กล้วยไม้หลังเกษียณ จากงานอดิเรกกลายเป็นอาชีพ ลูกไม้สวยช่วยทำการตลาด

 

จากหนังสือ “ตำราเล่นกล้วยไม้” ของจอมพลสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงนิพนธ์ไว้เมื่อปี พ.ศ.2460 กล่าวไว้ว่า “เหตุใดจึงเรียกกล้วยไม้ ข้าพเจ้าเข้าใจว่าเป็นเพราะไม่มีลำต้น เป็นแต่เพียงไม้เกาะอยู่กับต้นไม้ฤาหินแลแตกออกเป็นหน่อๆ มีใบบ้างทิ้งใบเสียบ้าง แลโดยมากชนิดพิศดูก็คล้ายผลกล้วยเสียจริงๆ เหตุฉนี้กระมังจึงเรียกว่า กล้วยไม้

สมัยก่อน กล้วยไม้เป็นไม้ดอกที่นิยมปลูกเลี้ยงกันในบ้านของเจ้านาย หรือขุนนางที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ ปลูกเลี้ยงกันเพื่อเพิ่มบารมีไว้ประกวดประขันกันว่า มีกล้วยไม้ดี

พลโทวิสูตร คงอุทัยกุล เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนพ่อเข้าป่าเอากล้วยไม้แปลกมาปลูกเลี้ยงไว้ที่บ้านอยู่เรื่อยๆ เช่น ไอยเรศ เอื้องเงินหลวง เพราะในเวลานั้นป่าที่จังหวัดชุมพรยังอุดมสมบูรณ์ ต่อมาได้ย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ กับพี่ชายซึ่งก็ชอบปลูกกล้วยไม้ จึงเห็นดอกอยู่ตลอด ต่อมาได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนนายร้อย จปร.หลังจากเข้ารับราชการทหารก็ต้องเข้าป่าอยู่ตลอด เห็นกล้วยไม้ที่อยู่ในธรรมชาติมากมาย เช่น รองเท้านารีเหลืองกระบี่ที่ภูเก็ต ฟ้ามุ่ยที่เชียงใหม่ เมื่อมีโอกาสได้ไปสิงคโปร์ก็พบรีน่าโรเวลที่นั่น แต่ยังไม่มีโอกาสปลูกเลี้ยงเนื่องจากต้องย้ายหน่วยงานไปเรื่อยๆ

ต่อมาได้มีโอกาสโรงเรียนเสนาธิการ ตามหลักสูตรแนะนำให้มีทุกคนมีงานอดิเรกเพื่อเป็นกิจกรรมสันทนาการ บางท่านเลือกกีฬา แต่เสธฯ วิสูตรเลือกการปลูกกล้วยไม้ มีโอกาสดีได้มาประจำการศูนย์สงครามพิเศษลพบุรี มีรุ่นพี่ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้กันหลายท่าน รวมถึงท่านพลตรีเทียนชัย ศิริสัมพันธุ์ ผู้บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ (ยศในขณะนั้น) เป็นนายกสมาคมกล้วยไม้ลพบุรี มีการจัดประชุมกันทุกเดือน และจัดงานประกวดประจำปีในวันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี ในปี พ.ศ.2533 พลโทวิสูตรได้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกล้วยไม้ลพบุรีจนถึงปัจจุบัน และได้เกษียณอายุราชการเมื่อปี พ.ศ.2545 ในตำแหน่งที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด 

ลูกไม้ช้าง
ลูกไม้ช้าง

การเริ่มเข้าสู่วงการกล้วยไม้

ท่านพลโทวิสูตรกล่าวว่า “การเข้ามาสู่วงการกล้วยไม้ ต้องถามตัวเองก่อนว่ามีจุดประสงค์อะไร เช่น เล่นเป็นงานอดิเรก หรือต้องการที่จะทำการค้า แต่ทั้งหมดก็ต้องผ่านงานอดิเรกมาก่อนทั้งสิ้น”

สำหรับปัจจัยที่นำเข้าสู่วงการกล้วยไม้นั้น ท่านได้อธิบายเป็นลำดับขั้นตอน ดังต่อไปนี้

  1. ต้องรู้จักกล้วยไม้ก่อนว่าเป็นกล้วยไม้ประเภทใด เช่น กล้วยไม้ที่แยกตามลักษณะของราก มี 4 ประเภท ได้แก่ กล้วยไม้รากอากาศ กึ่งอากาศ กล้วยไม้ดิน กึ่งดิน ถ้าแยกตามลักษณะของการเจริญเติบโตมี 2 ประเภท ได้แก่ เจริญเติบโตทางยอด หรือเจริญเติบโตทางข้าง ถ้าแยกตามลักษณะอากาศ ในบ้านเรามีแค่อากาศร้อนกับอบอุ่น รายละเอียดเกี่ยวกับกล้วยไม้นี้หาอ่านตามตำราพื้นฐานได้ทั่วไป การเข้าใจกล้วยไม้ประเภทต่างๆ ก็เพื่อมาปรับใช้กับการปลูกเลี้ยงให้เหมาะสมกับประเภทนั้นๆ
  2. ต้องมีสถานที่และเงินทุน ในที่นี้สำหรับผู้ปลูกเล่นเป็นงานอดิเรกก็ใช้เฉพาะพื้นที่ข้างบ้าน รอบบ้าน ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก เงินทุนก็ใช้ไม่กี่บาท สำหรับผู้ที่มีจุดประสงค์ทางการค้าก็ควรมีพื้นที่มากหน่อย แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้เริ่มจากงานอดิเรกก่อน พื้นที่ที่ว่าต้องมีน้ำ มีไฟฟ้า มีการคมนาคมที่เข้าถึงได้ และมีเงินทุนสำหรับสร้างโรงเรือน ค่าพันธุ์ไม้ ค่าดูแล ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าปุ๋ย ค่ายา

3 .ต้องมีเวลา กล้วยไม้เป็นพืชที่ต้องการความเอาใจใส่มากกว่าพืชชนิดอื่นๆ การรดน้ำ การให้ปุ๋ยให้ยาต้องทำอย่างสม่ำเสมอ สวนกล้วยไม้ที่ประสบความสำเร็จเกิดจากการเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด

ช้างที่พัฒนาแล้วรอลุ้นดอก
ช้างที่พัฒนาแล้วรอลุ้นดอก

บันไดสามขั้นสำหรับนักกล้วยไม้

  1. กล้วยไม้กินคน (เล่นเป็นงานอดิเรก) สำหรับผู้เล่นเป็นงานอดิเรก ควรทำใจไว้เลยว่าต้องมีค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ เช่น ค่าซื้อหาต้นกล้วยไม้ที่เราชอบ ค่าปุ๋ย ค่ายา นักกล้วยไม้ที่อยู่ในขั้นแรกจะต้องมีเงินสำหรับจ่าย
  2. กล้วยไม้กินกล้วยไม้ (เลี้ยงอย่างมืออาชีพ) นักกล้วยไม้ขั้นนี้รู้จักกล้วยไม้เป็นอย่างดี เข้าสังคมของนักกล้วยไม้และเป็นที่รู้จัก เริ่มมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน จนถึงขั้นที่ไม่จำเป็นต้องเอาเงินส่วนตัวออกมาใช้จ่ายในการเลี้ยงกล้วยไม้ คือขายกล้วยไม้เพียงพอสำหรับนำเงินมาใช้จ่ายในการเลี้ยงได้แล้ว
  3. คนกินกล้วยไม้ (อาชีพเลี้ยงกล้วยไม้) นักกล้วยไม้ประเภทนี้จำเป็นต้องมีสวนกล้วยไม้ มีการพัฒนาพันธุ์กล้วยไม้อยู่เสมอจนมีชื่อเสียงในสังคมกล้วยไม้ มีอาชีพขายกล้วยไม้จนกระทั่งมีเงินเหลือมาเลี้ยงดูครอบครัว

 

สังคมของนักกล้วยไม้

กล้วยไม้เป็นพืชสังคม ท่านนายกสมาคมกล้วยไม้ลพบุรีกล่าวเน้นว่า “กล้วยไม้เป็นพืชสังคม พืชสังคมที่ว่าไม่ใช่ตัวกล้วยไม้ แต่เป็นผู้เลี้ยงกล้วยไม้ ถ้าเลี้ยงแล้วเฝ้าดูอยู่ที่บ้านอย่างเดียว ไม่ออกไปสู่หมู่เพื่อนฝูงท่านอื่นที่เลี้ยงอยู่ วิสัยทัศน์เราจะไม่พัฒนาเลย นักกล้วยไม้ต้องเรียนรู้จากคนอื่นด้วย ไม่ใช่มีแค่ประสบการณ์ในสวน ฟังข้อดี เห็นข้อดีของผู้อื่น นำมาปรับใช้จะไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกมากเกินไป

“สังคมของกล้วยไม้มีหลากหลาย เช่น ถ้าต้องการสังคมกล้วยไม้เฉพาะอย่างก็มี สมาคมกล้วยไม้แคทลียา สมาคมกล้วยไม้แวนด้าแอสโค ชมรมรองเท้านารีซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนสังคมกล้วยไม้จังหวัดก็มีสมาคมกล้วยไม้เชียงใหม่ในพระบรมราชินูปภัมถ์ สมาคมกล้วยไม้ลพบุรี สมาคมกล้วยไม้โคราช สมาคมกล้วยไม้ราชบุรี ชมรมกล้วยไม้จันทบุรี ชมรมกล้วยไม้กระบี่ ชมรมกล้วยไม้ภูเก็ต ชมรมกล้วยไม้พังงา ชมรมกล้วยไม้สุราษฏร์ ชมรมกล้วยไม้ตรัง เป็นต้น งานประกวดของสมาคมชมรมดังกล่าวได้ทำกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นกิจกรรมสังสรรค์ระหว่างสมาชิกและผู้สนใจกล้วยไม้โดยทั่วไป 

f

นักพัฒนากล้วยไม้ไทยพันธุ์

กล้วยไม้ไทยในแหล่งกำเนิดธรรมชาติของบ้านเราที่พบเจอมีเกือบสองพันชนิด ถือเป็นแดนสวรรค์ของกล้วยไม้เขตร้อน แต่ก่อนให้ความสนใจกับกล้วยไม้ประเภทนี้ค่อนข้างน้อย นักกล้วยไม้สมัยนั้นมีความสุขอยู่กับลูกผสมใหม่ๆ ของต่างประเทศ เช่น กล้วยไม้สกุลหวาย สกุลแคทลียา หรือแวนด้า ประเทศไทยได้นำเข้ากล้วยไม้เหล่านี้จำนวนมาก แต่เป็นที่น่ายินดีว่าในปัจจุบัน นักกล้วยไม้รุ่นนั้นพัฒนากล้วยไม้ทั้งสามชนิดที่กล่าวมาจนเป็นผู้นำทางด้านนี้

สามสิบกว่าปีที่ผ่านมาของพลโทวิสูตร ท่านได้ร่วมพัฒนากล้วยไม้สกุลแคทลียา แวนด้า และพัฒนาในสิ่งที่หลายคนมองข้าม คือกล้วยไม้ไทย เนื่องจากท่านมองเห็นศักยภาพของกล้วยไม้ไทย เช่น กล้วยไม้สกุลช้างที่สมาคมลพบุรีให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ โดยการประกวดกล้วยไม้สกุลช้างเพียงอย่างเดียวในเดือนมกราคม ที่พระปรางค์แขก จังหวัดลพบุรี ตั้งแต่สมัยท่านพลตรีเทียนชัย นายกสมาคมลพบุรีคนแรกจัดขึ้น และได้สนับสนุนให้สมาคมกล้วยไม้สุโขทัยจัดงานประกวด “ช้างชนช้าง” ที่จัดในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยต่อเนื่องกันมา นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนงานประกวดกล้วยไม้สกุลช้างในงาน “กล้วยไม้ช้างเผือกนเรศวร” ที่สวนชมน่าน ซึ่งเป็นสวนสาธารณะของเทศบาลนครพิษณุโลก ริมแม่น้ำน่าน ดำเนินการประกวดโดยชมรมกล้วยไม้พิษณุโลก

เขาแกะกล้วยไม้ ประจำจังหวัดลพบุรี
เขาแกะกล้วยไม้ ประจำจังหวัดลพบุรี

นอกจากกล้วยไม้ช้างแล้ว สมาคมลพบุรียังเลือกให้กล้วยไม้เขาแกะซึ่งอยู่ในสกุลเดียวกับช้างเป็นกล้วยไม้ประจำจังหวัดลพบุรีอีกด้วย กล้วยไม้พันธุ์แท้ชนิดต่างๆ เช่น ช้างแฟนซีสีต่างๆ เขาแกะ เข็มแสด เข็มม่วง สามปอย ฟ้ามุ่ย กุหลาบเหลืองโคราช ที่นักกล้วยไม้ปลูกเลี้ยงกันอยู่ในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งเป็นกล้วยไม้ที่ท่านพลโทวิสูตรพัฒนาขึ้นแทบทั้งสิ้น

พลโทวิสูตรกล่าวถึงข้อด้อยของกล้วยไม้พันธุ์แท้ว่า “กล้วยไม้พันธุ์แท้ออกดอกได้ปีละครั้ง ซึ่งต่างกับลูกผสมที่ออกดอกได้ปีละหลายครั้ง ผมจึงได้พยายามคัดเลือกต้นที่ออกดอกนอกฤดู ผสมกันหลายๆ ชั้น ทำให้กล้วยไม้บางชนิด เช่น ฟ้ามุ่ย ที่กลมผึ่งผาย เลี้ยงออกดอกได้ที่ลพบุรี และออกดอกได้ตลอดทั้งปี แต่ก็จะออกดอกมากในฤดูตามธรรมชาติ สามปอยที่สีสวยขึ้นฟอร์มดอกกลม มีกลิ่นหอมมากขึ้นและออกดอกได้ตลอดทั้งปี ส่วนเข็มแสดและเข็มแดงที่กลมสวย ดอกใหญ่สีสด ขึ้นพ้นจากสภาพความเป็นป่าและออกดอกได้ตลอดปี ส่วนช้างกลายเป็นช้างหลากสีจากการทำซ้ำหลายๆ ครั้ง แต่ช้างที่ทำยังไม่สามารถออกดอกได้ตลอดปีเช่นอย่างอื่น

“สิ่งที่ปรากฏออกมาทำให้คนที่พบเห็นคลางแคลงใจว่า ไม่น่าจะเป็นพันธุ์แท้ ซึ่งจริงแล้วผมต้องการให้กล้วยไม้พันธุ์แท้สวยขึ้นและออกดอกได้ตลอดปี ถึงแม้คำว่าตลอดปีของผมจะไม่ใช่ทุกต้นที่ทำ จะมีแค่บางส่วนที่ไม่มากนักเท่านั้น ผมก็จะเอาต้นที่ออกดอกนอกฤดูนี้ทำซ้ำเข้าไปอีกหลายๆ ครั้งซึ่งผลจะปรากฏในชั้นหลังๆ ต่อไปจะเป็นสักกี่ปีก็แล้วแต่ ถึงผมไม่โอกาสได้เห็น แต่คนรุ่นหลังมีโอกาสได้เห็น จะได้ผลอย่างไรก็ตามผมก็จะทำต่อไป ไม่เคยย่อท้อ

 

ลูกไม้สวยของสวนช่วยทำการตลาด

การออกงานประกวดต่างๆ ทำให้ชื่อเสียงของสวนเป็นที่รู้จักโดยไม่จำเป็นต้องทำการตลาดใดทั้งสิ้น และไม่เคยเปิดร้านขายในงานใด ผู้สนใจจะซื้อไปปลูกเลี้ยงหรือจำหน่ายจะมาติดต่อและรับที่สวนเอง กล้วยไม้เป็นสินค้าแฟชั่นจะต้องมีลูกไม้แปลกๆ ใหม่ๆ เกิดขึ้นในสวนเสมอ จึงจะทำให้เป็นที่สนใจของนักกล้วยไม้

กล้วยไม้ในงานประกวด วันที่ 23 ตุลาคม
กล้วยไม้ในงานประกวด วันที่ 23 ตุลาคม

ปัจจุบัน พลโทวิสูตรมีความสุขอยู่กับการได้ไปช่วยงานต่างๆ ที่มีการประกวดกล้วยไม้ เป็นวิทยากรบรรยายทั่วประเทศจากเหนือจรดใต้ แล้วแต่กำลังที่ยังไปไหว นอกนั้นเวลาส่วนใหญ่จะอยู่ในสวนขนาด 10 ไร่ ที่บ้านเริงราง ตำบลสร่างโศก อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี เฝ้าผสมพันธุ์กล้วยไม้และเฝ้าดูการเจริญเติบโตของลูกกล้วยไม้ในสวนอย่างเอาใจใส่

สนใจติดต่อเกี่ยวกับวิชาการด้านกล้วยไม้ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 089-0897070 ติดต่อซื้อขายที่เบอร์โทรศัพท์ 089-9008636