เผยแพร่ |
---|
นายเกษม เคนะอ่อน อายุ 61 ปี อดีตกำนันตำบลเต่างอย ต.เต่างอย อ.เต่างอย จ.สกลนคร เปิดเผยว่า นอกจากทำนาทำไร่แล้ว หลังหมดวาระในการเป็นกำนัน ก็ได้หันมาทำเกษตรแบบเต็มตัว โดยได้ใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งหลังจากที่ลดการทำนาแล้วมาทำแปลงปลูก เมล่อน โดยอาศัยช่วงที่เป็นกำนัน มีการเดินทางไปศึกษาดูงานหลายที่และอ่านตำราประกอบ มองว่าการปลูกเม่ลอน สามารถสร้างรายได้ดี แต่ต้องลงทุนสูง ขณะนี้ปลูกแล้ว 2 โรงเรือน เป็นพันธุ์ “เลดี้โกลด์” และเริ่มให้ผลผลิตแล้ว 1 โรงเรือนหรือประมาณ 400 ต้น ส่วนโรงเรือนที่ 2 กำลังเริ่มที่จะให้ผลผลิต ส่วนค่าลงทุนจะตกอยู่ที่ประมาณ 80,000 บาท ต่อโรงเรือนในครั้งแรก
นายเกษม กล่าวอีกว่า ตอนนี้ เม่ล่อนให้ผลผลิตและจำหน่าย กิโลกรัมละ 50 บาท เป็นราคาที่หน้าโรงเรือน เฉลี่ยแล้วจะได้ประมาณ 53,000 บาท ต่อโรงเรือน หากมี 2 โรงเรือน ก็จะได้ไม่น้อยกว่า 100,000 บาท คิดว่าเป็นมูลค่าที่น่าพอใจ กว่าการปลูกพืชอื่นๆ แต่ที่สำคัญ เมล่อน เป็นพืชผลผลิตที่ผู้ปลูกต้องมีเวลาดูแลใกล้ชิด เพราะเมล่อน จะมีปัญหาเรื่องโรค เช่น พวกรา แต่เมื่อผลผลิตออกมาก็คุ้มค่า ในส่วนของตนเอง มุ่งการปลูกไปที่การปลอดสารเคมีทุกชนิด ดังนั้นผู้บริโภคมีความสบายใจหายห่วงปลอดภัยแน่นอน และได้ทำเป็นตัวอย่างให้กับเกษตรกร ให้หันมาปลูกพืชที่ไม่ใช้สารเคมี แล้วจะมีราคาดี และเป็นที่ต้องการของตลาดตอนนี้มีออเดอร์เข้ามามาก จนไม่พอขาย
“คิดว่าเป็นรายได้ ที่ดีกว่าการทำนา และการทำเกษตรอย่างอื่นตามที่เห็นมา หากเกษตรกรท่านใดสนใจอยากดูงานหรือศึกษางาน สามารถติดต่อโดยตรง พร้อมให้คำปรึกษาฟรี” นายเกษมกล่าว
ที่มา ข่าวสดออนไลน์