นักธุรกิจขายส่งเสื้อผ้า เดินตามฝันเป็นเกษตรกร หัวใสต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สองสามีภรรยายอมทิ้งธุรกิจขายส่งเสื้อผ้า เดินตามฝันเป็นเกษตรกร ปัจจุบันเป็นเจ้าของดอนดีฟาร์ม เลี้ยงแพะ 300 ตัว แกะ 400 ตัว เปิดร้านอาหารเสิร์ฟผักปลอดสารพิษ นักท่องเที่ยวติดใจต่างบอกต่อ อนาคตสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ที่ดินแดนยุทธหัตถี “ดอนดีฟาร์ม”

คุณสง่า มีปลอด และ คุณฉันทนา หอมจันทร์ ที่บ้านเลขที่ 89/1 หมู่ที่ 4 ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี เล่าว่า “ผมกับแฟนทำธุรกิจเสื้อผ้าอยู่ที่กรุงเทพฯ มานานจนถือว่าประสบความสำเร็จ เป็นที่รู้จักในแวดวงเสื้อผ้าขายส่ง แต่เมื่อ 4 ปีที่แล้วเรามานั่งคิดดูธุรกิจของเราประสบความสำเร็จก็จริง แต่เราก็ยังไม่ได้เดินตามฝัน ยังไม่ได้ทำในสิ่งที่เรารักจริงๆ นั่นคือการเลี้ยงสัตว์ ทำสวน ผมก็ไปศึกษาแนวคิด พระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ เศรษฐกิจพอเพียง ก็เกิดแรงจูงใจอยากจะลงมือทำเกษตร พอดีในช่วงนั้นเราได้ไปเที่ยวรีสอร์ตที่อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี ก็รู้สึกว่าแบบนี้นี่แหละที่เราชอบ”

คุณสง่า และคุณฉันทนา

เมื่อได้ข้อสรุป ทั้ง 2 ท่านจึงกลับมาลงทุนทำรีสอร์ตและเลี้ยงสัตว์ต่างๆ ที่บ้านของคุณฉันทนา ในอำเภอพนมทวน โดยตั้งชื่อว่า ดอนดีฟาร์มแกะ ที่เป็นทั้งที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรและฟาร์มที่มีกิจกรรมหลากหลาย ทั้ง ขี่ม้า ป้อนนมแพะแกะ ผักไฮโดรโปนิกส์ และร้านอาหาร

แพะ แกะ ธุรกิจสร้างเงินสดไปได้หลายทาง มีหลายตลาด

คุณสง่า เล่าต่อว่า ตอนเริ่มต้นทำดอนดีฟาร์มตั้งใจจะเลี้ยงแพะ แกะ เป็นหลัก เพราะมองว่าแพะ แกะไปได้หลายทาง มีหลายตลาด มันตอบสนองในเรื่องธุรกิจการท่องเที่ยวได้ ขายพันธุ์ได้ ขายเนื้อได้ จึงเริ่มจากแพะและแกะมาก่อน ตอนเริ่มต้นเราก็เริ่มเลี้ยงจากจำนวนน้อยๆ ก่อน เริ่มต้นจากแพะลูกผสมพันธุ์บอร์จำนวน 100 แม่ ส่วนแกะผมเลี้ยงพันธุ์ลูกผสมบอนด์กับพันธุ์พื้นเมือง ดอร์เปอร์กับพันธุ์พื้นเมือง แกะเริ่มต้นเลี้ยงที่ 150 แม่ จนเราเริ่มมีตลาดที่วิ่งเข้ามาหาเองทั้งตลาดเนื้อ ตลาดลูกแกะป้อนนมตามรีสอร์ตต่างๆ รวมไปถึงตลาดขายพันธุ์ที่เกษตรกรมาซื้อของเราไปเลี้ยงต่อ เราจึงขยายการเลี้ยงแพะแกะออกไป ตอนนี้มีแพะทั้งหมด 300 กว่าตัว แกะอีก 400 กว่าตัว

ลูกแกะเดินแถวออกไปรอแขกที่จะมาป้อนนม
ฝูงแพะและแกะ ที่ดอนดีฟาร์ม

พูดถึงเรื่องตลาดของแพะและแกะ คุณฉันทนา เล่าว่า แพะ แกะ เป็นธุรกิจเงินสดที่ซื้อง่ายขายง่าย และมีตลาดดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างการขายพันธุ์ทั้งแพะและแกะอายุ 6-7 เดือน ก็ขายออกไปเพื่อเลี้ยงไว้ทำพันธุ์ได้ ลูกแกะป้อนนมก็ราคาดี ส่วนแพะขุนก็ใช้เวลา 3 เดือน แกะขุนใช้เวลา 2 เดือนก็จับขายได้ มีลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ แต่ถ้ามองที่ตลาดปลายทางคือตลาดเนื้อนั้น แพะจะมีตลาดที่กว้างกว่าและมีราคาดีกว่าแกะ เพราะแกะในบ้านเราคนนิยมบริโภคน้อยกว่าแพะ แต่ในภาพรวมแกะก็มีตลาดที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะแกะเลี้ยงง่ายกว่า ขุนให้น้ำหนักขึ้นได้เร็วกว่า ใช้เวลาขุนสั้นกว่าแพะ ต้นทุนการเลี้ยงแกะจึงต่ำกว่า

ขยายฝูงวัวลูกผสมชาโรเลส์เป็นเงินออม

คุณฉันทนา เล่าต่อไปว่า หลังจากที่เราเริ่มไปได้กับแพะ แกะ เราก็มามองว่าเรามีแปลงหญ้าอยู่เยอะทั้งหญ้าเนเปียร์ หญ้าแพงโกล่า อีกทั้งมีแรงงานที่เลี้ยงแพะ แกะอยู่แล้ว จึงสนใจและซื้อวัวเข้ามาเพิ่มเพราะคิดว่าวัวเนื้อก็มีตลาดรองรับอยู่เหมือนกัน” จากวันที่เริ่มต้นจะเลี้ยงวัวจนถึงวันนี้ 1 ปีกว่าๆ วันนี้ดอนดีฟาร์มมีแม่วัวลูกผสมชาโรเลส์อยู่ 11 ตัว

วัวลูกผสมชาโรเลส์เงินออมเดินได้

คุณสง่า บอกว่า จากวันที่ตกลงใจผมก็หาความรู้ หาข้อมูลเรื่องวัวไปเรื่อยๆ จากการถาม การอ่าน จนแน่ใจว่าวัวเนื้อลูกผสมยุโรปน่าจะเป็นคำตอบที่ดี ผมจึงตัดสินใจซื้อแม่วัวลูกผสมชาโรเลส์เข้ามาเรื่อยๆ โดยไปเลือกซื้อวัวจากแถวราชบุรีเข้ามาเก็บไว้ โดยตั้งเป้าว่าจะสร้างฝูงวัวลูกผสมชาโรเลส์เลือดไม่เกิน 75% มองว่าการเลี้ยงวัวก็เหมือนการเก็บเงิน ออมเงินไปทุกวัน แพะ แกะอาจจะเป็นเงินสดที่ซื้อขายได้เร็วได้เงินเร็ว แต่วัวต้องใช้เวลาเลี้ยงค่อยๆ ดูแลกันไปเหมือนเราเก็บเงินใส่ออมสินทุกวันระยะหนึ่งเราก็จะมีเงินออม

“แม่วัวทั้งหมดของดอนดีฟาร์มจะถูกเลี้ยงขังรวมกันในคอกที่มีพื้นที่กว้างขวางให้วัวเดินเล่นได้สบาย ผมเลี้ยงแบบขังเพราะไม่มีพื้นที่แปลงหญ้าให้วัวแทะเล็ม แปลงหญ้าที่มีก็ใช้ร่วมกันกับม้า แพะและแกะ ผมจึงต้องตัดหญ้ามาให้วัวกิน ในส่วนของอาหารข้นผมจะให้ข้าวโพดหมักยีสต์วันละประมาณ 150 กิโลกรัม (ต่อวัวประมาณ 20 ตัว) ในตอนเช้า หลังจากนั้นจะให้หญ้าเนเปียร์ โม่กับแพงโกล่า ในตอนกลางวันก็จะมีฟางใส่รางไว้ให้ แล้วจะให้หญ้าเนเปียร์โม่อีกครั้งตอนเย็น”

 เปิดฟาร์มทำแหล่งท่องเที่ยวทางเกษตรยังไปได้ดี

คุณฉันทนา เล่าถึงธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ทำอยู่ว่า เราเริ่มธุรกิจท่องเที่ยวเพราะใจรัก เราสองคนรวมทั้งญาติพี่น้องช่วยกันปรับปรุงมาจนวันนี้ดอนดีฟาร์มเริ่มเป็นที่รู้จัก เราพยายามเพิ่มเติมกิจกรรมต่างๆ เข้ามานอกจากกิจกรรมเรื่องสัตว์ อย่างป้อนนมลูกแกะ ขี่ม้า เรายังมีทั้งผักไฮโดรโปนิกส์ปลอดสารพิษ ร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบของเราเอง เรามีบ่อปลา เราเลี้ยงกบเพื่อเอามาทำเป็นอาหารสำหรับลูกค้า เลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ มีมะนาว มะละกอ เด็ดมาสดๆ ใช้ทำส้มตำเสิร์ฟลูกค้า ตอนเย็นๆ จะมีลูกค้าเป็นครอบครัวมานั่งเล่นในฟาร์มให้ลูกๆ วิ่งเล่น ขี่จักรยาน คุณพ่อคุณแม่ก็นั่งจิบกาแฟชมวิวกันไป วันนี้เราจึงขยับขยายมาได้เพราะการบอกต่อปากต่อปาก นอกจากนั้น เรายังออกร้านตามงานต่างๆ เอาผลผลิตของเราไปจำหน่าย เอาลูกแกะของเราไปให้เด็กๆ ป้อนนม เป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้มีคนรู้จักดอนดีฟาร์มของเรามากขึ้น

กิจกรรมหลากหลายในบรรยากาศดีๆ ที่ดอนดีฟาร์ม

ดอนดีฟาร์มแกะ มีวันนี้ได้เพราะไม่รอให้ล้ม

คุณสง่า บอกว่า ตอนนี้เราหันมาทำธุรกิจเกษตรหลายอย่าง ทั้งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ปศุสัตว์ ปลูกพืช รวมทั้งร้านอาหาร รายได้ก็มาจากทุกทางมากบ้างน้อยบ้างถัวๆ กันไป ทำให้เห็นว่าธุรกิจเกษตร การท่องเที่ยวเชิงเกษตรในบ้านเรายังไปได้ เศรษฐกิจพอเพียงตามคำสอนของพ่อยังไปได้ ผมบอกคนอื่นเสมอว่าจะไม่รอให้ธุรกิจล้ม ตัวเองล้มแล้วค่อยหันมาสนใจธุรกิจเกษตร ผมสนใจตั้งแต่ต้นเพื่อเดินตามทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียง วันนี้เห็นแล้วว่าเราไปได้จริง ในอนาคตผมตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะทำให้ที่นี่เป็นศูนย์เรียนรู้ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านธุรกิจเกษตร ด้านปศุสัตว์สำหรับคนที่สนใจ นักเรียน นักศึกษาได้เข้ามาเรียนรู้

ผักไฮโดรโปนิกส์ปลอดสาร พร้อมเสิร์ฟ

คุณสง่า เล่าต่อว่า กว่าจะมีวันนี้ได้ ดอนดีฟาร์มโดนหลอกมาเยอะ ผมลองผิดลองถูกเรื่องแพะ แกะมาเยอะ กว่าจะมีวันนี้ได้ก็โดนหลอกเรื่องพันธุ์ เรื่องตลาดมาไม่รู้เท่าไร ดังนั้น วันนี้หากใครต้องการความรู้ ต้องการพันธุ์แพะ แกะ ที่ให้ข้อมูลจริง ไม่หลอกลวงไม่ปิดบัง เข้ามาหาเราได้เลยไม่มีผิดหวัง

ใครสนใจอยากสอบถามหรืออยากไปเที่ยวชม ชิมอาหารอร่อยๆ สัมผัสบรรยากาศดีๆ ที่ ดอนดีฟาร์ม ติดต่อพูดคุยกับคุณฉันทนา ได้ที่โทร. (087) 509-9745 ครับ ฉบับนี้หมดพื้นที่แล้ว ขอลากันไปก่อน สวัสดีครับ