โรงงานคัดส้ม ปรับกลยุทธ์ ชูจุดแข็ง สดใหม่เหมือนเพิ่งเก็บจากสวน รุกตลาดออนไลน์ สู้โควิด

ส้ม นอกจากชื่อที่มีความหมายและคุณลักษณะเป็นมงคลที่นิยมมอบให้กันและกันในช่วงเทศกาลต่างๆ แล้ว ยังเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ มากมาย อาทิ วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี ตลอดจนแคลเซียม และธาตุเหล็ก ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบภายในร่างกาย ปัจจุบันประเทศไทยมีส้มหลากหลายสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงในท้องตลาด หนึ่งในนั้นคือ ส้มสายน้ำผึ้ง หรือ ส้มโชกุน จากอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

ด้วยสภาพดินและอากาศที่เหมาะแก่การปลูกส้ม ทำให้ได้ส้มที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ถูกปากผู้บริโภค ตลาดมีความต้องการสูง เกษตรกรหลายรายจึงหันมาปลูกส้มมากขึ้น แม้จะเป็นเรื่องดีแต่เกษตรกรบางรายก็ไม่สามารถเข้าถึงการแข่งขันทางการตลาดได้

จากจุดนี้เอง ที่ทำให้เกิดโรงงานคัดส้ม ส้มพลอย ส้มสายน้ำผึ้งฝาง ของ คุณพลอย-พัชรพรรณ กาศวิบูลย์ เจ้าของกิจการ วัย 31 ปี ผู้ก้าวเข้ามาสานต่อธุรกิจทางการเกษตรของครอบครัว และเข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรชุมชนฝางโดยตรง

คุณพลอย เล่าว่า เดิมเธอเรียนจบจากคณะสถาปัตยกรรม แต่เพราะคลุกคลีอยู่ในวงการส้มมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะคุณพ่อคุณแม่เปิดโรงงานแวกซ์ส้มมานานกว่า 20 ปีแล้ว เธอจึงรู้จักคุ้นเคยส้มทุกลูกประหนึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัว เมื่อเรียนจบและต้องมาบริหารกิจการของครอบครัวจึงไม่มีปัญหา

“มองปราดเดียวจะรู้เลยว่า ส้มสวนนี้ได้มาตรฐานหรือไม่ ผ่านการดูแลเพาะปลูกมาอย่างไร มันเกิดจากประสบการณ์การดูแลใส่ใจในทุกขั้นตอนอย่างจริงจังสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการคัดส้ม การแบ่งเกรด การแพ็กเพื่อส่งออกตามออร์เดอร์ สามารถการันตีคุณภาพของส้มได้เลยว่า อร่อย สด ปลอดภัย เหมือนปลูกและเก็บส้มเองกับมือ แล้วโรงงานของพลอย เราพิถีพิถันในการคัดส้มมาก เพราะส้มเป็นของกิน ถ้าต้นทางไม่ได้มาตรฐาน และเลือกพลาดไปเพียงนิดเดียว อาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคปลายทางได้ ดังนั้น เรื่องความปลอดภัย จึงต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง” คุณพลอย กล่าว

นอกจากส้มที่ออกจากโรงงานจะมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เรื่องการทำตลาดก็สำคัญไม่แพ้กัน คุณพลอย เล่าว่า กลยุทธ์ที่เลือกใช้คือสิ่งที่ทำให้ลูกค้ารู้จักและไว้วางใจส้มจากโรงงาน นั่นก็คือ การบอกเล่าแบบปากต่อปาก ซึ่งกลยุทธ์นี้ ใช้มาตั้งแต่สมัยที่คุณพ่อคุณแม่ยังทำโรงงานอยู่

เมื่อลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุน จะเห็นว่าเกษตรกรนำผลผลิตที่ตัดใหม่ สดๆ จากสวนมาส่งที่โรงงานโดยตรง เกษตรกรเองก็ได้เห็นว่าทางโรงงานขายผลผลิตให้ลูกค้าในราคาไม่เอาเปรียบ ผู้ผลิตและผู้บริโภคจึงเกิดความเชื่อมั่นเลือกใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ขยายวงกว้างสามารถส่งขายให้ตลาดใหญ่ๆ อาทิ ตลาดไท ตลาดไอยรา และตลาดหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ

“เมื่อก่อนการตลาดเราจะเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดหัวเมืองใหญ่ๆ ที่มีออร์เดอร์สั่งซื้อคราวละเป็นตันเท่านั้น ส่วนตลาดรายย่อยไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่ จนมันเกิดโควิด-19 ทางรัฐบาลประกาศลดความแออัด เพื่อเพิ่มความปลอดภัย สั่งปิดสถานที่ต่างๆ รวมถึงตลาดสด ตลาดนัด พ่อค้าแม่ขายจำต้องยกเลิกออร์เดอร์กะทันหัน แรงกระทบนี้ส่งผลต่อโรงงานของเราอย่างจัง ส้มที่รับซื้อแล้ว และผลผลิตจากเกษตรกรชาวสวนที่กำลังจะออกมาจะทำอย่างไร เป็นคำถามเหมือนไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน ประมาณนั้นเลย”

“คือเราไม่คิดว่าวิกฤตที่หนักที่สุดจะเกิดขึ้นในช่วงจังหวะที่เราเข้ามาบริหารโรงงาน ออร์เดอร์หาย เงินทุนหด เป็นวิกฤตที่ว่ากล่าวโทษใครไม่ได้เลย ถามว่าท้อไหม ท้อแต่ไม่ถอย ชีวิตต้องเดินหน้า ช่วงนั้นจึงศึกษาเทคนิคการทำตลาดเยอะมาก จนได้เข้าร่วมอบรมกับ SME D BANK ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่มาถูกจังหวะตรงกับความต้องการ ทำให้เราเข้าใจกระบวนการบริหารจัดการธุรกิจมากขึ้น พอเรียนเสร็จก็เอามาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เข้ากับโรงงาน แล้วเน้นการขายผ่านตลาดโลกออนไลน์ทันที” เจ้าของโรงงานคนเดิม เล่า

นอกจากนี้ เรื่องการขนส่ง เจ้าของโรงงานยังเผยวิธีการรักษาคงความสดใหม่ของส้มทุกลูก เธอใช้วิธีกำหนดให้เกษตรกรเก็บส้มส่งเข้าโรงงานตามวันที่มีออร์เดอร์เท่านั้น ไม่มีสต๊อกสินค้า ไม่เก็บล่วงหน้า และทันทีที่บรรจุเสร็จต้องส่งออกให้ถึงมือผู้บริโภคทันที ลูกค้าที่ได้รับจึงรู้สึกเหมือนเพิ่งเก็บจากสวน เด็ดจากต้น ไม่มีผิดหวังแน่นอน เหมาะสำหรับเป็นส้มมงคลเครื่องไหว้ช่วงเทศกาลตรุษจีน หรือเป็นของฝาก

อีกทั้งหันมาจับกลุ่มตลาดรายย่อย เปิดการขายผ่านระบบออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น Line@ โดยจัดส่งในรูปแบบ ส้มกล่อง กำหนดวิธีจัดส่งตามเขตพื้นที่อย่างชัดเจน เช่น จังหวัดเชียงใหม่สามารถจัดส่งได้ทันทีตามยอดออร์เดอร์ที่สั่งเข้ามา ส่วนเขตพื้นที่จังหวัดอื่นๆ การจัดส่งจะขึ้นอยู่กับระยะทาง อาทิ กรุงเทพฯ จะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน

โดยราคาส้มกล่อง หรือ ส้มเกรด A จะมีหลากหลายราคาให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ แบ่งออกเป็น 2 ขนาด ได้แก่ ส้มเบอร์ 5 บรรจุกล่องละ 40 ลูก (5 กิโลกรัม) ราคา 400 บาท, ส้มเบอร์ 5 บรรจุกล่องละ 84 ลูก (10 กิโลกรัม) ราคา 1,000 บาท, ส้มเบอร์ 6 บรรจุกล่องละ 30 ลูก (5 กิโลกรัม) ราคา 450 บาท และส้มเบอร์ 6 บรรจุกล่องละ 72 ลูก (10 กิโลกรัม) ราคา 1,200 บาท เป็นต้น

“ในอนาคตข้างหน้า พลอยวางแผนถึงเรื่องการยกระดับสร้างแบรนด์เป็นของตนเอง จะเน้นการขายผ่านระบบออนไลน์เป็นหลัก พัฒนาให้ครอบคลุมครบวงจรมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา”

“ทุกวันนี้โควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง และตรงกับฤดูเก็บเกี่ยวส้มพอดี แม้เราจะเตรียมตัวรับมืออย่างไร เรื่องสภาพคล่องของธุรกิจก็ยังคงเป็นปัญหาอุปสรรคอยู่ดี เครดิตทางการค้าจำเป็นต้องมีแหล่งเงินทุน ซึ่ง SME D Bank ได้เล็งเห็นและพร้อมเข้ามาช่วยเหลือ ผ่านโครงการสินเชื่อรายเล็ก Extra Cash ในวิกฤตอย่างนี้ตอบโจทย์ความต้องการอย่างมาก ดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นเกราะป้องกันชั้นดีช่วยให้ธุรกิจเดินหน้า สามารถกระจายรายได้ช่วยพยุงเกษตรกรชาวสวนส้มในชุมชนฝางอีกทางหนึ่งด้วย” คุณพัชรพรรณ กล่าวทิ้งท้าย

สนใจติดต่อ โทร. (063) 159-6542