เผยแพร่ |
---|
หลายคนคงจะรู้จักหรือเคยได้ยินคำว่า “มูลไส้เดือน” แต่รู้หรือไม่ครับว่ากว่าจะมาเป็นไส้เดือนตัวเล็กและมูลไส้เดือนที่ว่างจำหน่ายนั้น เกษตรกรมีวิธีการเพาะเลี้ยงอย่างไร วันนี้จะพาไปหาคำตอบกันที่จังหวัดเพชรบุรีครับ
ไส้เดือนดิน เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง 1 ตัวจะมี 2 เพศครับ มีลักษณะลำตัวเป็นข้อปล้อง พบได้ทั่วไปในดิน โดยจะหากินอยู่ตามผิวดิน ทำให้ดินโปร่งร่วนซุย ไม่แน่นทึบและแข็ง เกิดการถ่ายเทอากาศภายในดินดีขึ้น เพิ่มช่องว่างในดิน และช่วยในการอุ้มน้ำของดินอีกด้วยล่ะครับ
คุณเดชาวัจน์ พันจันทร์โชติ เจ้าของฟาร์มไส้เดือน “ดีฟาร์ม”เผยว่า เมื่อก่อนทำงานที่กรุงเทพฯ แต่ชีวิตในเมืองไม่ลงตัว ตัดสินใจกลับบ้านและมาศึกษาการเกษตร ทำให้มาสดุดกับคำว่ามูลไส้เดือน ซึ่งรู้สึกว่า ถ้าธรรมชาติสมดุล ชีวิตก็จะสมดุลมาก เป็นจุดเริ่มต้นให้หันมาเลี้ยงไส้เดือน
ปัจจุบันการเพาะเลี้ยงไส้เดือนดิน มีวัตถุประสงค์หลายแบบครับ แต่สำหรับที่ ดีฟาร์มแห่งนี้จะเน้นเพาะเลี้ยงเพื่อผลิตมูลไส้เดือนจำหน่ายเป็นหลักครับ
สำหรับอุปกรณ์จะใช้กะละมังสีดำ เพราะราคาถูกและใช้พื้นที่ในการเลี้ยงน้อย โดยวัตถุดิบในการเลี้ยง คือ มูลวัวแห้ง แช่น้ำ 1-2 คืน ใส่กะละมังเจาะรูป้องกันน้ำแฉะ
ส่วนไส้เดือนดิน 1 กิโลกรัม จะแบ่งเลี้ยงในกะละมังได้ 4 ใบ ครับ โดยเฉลี่ย 1 ใบ จะใช้เงินลงทุนรวมค่าภาชนะ มูลวัว ค่าน้ำ ค่าไฟ ประมาณ 300 บาทต่อ 1 รอบการผลิตครับ
ผลิตภัณฑ์จากมูลไส้เดือนจะแบ่งจำหน่ายออกเป็น 2 แบบครับ คือ บรรจุถุงพลาสติกสีเขียว จำหน่ายในราคา 3 ถุง 100 บาท และบรรจุกระสอบ กระสอบละ 20 กิโลกรัม ราคา 300 บาท สามารถนำไปใช้ได้กับพืชทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นไม้ผล พืชผัก ไม้ดอกไม้ประดับ รวมถึงต้นไม้ชนิดอื่นๆ ครับ