เผยแพร่ |
---|
ผึ้งชันโรง แมลงผู้ช่วยเกษตรกร ปลูกกาแฟอาราบิก้า ให้มีรสชาติกลิ่นหอม
“ชันโรง” หรือ ผึ้งจิ๋ว เป็นแมลงในกลุ่มเดียวกับผึ้ง แต่ไม่มีเหล็กใน พบได้ในทุกภูมิภาคของไทย ในไทยมีทั้งหมด 34 สายพันธุ์ กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เผยผลวิจัยและพัฒนากาแฟอาราบิก้าครบวงกร ภายใต้การดำเนินงานตามนโยบาย BCG ประสบผลสำเร็จ พบ “ผึ้งชันโรง” ซึ่งเป็นแมลงผสมเกสรในกลุ่ม ผึ้ง ต่อแตน มีบทบาทและประสิทธิภาพสูงสุดในการผสมเกสรดอกกาแฟให้มีรสชาติ กลิ่นหอม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมส่งเสริมการเพาะเลี้ยงและพัฒนาน้ำผึ้งเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ มุ่งรองรับสังคมผู้สูงอายุ

ทั้งนี้ ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ โดย สถาบันวิจัยลำตะคอง ได้รับโจทย์จากกระทรวง อว. ให้ดำเนินโครงการงานวิจัยและพัฒนากาแฟอาราบิก้าแบบครบวงจร ภายใต้การดำเนินงานตามนโยบาย BCG ตั้งแต่การผลิตต้นน้ำ การบริหารจัดการดินและปุ๋ย การใช้ฮอร์โมนเพื่อแก้ไขปัญหาการออกดอกและผลิตผลไม่สม่ำเสมอ รวมถึงการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวและเครื่องจักรที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต ตลอดจนการเพิ่มปริมาณและคุณภาพของกาแฟอาราบิก้าด้วยการใช้แมลงผสมเกสร

โดยคณะวิจัย วว. ได้ดำเนินโครงการ ณ หมู่บ้านขุนลาว ตำบลแม่เจดีย์ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงใหม่ บนเทือกเขาสูงกว่า 1,300 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟอาราบิก้าแบบใต้ร่มเงาไม้ โดยไม่ใช้สารเคมีใดๆ ทำให้พื้นที่นี้มีความหลากหลายทางชีวภาพของทั้งพืชและสัตว์น้อยใหญ่ และที่สำคัญยังเป็นแหล่งรวมเหล่าแมลงผสมเกสรมากมายที่ทำให้ผลผลิตต่างติดผลได้มากขึ้น ช่วยให้เกษตรกรได้ผลผลิตมากขึ้น
จากการดำเนินโครงการดังกล่าว คณะวิจัยพบว่า “ผึ้งชันโรง” ซึ่งเป็นแมลงผสมเกสรในกลุ่ม ผึ้ง ต่อแตน ที่มีบทบาทและประสิทธิภาพสูงสุดในการผสมเกสรดอกกาแฟ ทั้งนี้การที่ผึ้งชันโรงออกมาเก็บน้ำหวานและเป็นการผสมเกสรให้ดอกกาแฟไปในคราวเดียวกันอย่างไม่ตั้งใจนั้น ทำให้ละอองเรณูจากเกสรตัวผู้ของดอกกาแฟถูกนำไปฝากไว้ยังเกสรตัวเมียเป็นจำนวนมาก จนเกิดการปฏิสนธิและติดผลทันทีแม้นว่ากาแฟจะสามารถผสมตัวเอง หรือรังไข่สามารถเจริญไปเป็นผล อัตโนมัติได้อยู่แล้ว โดยไม่ต้องพึ่งการผสมข้าม

แต่ก็มีงานวิจัยมากมายในต่างประเทศที่แสดงให้เห็นว่าการผสมเกสรข้ามโดยแมลงนั้น จะทำให้กาแฟมีคุณภาพมากขึ้น ที่สำคัญจากงานวิจัยในครั้งนี้ คณะนักวิจัยยังพบว่า เมื่อมีแมลงผสมเกสรโดยเฉพาะผึ้งชันโรงเข้ามามีบทบาทสำคัญแล้ว ทำให้ผลเชอรี่กาแฟสุกแก่สม่ำเสมอมากขึ้น โดยชาวบ้านไม่ต้องเสียเวลาขึ้นเขาไปหลายครั้ง เพื่อเก็บผลผลิตและไม่เสียเวลาในการคัดเลือกเฉพาะเชอรี่กาแฟที่สุกเท่านั้น จึงช่วยลดการปะปนของกาแฟที่ยังไม่สุกเต็มที่ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อรสชาติและกลิ่นของกาแฟ ทั้งนี้เมื่อได้เชอรี่กาแฟที่มีคุณภาพจากการดูแลของเกษตรกร พร้อมผู้ช่วยตัวจิ๋วอย่างผึ้งชันโรงแล้ว ทำให้ได้ผลผลิตกาแฟที่มีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะเมื่อนำกาแฟมาคั่วแบบอ่อน light roasted จะทำให้ได้รสชาติและกลิ่นของกาแฟมากที่สุด ดังนั้นกาแฟของหมู่บ้านขุนลาวป่าต้นน้ำแห่งนี้ จึงมีกลิ่นหอมคล้ายดอกไม้ป่า ผสมกลมกลืนกับความรู้สึกของผลไม้ป่าที่หอมหวาน

โดย วว. ได้มีการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงรังผึ้งชันโรงที่เป็นเพื่อนแท้ของเกษตรกร โดยติดตั้งรังผึ้งชันโรงเหล่านี้ใต้ร่มเงาไม้ในสวนกาแฟ นอกจากผึ้งชันโรงจะช่วยผสมเกสรให้กับดอกกาแฟและพืชผลชนิดอื่นๆ ที่ชาวบ้านปลูกสลับกันไปตามฤดูกาลแล้ว ยังทำให้ชาวบ้านสามารถเก็บน้ำผึ้งจากชันโรงเพื่อขายสร้างรายได้โดยที่ไม่ต้องไปตีรังจากธรรมชาติใดๆ
ที่มา สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย