลดกมากเช่นเดียวกับพริกหัวเรือ  ศก.13
พริกหัวเรือ ศก.25 ปลูกที่สวนคุณลี จังหวัดพิจิตร ก็ติดผลดกมากเช่นเดียวกับพริกหัวเรือ
ศก.13

ในเรื่องของพันธุ์พริกขี้หนูผลใหญ่ที่มีภาคเอกชนส่งเสริมการปลูกกันอยู่ในขณะนี้ ในส่วนของพริกขี้หนูหัวเรือพันธุ์ใหม่ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษได้คัดเลือกพันธุ์ขึ้นมาใหม่นั้น เมื่อส่งเสริมให้เกษตรกรได้ปลูกแล้ว ผลผลิตที่ได้เมื่อเปรียบเทียบกับภาคเอกชนถือได้ว่าไม่แตกต่างกัน แต่พริกขี้หนูหัวเรือพันธุ์ใหม่จะได้เปรียบตรงที่เป็นพันธุ์ผสมเปิด เกษตรกรสามารถเก็บพันธุ์ไว้ขยายต่อได้ ในขณะที่พันธุ์ลูกผสมในภาคเอกชนจะต้องมีการซื้อเมล็ดพันธุ์ทุกครั้งที่มีการปลูก

 

ความสำคัญของพริกขี้หนูหัวเรือ

จากที่ได้กล่าวมาแล้วในข้างต้นว่า เกษตรกรที่ปลูกพริกขี้หนูหัวเรือทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะใช้เพื่อการบริโภคสดและแปรรูปเป็นพริกแห้ง เนื่องจากเมื่อผลสุกและแก่จะมีสีแดงสดสวยมาก และทุกวันนี้พริกขี้หนูหัวเรือเป็นพริกขี้หนูที่มีการส่งออกไปขายยังตลาดต่างประเทศเพื่อผลิตเป็นซอสพริก ตลาดต่างประเทศที่รับซื้อที่สำคัญคือ ฮ่องกง และสิงคโปร์

พริก ปลูกได้ดีตั้งแต่ระดับพื้นราบ ถึงพื้นที่ระดับความสูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล

ได้อธิบายถึงพื้นที่ของการปลูกพริกในบ้านเราว่า เป็นพืชที่ปลูกในเขตร้อนและเขตกึ่งร้อน ที่มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 600-1,500 มิลลิเมตร ต่อปี แต่ในระหว่างการเพาะปลูกถ้ามีฝนตกหนัก ต้นพริกและผลผลิตจะได้รับความเสียหาย สำหรับแหล่งปลูกที่มีสภาพอากาศร้อนและมีปริมาณน้ำฝนในแต่ละปีน้อยจะต้องมีแหล่งน้ำสำรองพอเพียง สภาพดินปลูกพริกควรมีค่าความเป็นกรด-ด่าง ของดิน ระหว่าง 6.0-6.8 (pH = 6.0-6.8) ในดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ แนะนำให้ปรับปรุงดินก่อนปลูก โดยใช้ปุ๋ยคอก อัตรา 1-2 ตัน ต่อไร่ รองพื้นที่ก่อนปลูก

หัวเรือ ศก.25 น้ำหนักเนื้อพริกดี ขายสดได้น้ำหนัก ทำพริกแห้งสีสวย เป็นอีกสายพันธุ์ที่น่าสนใจมาก
หัวเรือ ศก.25 น้ำหนักเนื้อพริกดี ขายสดได้น้ำหนัก ทำพริกแห้งสีสวย เป็นอีกสายพันธุ์ที่น่าสนใจมาก

พริกขี้หนูหัวเรือ ปลูกได้ตลอดทั้งปี

ความจริงแล้วการปลูกพริกขี้หนูหัวเรือจะปลูกได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ชลประทานหรือเขตพื้นที่ที่แหล่งน้ำพอเพียง ในฤดูหนาวจะเริ่มปลูกระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน และในฤดูร้อนจะปลูกในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ในบางพื้นที่จะปลูกในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน พริกขี้หนูหัวเรือจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ หลังจากปลูกลงดินไปแล้ว 3 เดือนครึ่ง ระยะเวลาของการเก็บเกี่ยวนานอย่างน้อย 2-3 เดือน และจะเก็บผลผลิตได้ราว 6-10 ครั้ง ต่อรุ่น หรือมากกว่านั้น ซึ่งก็ต้องขึ้นกับการดูแลรักษาของเกษตรกร

สำหรับเกษตรกรที่คิดจะปลูกพริกขี้หนูหัวเรือในเชิงพาณิชย์จะต้องมีการคาดการณ์ว่า ตลาดจะเป็นอย่างไร จะต้องดูทิศทางของตลาดด้วย ดูว่าพริกที่ปลูกในพื้นที่อื่นจะเก็บผลผลิตหมดในช่วงเวลาใด เราจะต้องให้ผลผลิตออกช่วงนั้น อย่าให้ผลผลิตออกมาตรงกัน อย่างกรณีของ พริกขี้หนูหัวเรือที่ปลูกในพื้นที่ จังหวัดเลย ผลผลิตจะออกสู่ท้องตลาดตั้งแต่เดือนมิถุนายน-เดือนพฤศจิกายน จากข้อมูลราคาผลผลิตพบว่า ราคาของพริกขี้หนูหัวเรือมักจะมีราคาแพงที่สุดในช่วงปลายเดือนธันวาคมไปจนถึงตรุษจีน หลังจากนั้น ราคาจะตกต่ำลงมา ซึ่งยกตัวอย่างที่สวนคุณลี จังหวัดพิจิตร นำพริกหัวเรือพันธุ์ ศก.13 และ ศก.25 มาปลูกก็สามารถจำหน่ายได้ราคาดี เฉลี่ยกิโลกรัมละ 50-80 บาท ส่วนหนึ่งก็ได้คัดเลือกพันธุ์เพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ด้วย

การเตรียมแปลง เพาะกล้าพริกขี้หนูหัวเรือ

ใช้แปลงเพาะที่มีขนาดความกว้าง 1 เมตร ยาว 5-10 เมตร ก่อนที่จะเพาะ เกษตรกรควรจะขุดพลิกดินตากไว้ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ หลังจากนั้นย่อยดิน ใส่ปุ๋ยคอกและแกลบเผา อย่างละ 4-5 กิโลกรัม ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร คลุกเคล้าให้เข้ากันจนร่วนซุย เกลี่ยดินให้เรียบแล้วเพาะเมล็ด ในอัตรา 50 กรัม ต่อพื้นที่ปลูกพริกขี้หนูหัวเรือ 1 ไร่ แนะนำให้โรยเมล็ดพริกเป็นแถวตามความกว้างของแปลง ลึก 0.5 เซนติเมตร แต่ละแถวห่างกัน 10 เซนติเมตร กลบดินบางๆ เสมอผิวดินเดิมแล้วใช้ฟางข้าวคลุมแปลงบางๆ รดน้ำ และถ้าเป็นไปได้ควรจะราดสารป้องกันและกำจัดแมลง เช่น สารเซฟวิน-85 เพื่อป้องกันมดกัดกินเมล็ด เมื่อต้นกล้างอกขึ้นเหนือพื้นดินแล้วให้เก็บฟางข้าวออกให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อให้ต้นกล้าเจริญเติบโตดี ยังมีคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับเกษตรกรที่มีการปลูกพริกขี้หนูหัวเรือโดยการย้ายกล้าจากแปลงเพาะไปปลูกในแปลงโดยตรง โดยไม่ย้ายกล้าลงถุงพลาสติก เกษตรกรผู้ปลูกควรจะโรยเมล็ดให้มีระยะห่างเพิ่มขึ้น แต่ละเมล็ดควรจะห่างกัน ประมาณ 0.5 เซนติเมตร เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 4-5 ใบ ควรพ่นสารป้องกันและกำจัดแมลงอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

ปลูกแบบแถวคู่ บนแปลงที่ใช้พลาสติกคลุมแปลง เพื่อลดการจัดการเรื่องวัชพืช
ปลูกแบบแถวคู่ บนแปลงที่ใช้พลาสติกคลุมแปลง เพื่อลดการจัดการเรื่องวัชพืช

การปลูก ระยะปลูกที่เหมาะสม ของ พริกขี้หนูหัวเรือพันธุ์ใหม่

แปลงที่จะปลูกพริกขี้หนูหัวเรือควรจะยกแปลงปลูกให้สูงขึ้น ประมาณ 15-20 เซนติเมตร ขุดหลุมให้ลึก ประมาณ 10-20 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอก ในอัตรา 3-4 ตัน ต่อไร่ หรือเมื่อคำนวณเป็นหลุมจะใช้ปุ๋ยคอก หลุมละ 1 กิโลกรัม สำหรับปุ๋ยเคมีแนะนำให้ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 19-19-19 อัตรา 40-50 กิโลกรัม ต่อไร่ อายุต้นกล้าพริกขี้หนูหัวเรือที่จะย้ายลงปลูกควรมีอายุประมาณ 1 เดือน จะต้องรดน้ำให้ชุ่มหลังจากปลูกเสร็จ จุดสำคัญของแปลงปลูกพริกหัวเรือที่แนะนำว่า เกษตรกรจะต้องทำร่องระบายน้ำทุก 15 แถว และแถวปลูกพริกไม่ควรมีความยาวเกิน 15 เมตร เพื่อความสะดวกในการดูแลรักษา ในเรื่องของระยะปลูกถ้าเกษตรกรปลูกแบบแถวเดี่ยว ควรใช้ระยะระหว่างต้น 50 เซนติเมตร ใช้ระยะระหว่างแถว 100 เซนติเมตร แต่ถ้าปลูกเป็นแถวคู่ ใช้ระยะระหว่างต้น 50 เซนติเมตร และระยะระหว่างแถวคู่ 120 เซนติเมตร และระยะระหว่างแถว 80 เซนติเมตร หรือในที่ดอนอาจจะเลือกใช้ระยะปลูก 50×50 เซนติเมตร ซึ่งพื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกได้มากถึง 6,400 ต้น ต่อประยุกต์ใช้ตามความเหมาะสมของเกษตรกร

แมลงศัตรูที่สำคัญของพริก

ก็จะเหมือนกัน หลักๆ คือ เพลี้ยไฟ ดูดนํ้าเลี้ยง ยอด ใบอ่อน ตาดอก ทำให้ใบหงิก ห่อขึ้นด้านบน พื้นใบเป็นคลื่น เป็นรอยสีนํ้าตาล ใบและดอกร่วง หรือผลพริกผิดปกติ หากเป็นช่วงแห้งแล้งจะระบาดมาก หากเป็นการปลูกในแหล่งใหม่ แนะนำให้ใช้คาร์บาริลฉีดพ่นสลับกับสารชนิดอื่น เช่น คาร์โบซัลแฟน ฟิโปรนิล พ่นทุก 7-10 วัน

พริกขี้หนูพันธุ์หัวเรือ เป็นสายพันธุ์พริกที่ตลาดยอมรับทั้งตลาดขายพริกสดและพริกแห้ง
พริกขี้หนูพันธุ์หัวเรือ เป็นสายพันธุ์พริกที่ตลาดยอมรับทั้งตลาดขายพริกสดและพริกแห้ง

ไรขาว ดูดนํ้าเลี้ยงทำให้ใบหงิกงอ ย่นเป็นคลื่น ขอบใบม้วนลง ใบเรียวแหลม ต้นแคระแกร็นใบร่วงตาย ป้องกันกำจัดโดยใช้พ่นด้วยสารไพริดาเบน หรือสไปโรมีซิเฟน พ่น 5-10 วัน ต่อครั้ง

การให้น้ำ  การคลุมดิน และการเก็บเกี่ยว

เน้นเรื่องการให้น้ำในการปลูกพริกขี้หนูหัวเรือพันธุ์ใหม่ว่าในระยะแรกเมื่อปลูกลงแปลงควรจะให้น้ำเป็นประจำทุกวัน เมื่อต้นเจริญเติบโตขึ้นให้สังเกตความชื้นของดิน ถ้าดินมีสภาพการอุ้มน้ำที่ดีอาจจะเว้นระยะเวลาการให้น้ำได้หลายวัน

ในเรื่องของการใช้วัสดุคลุมดินยังมีความสำคัญ ที่หาง่ายที่สุดคือ ฟางข้าว เพื่อช่วยรักษาความชื้นของดินและลดการระเหยของน้ำ ไม่ควรใช้แกลบดิบคลุม เนื่องจากแกลบดิบจะเกิดการสลายตัวและแย่งธาตุอาหารของพืชไปใช้ได้ มีผลทำให้ต้นพริกชะงักการเจริญเติบโตและผลผลิตลดลง

การพรวนดิน เนื่องจากพริกจะแผ่รากกระจายอยู่ใกล้ผิวดิน จึงต้องระวังอย่าให้รากกระทบกระเทือนเพราะจะชะงักการเจริญเติบโต จะทำให้ต้นพริกโค่นล้มง่าย การให้ปุ๋ยควรขุดหลุมตามบริเวณกว้างของใบพริกที่แผ่ไปถึง อย่าใส่ชิดโคนต้น ข้อควรระวังในการเก็บเกี่ยวพริกขี้หนูหัวเรือ ซึ่งจะเก็บเกี่ยวครั้งแรกเมื่อต้นพริกมีอายุประมาณ 100-120 วัน พบว่ามีเกษตรกรบางรายนำผลผลิตพริกมากองสุมรวมกัน ซึ่งอาจจะทำให้เน่าเสียได้ ผลผลิตที่เก็บได้ควรจะเก็บไว้ในที่ร่ม

จากการที่ผู้เขียนได้สำรวจในแปลงปลูกพริกขี้หนูหัวเรือพันธุ์ใหม่ของเกษตรกรจะต้องยอมรับว่าเป็นพริกขี้หนูที่มีสภาพต้นเตี้ย ให้ผลผลิตเร็วและดกมาก ที่สำคัญคือ ขนาดของผลสม่ำเสมอกันทั้งแปลง มีเป็นโรคกุ้งแห้งของพริกต่ำ หากสนใจเมล็ดพันธุ์พริกขี้หนูหัวเรือพันธุ์ ศก.13 และ ศก.25 ติดต่อได้ที่ สวนคุณลี จังหวัดพิจิตร โทร. (081) 886-7398, (056) 613-021

8
พริกหัวเรือติดผลดกมากและสามารถเก็บเกี่ยวได้นานหลายเดือน ควรต้องมีไม้ค้ำยันต้นที่แข็งแรง
พริกหัวเรือ ตากแห้ง สีสวยแดงสด เป็นที่ต้องการของตลาดและส่งขายไปทั้งประเทศ
พริกหัวเรือ ตากแห้ง สีสวยแดงสด เป็นที่ต้องการของตลาดและส่งขายไปทั้งประเทศ

ที่มา เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์